บริษัท 3 เอ็ม (ประเทศไทย) จำกัด โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ฟีล์กรองแสง 3 เอม ร่วมกับ บริษัท แอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) จัดงานแถลงข่าว เปิดตัว ระบบประกันอัตโนมัติบนมือถือ (E-WARRANTY ON MOBILE) เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการบริการลูกค้าฟีล์มกรองแสง 3 เอม ด้วยนวัตกรรมใหม่ ใช้สมาร์ทซิมเสริมศักยภาพตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศให้สามารถส่งข้อมูลการับประกันฟีล์มให้ลูกค้าภายใต้คอนเซพท์ 3R

3 เอม ร่วม เอไอเอส เปิดตัว ระบบประกันอัตโนมัติบนมือถือ บริษัท 3 เอ็ม (ประเทศไทย) จำกัด โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ฟีล์กรองแสง 3 เอม ร่วมกับ บริษัท แอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) จัดงานแถลงข่าว เปิดตัว ระบบประกันอัตโนมัติบนมือถือ (E-WARRANTY ON MOBILE) เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการบริการลูกค้าฟีล์มกรองแสง 3 เอม ด้วยนวัตกรรมใหม่ ใช้สมาร์ทซิมเสริมศักยภาพตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศให้สามารถส่งข้อมูลการับประกันฟีล์มให้ลูกค้าภายใต้คอนเซพท์ 3R ประกอบด้วย RELIABLE ระบบที่พัฒนาขึ้นมาจะต้องมั่นใจว่าข้อมูลการรับประกันของลูกค้าจะลูกค้าจะส่งกลับมาเก็บที่ฐานของมูลโดยไม่สูญหาย เช่นเดียวกัน ระบบนี้ก็ต้องสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้กับลูกค้าในระบบการรับประกันใหม่ REACHABLE ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลการรับประกันของตนเองได้รวมทั้ง บริษัท 3 เอมฯ ก็สามารถเข้าถึงลูกค้าผ่านระบบฐานข้อมูลที่มี ซึ่งจะทำให้การสร้างกิจกรรมสัมพันธ์ หรือ CRM นอกจากนี้ในส่วนของตัวแทนจำหน่ายผู้ติดตั้งก็เข้าถึงระบบการรับประกันได้สะดวกไม่ว่าจะอยู่ที่ใดของประเทศ ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ และ REAL TIME ทันทีที่ร้านตัวแทนติดตั้งฟีล์มกรองแสง กดปุ่มส่งขอ้มูลการรับประกันผ่านโทรศัพท์มือถือ เอสเอมเอส ยืนยันการรับประกันก็ส่งถึงลูกค้าทันที การสร้างระบบรับประกันอัตโนมัติบนมือถือ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าข้อมูลการติดตั้งฟีล์มกรองแสงได้ส่งเข้าถึงฐานข้อมูของ บริษัท 3 เอมฯ และได้รับการรับประกันตลอดระยะเวลา 7 ปี กระทรวงพลังงาน เปิดนิทรรศการ อี 85 กระทรวงพลังงาน จัดนิทรรศการ อี 85 เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบิดาแห่งพลังงานทดแทนไทย เนื่องในวโรกาสทรงมีพระชมมายุครบ 84 พรรษา สำหรับการจัดนิทรรศการ อี 85 แบ่งออกเป็น 3 โซน คือ โซนที่ 1 เกี่ยวกับโครงการพระราชาดำริ และโครงการด้านพลังงานทดแทนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่ปี 2528 จนถึงปัจจุบัน โซนที่ 2 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนโยบายของกระทรวงพลังงาน โดยเฉพาะเรื่องของพลังงานทดแทน และโซนที่ 3 เป็นการให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับน้ำมัน อี 85 การส่งเสริมการใช้น้ำมัน อี 85 เป็นประโยชน์กับประเทศหลายประการ ทั้งในด้านช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจไทย ลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ ลดมลพิษและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ดังนั้น รัฐบาลจึงได้มีนโยบายส่งเสริมการใช้น้ำมันอี85 อย่างจริงจัง โดยเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2553 คณะรัฐมนตรีได้มีมติออกประกาศกระทรวงการคลังเพื่อลดการเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ อี 85 ลง 3 % เมื่อเทียบกับรถยนต์ อี20 ลดอากรขาเข้ารถยนต์สำเร็จรูปจาก 80 % เหลือ 60 % จำนวนไม่เกิน 2,000 คันเป็นเวลา 1 ปี ยกเว้นอากรขาเข้าชิ้นส่วนที่นำมาประกอบหรือใช้กับรถยนต์ อี 85 รวม 15 รายการ เป็นระยะเวลา 3 ปี ซึ่งปัจจุบันมีรถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศ 2 ยี่ห้อ ได้แก่ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอกซ์ และ โวลโว เอส 80 กูดเยียร์ จัดแข่งดริฟท์ นานาชาติ บริษัท กู๊ดเยียร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จัดการแข่งขัน “กูดเยียร์ ฟอร์มูลา ดริฟท์ ไทยแลนด์ 2010” นำนักแข่งดริฟท์จากทั่วทวีปเอเชีย มาโชว์ฝีมือ ณ สนามวันเดอร์ พาร์ค ถ. รามอินทรา โดยการแข่งขันครั้งนี้ เป็นการจัดครั้งที่ 2 สานต่อความสำเร็จจากครั้งที่แล้ว ที่ได้รับเสียงตอบรับอย่างท่วมท้น และเป็นการแข่งขันที่เข้มข้นเต็มรูปแบบ ซึ่งมีผู้ชมกว่า 5,000 คน และมีนักแข่งดริฟท์กว่า 60 คน จาก 8 ประเทศ เข้าร่วมชิงชัยในเกมดริฟท์ ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ทั้งในประเทศไทย และเอเชีย ครั้งนี้ถือเป็นการประชันฝีมือจากนักแข่งดริฟท์ชื่อดัง อาทิเช่น เรียวจิ มิกิ แชมพ์จากรายการ D1 GRAND PRIX และนักแข่งทีมกูดเยียร์ จากประเทศญี่ปุ่น หรือ ชนะพล เกิดเปี่ยม นักแข่งดริฟท์ชาวไทย ที่เป็นดาวรุ่งพุ่งแรง และนักแข่งทีมอื่นๆ อีกมากมาย นอกเหนือจากการสนับสนุนการแข่งขันแล้ว กูดเยียร์ ยังมุ่งมั่นพัฒนายางสมรรถนะสูงที่ช่วยให้นักแข่งโชว์ฝีมือ และศักยภาพของรถได้อย่างเต็มที่บนสนามแข่ง สำหรับทีมกูดเยียร์ ที่ลงแข่งขันครั้งนี้ ใช้ยางกูดเยียร์ อีเกิล เอฟ 1 อซิมเมทริค โตโยตา ฉลองการผลิตครบ 5 ล้านคัน บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จัดงานฉลองการผลิตรถยนต์ในประเทศไทย ครบ 5 ล้านคัน สำหรับ โตโยตา ได้เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2505 และนับจากปี 2507 ได้ก่อตั้งโรงงานประกอบรถยนต์แห่งแรกที่ ต. สำโรงใต้ อ. พระประแดง จ. สมุทรปราการ จนถึงปัจจุบันมีระยะเวลากว่า 48 ปี โตโยตา ได้ขยายการผลิตมีโรงงาน 3 แห่ง ได้แก่ โรงงาประกอบรถยนต์ จ. สมุทรปราการ โรงงานประกอบรถยนต์เกทเวย์ จ. ฉะเชิงเทรา และโรงงานประกอบรถยนต์ บ้านโพธิ์ จ. ฉะเชิงเทรา ทั้งนี้ บริษัท ฯ ตั้งเป้าในอีก 6-7 ปีข้างหน้า จะผลิตรถยนต์รวมได้อีกไม่น้อยกว่า 5 ล้านคัน ซึ่งทำให้ โตโยตา ครองอันดับ 1 ในตลาดผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ในไทย โดยปัจจัยที่จะกระตุ้นให้การผลิตรถยนต์เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ คือ โตโยตา ได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ทั้งรถยนต์พลังงานทางเลือก และรถรุ่นใหม่ๆ โดยใช้โรงงานในไทยเป็นฐานการผลิต เช่น โตโยตา แคมรี โตโยตา ปรีอุส เป็นต้น รวมไปถึงรถยนต์ประหยัดพลังงาน หรืออีโคคาร์ ที่จะเปิดตัวภายใน 2 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเครือข่ายการผลิตของ โตโยตา สามารถทำการผลิตได้ถึงกว่า 600,000 คัน/ปี ซึ่งความคืบหน้าการขยายการลงทุนเพิ่มการผลิต ต้องพิจารณาถึงสภาวะเศรษฐกิจโดยรวม และปริมาณการส่งออกว่าจะมีการขยายตัวไปในทิศทางใด ซึ่ง โตโยตา มีความพร้อมหากสถานการณ์เอื้ออำนวย เพราะในส่วนของโรงงานบ้านโพธิ์ จ. ฉะเชิงเทรา มีพื้นที่ 1,600 ไร่ แต่ปัจจุบันใช้ไปแค่ 500 ไร่เท่านั้น ยังสามารถที่จะขยายพื้นที่ได้อีกมาก บริดจ์สโตน จับรางวัล ครั้งที่ 1 บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารศูนย์บริการยางรถยนต์ คอคพิท และออโทบอย จัดรายการส่งเสริมการขาย ลุ้น...ทองคำ 154 เส้น และของรางวัลอื่นๆ เมื่อซื้อยาง บริดจ์สโตน หรือไฟร์สโตน 4 เส้น ทุกรุ่น ทุกขนาด ที่ศูนย์บริการ คอคพิท และออโทบอย ระหว่างวันที่ 16 ตุลาคม-31 ธันวาคม 2553 สำหรับการจับรางวัล แบ่งเป็นลูกค้าซื้อยางวันที่ 16 ตุลาคม–15 พฤศจิกายน 2553 จับรางวัลครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2553 ที่ผ่านมา ปัจจุบัน คอคพิท และออโทบอย มีเครือข่ายให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ โดยคอคพิท มี 136 สาขา และ ออโตบอย มี 71 สาขา โดยให้บริการยางรถยนต์ และจัดจำหน่ายสินค้าหลากหลายประเภท เช่น ยางรถยนต์ ล้อแมก ชอคอับ ผ้าเบรค น้ำมันเครื่อง ลมไนโตรเจน ทั้งนี้ ในส่วนยางรถยนต์ที่จำหน่ายโดย คอคพิท และออโตบอย ถือได้ว่าเป็นศูนย์บริการยางรถยนต์ที่มีความเชี่ยวชาญมากที่สุด ตลอดจนมีสินค้าให้เลือกตามประเภทรถยนต์ ตลอดจนตามลักษณะการใช้งานหรือการขับขี่ และครอบคลุมรถยนต์ในตลาดทุกรุ่น นอกเหนือจากการให้บริการที่ดีของศูนย์บริการยางรถยนต์ คอคพิท และออโตบอย ยังมีพโรโมชันพิเศษ สำหรับผู้ใช้รถยนต์อย่างต่อเนื่อง มิตซูบิชิ ลงทุนขยายโรงงานแห่งที่ 3 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์พอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น (เอมเอมซี) จัดพิธีวางศิลาฤกษ์โรงงานประกอบรถยนต์ใหม่แห่งที่ 3 ใช้เงินลงทุน 16,000 ล้านบาท สำหรับ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ณ นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จ. ชลบุรี โรงงานประกอบรถยนต์แห่งที่ 3 จะเริ่มดำเนินการผลิตได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 โดยจะทำการผลิตรถยนต์ขนาดเล็ก มีเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.0-1.2 ลิตร ซึ่ง มีแผนที่จะวางจำหน่ายในปีงบประมาณ 2554 มีราคาอยู่ที่ประมาณ 400,000 บาท สำหรับการผลิตในช่วงแรกของโรงงานแห่งที่ 3 นี้ จะมีกำลังการผลิตเบื้องต้นอยู่ที่ 150,000 คัน/ปี และในอนาคตสามารถที่จะขยายเพิ่มได้ถึง 200,000 คัน/ปี หากรวมการผลิตของโรงงานเดิมจะทำให้มิตซูบิชิ ในไทยมีกำลังการผลิตรวมเป็น 400,000 คัน โดยจะเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก รถยนต์ขนาดเล็กรุ่นใหม่ที่จะผลิตในโรงงานแห่งใหม่นี้ จะได้รับการออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมดโดยทีมงานของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์พอเรชัน ภายใต้แนวคิด กะทัดรัด สามารถเป็นเจ้าของได้ง่าย และประหยัดพลังงาน ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในตลาดโลกของ มิตซูบิชิ โดยรถขนาดเล็กรุ่นนี้ เรียกว่า GLOBAL SMALL โดยรถต้นแบบจะเปิดตัวในงาน มหกรรมยานยนต์เจนีวา ปีนี้ ส่วนฐานการผลิตนอกจากประเทศไทยแล้ว ยังศึกษาประเทศจีน อินเดีย และบราซิล ซึ่งอาจจะลงทุนในประเทศใดประเทศหนึ่ง ยูเนี่ยน ออโต้ เอ็กเพิร์ท ฯ เปิดโชว์รูม พร้อมศูนย์บริการ บริษัท ยูเนี่ยน ออโต้ เอ็กเพิร์ท จำกัด ผู้นำเข้าอิสระ จัดงาน”AUTO X WE SERVED YOUR NEEDS GRAND OPENING PARTY” เปิดโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการอย่างเป็นทางการ สำหรับ AUTO-X ในเบื้องต้นลงทุน 100 ล้านบาท เน้นจุดเด่นที่การบริการ ผู้บริหารดูแลลูกค้าด้วยตัวเอง ทำให้ทราบถึงความต้องการของลูกค้า สามารถปรับปรุงการบริการ และเลือกนำเข้าสินค้าตรงกับความต้องการของตลาด ปัจจุบันนำรถจากญี่ปุ่น ยุโรป รวมถึงรถซูเพอร์คาร์ เข้ามาจำหน่าย AUTO-X มีเป้าหมายที่ต้องการอยู่ในธุรกิจนำเข้ารถยนต์ และหาสิ่งใหม่ให้แก่ลูกค้า รวมถึงขยายฐานลูกค้าให้กว้างขวางขึ้น นอกจากนี้ยังมีแผนขยายสาขาเพิ่มเพื่อให้บริการลูกค้าได้ทั่วถึง ปีนี้บริษัท ฯ ตั้งเป้าจะมียอดขายรวมประมาณ 30-50 คัน ส่วนเป้าหมายในอนาคต ตั้งเป้ามียอดขายปีละ 100 คัน เมื่อบรรลุเป้าหมาย บริษัท ฯ จะเริ่มขยายสาขาต่อไป โดยการบริการต้องมีมาตรฐานเดียวกัน ปัจจุบันผู้นำเข้ารถยนต์อิสระรายใหม่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดการแข่งขันกันอย่างรุนแรง แต่บริษัท ฯ มองว่าจะเป็นผลประโยชน์ที่ดีแก่ลูกค้า ที่สามารถเลือกใช้บริการได้หลากหลาย เพราะสินค้าเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าจะบริการลูกค้าได้ดีแค่ไหน และสามารถอยู่ในใจลูกค้าได้หรือไม่ แต่สิ่งสำคัญลูกค้าต้องมีความมั่นใจในเรื่องการบริการ เมื่อขายสินค้าแล้วก็ต้องดูแลลูกค้า ไม่ใช่แค่อายุการรับประกัน แต่เป็นอายุการใช้งาน เมื่อลูกค้ามั่นใจ ก็จะกลับมาใช้บริการใหม่ ลามินา ฉลองยอดขายทะลุ 500 ล้านบาท บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟีล์มกรองแสงรถยนต์และอาคาร ลามินา และฟีล์มกลุ่มพิเศษ ลูมาร์ จัดงานฉลองยอดขายทะลุ 500 ล้านบาท ในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27” จากความสำเร็จในการทำตลาดฟีล์มกรองแสง ลามีนา ในปี 2553 บริษัท ฯ สามารถมียอดขายทะลุ 500 ล้านบาท ซึ่งมีผลจากสภาพเศรษฐกิจเติบโตเพิ่มขึ้น ร่วมถึงอุตสาหกรรมรถยนต์เติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับที่ผ่านมาผู้บริโภคมีความเข้าใจมากขึ้น ถึงความแตกต่างระหว่างฟีล์มกรองแสงคุณภาพดี และฟีล์มกรองแสงด้อยคุณภาพ ซึ่ง ลามินา ยังเป็นผู้นำในด้านการยืนหยัดในการให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ผู้บริโภค นับตั้งแต่การทำธุรกิจมาตลอด 15 ปี นอกจากนี้ ลามินา ยังได้แนะนำ ฟีล์มกรองแสงรุ่นใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ แอล 05 ดิจิทอล ซีทีเอกซ์ มีค่าแสงส่องผ่าน 5 % ค่าการลดความร้อนจากแสงแดด 60 % ลดรังสียูวี 99 % และมีค่าการสะท้อนแสงเพียง 8 % ส่วนอีกรุ่นหนึ่ง คือ แอล 15 ดิจิทอล ซีทีเอกซ์ จะแตกต่างที่ค่าแสงส่องผ่านที่เพิ่มเป็น 17 % และค่าการลดความร้อนจากแสงแดดที่ 55 % ทั้งนี้ ฟีล์มกรองแสง ดิจิทอล ซีทีเอกซ์ จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งของฟีล์มในกลุ่มสเปเชียลซีรีส์ของบริษัท ฯ โดยมีราคาจำหน่ายพร้อมติดตั้งทั้งคันตั้งแต่ 12,000 บาทขึ้นไป พร้อมกันนี้ยังฉลองการได้รับรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม ประจำปี 2553 (TAQA AWARD 2010) ด้านผลิตภัณฑ์ประกอบการใช้รถยนต์ ประเภทฟีล์มกรองแสง เลอ รา เรย์ ฯ ฉลองยอดขาย 5 ล้านกล่อง ทั่วโลก บริษัท เลอ รา เรย์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ดูแลรักษารถยนต์ โทเทิล แวกซ์ จากสหรัฐอเมริกา จัดงานฉลองยอดขายทะลุ 5 ล้านกล่องทั่วโลก ผลิตภัณฑ์เคลือบสี TURTLE WAX BLACK BOX สำหรับการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ได้ร่วมกับ ห้างสรรพสินค้าเซนทรัล จัดกิจกรรมให้ความรู้และเคล็บลับสำหรับดูแลรักษารถสีดำ พร้อมกิจกรรมสันทนาการแก่ลูกค้า นอกจากนี้ยังได้แนะนำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เคลือนสีเฉพาะรถสีดำ TURTLE WAX BLACK BOX ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ 3 ชนิด คือ 1.ผลิตภัณฑ์ดูแลสภาพสี (BLACK PRE-WAX CLEANER) ฟื้นฟูสีรถให้กลับมาอยู่ในสภาพเหมือนใหม่ ไร้รอยริ้วของขนแมวหรือริ้วรอยที่เป็นวงกลม ๆ เมื่อส่องกับแสงแดด 2.ผลิตภัณฑ์เคลือบสีคาร์นอบาร์แวกซ์ (BLACK CARNAUBA BLEND WAX) ทีเพิ่มความดำขลับด้วยสีดำของเนื้อแวกซ์ที่ขับให้ผิวสีดำของรถเปล่งประกายดำเข้มขึ้นอีก พร้อมสารป้องกันจากแสงยูวีช่วยรักษาและเสริมประกายของเนื้อสี 3.ผลิตภัณฑ์หล่อลื่นและทำความสะอาดพร้อมแวกซ์ (BLACK SPRAY DETAILER) ที่ช่วยให้การทำงานตามขั้นตอนของผลิตภัณฑ์ดูแลสภาพสี และเคลือบสีคาร์นอบาร์แวกซ์ ง่ายขึ้น สะอาด พร้อมเสริมประกายเงางามป้องกันริ้วรอยที่เป็นวงกลม สามมิตร กรีนพาวเวอร์ ฯ เปิดตัวรถรุ่นใหม่ บริษัท สามมิตร กรีนพาวเวอร์ จำกัด ผู้ให้บริการดัดแปลง และติดตั้งเครื่องยนต์ เอนจีวี จัดงานแถลงข่าว เปิดตัวรถรุ่นใหม่ในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27” สำหรับการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ครั้งนี้ บริษัท ฯ ได้เปิดตัวถึง 3 รุ่น คือ SMART FAMILY รถที่ออกแบบเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์แบบครอบครัว ภายใต้แนวคิด "สำหรับครอบครัวที่มุ่งเน้นความคุ้มค่าในการใช้ชีวิต" ที่ออกแบบเพิ่มเติมจากพื้นฐานของ SGP CNG PICK UP มาพร้อมกับโครงสร้างหลังคาเหล็กสามมิตร รุ่น SUV-PLUS 4 รุ่น SMART FAMILY CAB และ DOUBLE CAB มีให้เลือกหลากหลายรุ่น พร้อมรุ่นพิเศษ ฟูลล์ออพชัน ที่มีอุปกรณ์เพิ่มเติมต่างๆ ส่วนรุ่นสุดท้าย คือ KHANKLUAY CNG เครื่องยนต์ 2.7 วีวีที-ไอ ติดตั้งอุปกรณ์ซีเอนจี ทั้งระบบ ซึ่งได้ทำการวิเคราะห์และพัฒนาการออกแบบมากกว่า 2 ปี โดยกระบะท้ายได้รับการออกแบบตอบสนองความต้องการงานบรรทุกที่ต้องการพื้นที่มากเป็นพิเศษ เพิ่มปริมาตรการบรรทุกได้มากขึ้นกว่ากระบะทั่วไป พื้นที่กว้าง 1,760 มม. ยาว 2,500 มม. นอกจากนี้ยังมีถังแกส 3 ถังติดตั้งไว้ด้านล่างกระบะ โดยประกอบตามมาตรฐาน โออีเอม มั่นใจด้านความปลอดภัย และประหยัดด้านต้นทุนเชื้อเพลิง พร้อมออพชัน โครงเหล็กเสริมกระบะข้าง และลิฟเตอร์ ช่วยในการขนเคลื่อนย้ายสิ่งของ อีซูซุ จัด THAI FIGHT รอบชิงชนะเลิศ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด จัดการแข่งขันศึกมวยไทยนานาชาติ “THAI FIGHT” รอบชิงชนะเลิศ ณ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ. นครราชสีมา การแข่งขัน “THAI FIGHT” มีนักมวยไทยจาก 16 ประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน โดยการแข่งขันแบ่งออกเป็นรอบคัดเลือก 2 ครั้ง จนเหลือ 8 คน เข้าสู่รอบรองชนะเลิศและชิงชนะเลิศ ได้แก่ เพชรมั่นคง เพชรฟอร์กัส กับ ฟาบิโอ พินคา และโชอิจิโร มิยาโคชิ กับ ยูเซฟ บูกาเนม และผลการแข่งขัน เพชรมั่นคง เพชรฟอร์กัส พ่ายแก่ ฟาบิโอ พินคา และโชอิจิโร มิยาโคชิ พ่ายแก่ ยูเซฟ บูกาเนม ทำให้คู่ชิงชนะเลิศในศึก “THAI FIGHT” ได้แก่ ฟาบิโอ พินคา และยูเซฟ บูกาเนม เมื่อแกร่งปะทะแกร่ง ทำให้ศึกครั้งนี้ เดือดพล่าน แต่ด้วยลีลามวยไทยในสไตล์มวยหมัดหนักของ ฟาบิโอ พินคา ที่ลุยชกเก็บคะแนนคู่ต่อสู้ตลอด 3 ยก ทำให้คว้าแชมพ์คนแรกของศึก “THAI FIGHT” ในที่สุด รับรางวัลเงินสด 2,000,000 บาท และรถ อีซูซุ ดี-แมกซ์ เอกซ์-ซีรีส์ ไปครอง ส่วนรางวัลที่ 2 ยูเซฟ บูกาเนม รับเงินสด 1,000,000 บาท รางวัลที่ 3 โชอิจิโร มิยาโคชิ รับเงินสด 300,000 บาท และเพชรมั่นคง เพชรฟอร์กัส รับเงินสด 200,000 บาท พร้อมกันนี้ ร่วมติดตามการแข่งขันศึก อีซูซุ คัพ ครั้งที่ 21 เพื่อลุ้นว่านักชกคนใดจะได้เป็นแชมพ์ ซึ่งจะเป็นตัวแทนประเทศไทยร่วมการแข่งขันศึกมวยไทยนานาชาติ “THAI FIGHT” ในปีหน้า เอฟบี แบทเตอรี จัดงานฉลอง 10 ปี บริษัท สยามฟูรูกาวา จำกัด และบริษัท สยามฟูรูกาวาเทรดดิ้ง จำกัด จัดงานฉลองครบรอบ 10 ปี เอฟบี ไฮบริด แบทเตอรี เอฟบี เป็นบริษัทแรกที่ผลิตแบทเตอรี รุ่น ไฮบริด ตลอดระยะเวลา 10 ปี ถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค ปี 2554 บริษัท ฯ ได้ทุ่มงบประมาณการโฆษณาและประชาสัมพันธ์เพื่อทำการสื่อสารทางการตลาดสู่กลุ่มเป้าหมายมากขึ้น เน้นการสื่อสาร สื่อถึงความเชื่อมั่นด้านคุณภาพ และการบริการโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก นอกจากนี้ บริษัท ฯ ยังเตรียมแผนลงทุนเพิ่มอีกเกือบ 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนต่อเนื่องจากปี 2553 เพื่อเป็นการขยายกำลังการผลิต ในส่วนของ แบทเตอรีรถยนต์ จากปีละ 2 ล้านลูกเป็น 2.3 ล้านลูกโดยเป็นไปตามสภาพตลาดรถยนต์ที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วน แบทเตอรีรถจักรยานยนต์ มีกำลังการผลิตปีละ 1.8 ล้านลูก นอกจากนี้ยังมีแผนขยาย ร้านเอฟบี โพรชอป เพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันมีอยู่ 40 แห่ง จากร้านตัวแทนจำหน่ายที่มีอยู่ประมาณ 400 แห่งทั่วประเทศ ส่วนยอดขายในปี 2553 บริษัท ฯ มียอดขาย 3,200 ล้านบาท และในปี 2554 ตั้งเป้าจะมียอดขายเพิ่มเป็น 3,400-3,500 ล้านบาท สำหรับการแนะนำผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ปีนี้จะมีแต่เน้นการพัฒนาสินค้ารุ่นต่างๆ ให้มีเทคโนโลยี และความคุ้มค่าสำหรับการใช้งานให้มากที่สุด พร้อมมุ่งเน้นการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในตลาดทดแทน จากเดิม 18-20 % จากตลาดรวมประมาณ 4-5 ล้านลูก