X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
รถใหม่
15 Oct 2010
เปิดตำนานรถไฟฟ้าซูเพอร์สปอร์ท
ในอดีตเรามีรถยนต์ให้เลือกใช้เพียง 2 แบบ คือ รถที่ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน กับรถที่ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล แต่ทุกวันนี้ผู้คนบนพื้นผิวโลกมีรถให้เลือกใช้อย่างหลากหลาย เรามีรถที่ใช้แกสธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง เรามีรถที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริด และเรายังมีรถที่วิ่งด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ เชื่อกันโดยทั่วไปว่า อนาคตของรถยนต์โลก คือ รถไฟฟ้า แม้ว่ารถไฟฟ้าที่ใช้กันอยู่ขณะนี้ และที่จะมีให้ใช้ในอนาคตอันใกล้ ยังมีปัญหาอยู่มากในเรื่องแบทเตอรี ซึ่งยังมีราคาแพง และการประจุไฟแต่ละครั้งยังให้พลังงานที่หนำใจไม่พอ การประจุไฟแต่ละครั้งใช้เวลานานหลายนาที หรือหลายชั่วโมง แต่รถวิ่งได้ไกลไม่กี่ 10 กิโลเมตร บรรดาเกจิอาจารย์บางคนจึงให้ความเห็นว่า อนาคตของรถไฟฟ้าขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีแบทเตอรี ที่จำเป็นต้องมีพัฒนาการอย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า MAJOR BREAKTHROUGH ไม่อย่างนั้นรถไฟฟ้าก็คงไปไม่ถึงไหน อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ บางรายที่กล้าพยากรณ์ว่า 10 ปี นับแต่นี้ คือ ในปี 2020 ร้อยละ 10 ของรถใหม่ที่ขายให้แก่ผู้ใช้รถ จะเป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆเดือนนี้ "ระเบียงรถใหม่" นำเรื่องราวของรถไฟฟ้ามาเล่าสู่กันฟังรวม 9 แบบ มีทั้งรถสัญชาติยุโรป รถอเมริกัน และรถจากเมืองยุ่น มีทั้งรถที่ออกจำหน่ายแล้ว รถที่กำลังรอวันออกตลาด และที่ยังเป็นเพียงรถแนวคิด โดยเริ่มกันที่ เมร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอลเอส เอเอมจี อี-เซลล์ (MERCEDES-BENZ SLS AMG E-CELL) รถสปอร์ทซูเพอร์คาร์ ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนา และไม่น่าเชื่อว่าจะวิ่งได้ด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆพัฒนาจากรถ เมร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอลเอส เอเอมจี (MERCEDES-BENZ SLS AMG) ซึ่งเพิ่งอวดตัวต่อสายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรกที่งานมหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ทครั้งล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม 2009 และ "ระเบียงรถใหม่" เสนอรายละเอียดไปแล้วในฉบับเดือนมกราคม 2010 ตัวถังอลูมิเนียมประตูปีกนก ยาว 4.650 ม. กว้าง 1.940 ม. สูง 1.260 ม. ซึ่งหนัก 1,995 กก. และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.36 มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรายละเอียดในบางจุด เช่น ช่องดักลมตรงสีข้างทั้ง 2 ด้าน ที่ออกแบบขึ้นใหม่ กระทะล้อที่มีคุณสมบัติทางด้านอากาศพลศาสตร์ดีกว่าเดิม และใต้ท้องรถที่ราบเรียบเพื่อลดแรงต้านของลม การเปลี่ยนแปลงซึ่งเป็นสาระสำคัญและไม่อาจเห็นได้ด้วยตาหากไม่เปิดฝากระโปรงหน้าขึ้นก่อน คือ การเปลี่ยนหน่วยพลังขับเคลื่อน จากการขับเคลื่อนล้อหลัง ด้วยพลังของเครื่องยนต์ DOHC วี 8 สูบ 5,439 ซีซี 571 แรงม้า ถ่ายทอดกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ คลัทช์ 7 จังหวะ เป็นการขับเคลื่อนทุกล้อด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ระบบขับด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่สำนัก เอเอมจี (AMG) ของค่าย "ดาวสามแฉก" ออกแบบและพัฒนาเพื่อใช้กับรถสปอร์ทซูเพอร์คาร์แบบนี้ ไม่ได้ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเพียงชุดเดียว แต่ใช้ถึง 4 ชุด โดยติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าแต่ละชุด ซึ่งมีรอบหมุนสูงสุด 12,000 รตน. ไว้ใกล้ๆ แต่ละล้อ ได้กำลังรวมสูงสุด 392 กิโลวัตต์ หรือ 533 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 880 นิวตันเมตร หรือ 89.9 กก.-ม. กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ว่านี้ส่งทอดสู่ล้อทั้ง 4 ผ่านระบบส่งกำลัง 2 ชุด ชุดหนึ่งขับเพลาหน้า อีกชุดขับเพลาหลัง ส่วนแบทเตอรีที่ใช้เป็นแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน (LITHIUM-ION) ขนาด 48 กิโลวัตต์ชั่วโมง/40 แอมป์ชั่วโมง ซึ่งประกอบด้วย ลิเธียม-ไอออน โพลีเมอร์ (LITHIUM-ION POLYMER) จำนวน 324 เซลล์ มีน้ำหนักตัว 450 กก. สามารถให้กำลังสูงสุด 480 กิโลวัตต์ หรือ 653 แรงม้า และติดตั้งอยู่ในตำแหน่งเดิมของถังน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าย "ดาวสามแฉก" ไม่ได้ให้ตัวเลขเกี่ยวกับเวลาที่ใช้ในการประจุไฟเข้าสู่แบทเตอรี และพิสัยการเดินทาง แต่ให้ตัวเลขด้านสมรรถนะความเร็ว โดยระบุว่า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 4.0 วินาที คือ ช้ากว่ารถเบนซินซึ่งทำได้ใน 3.8 วินาทีแค่พริบตา ส่วนความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม. ด้วยเหตุผลความปลอดภัย คงมีการพัฒนาต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง ก่อนถึงวันออกตลาด ซึ่งกำหนดไว้แล้วว่าเป็นตอนปลายปี 2012 สนนราคาค่าตัวก็ยังไม่มีการระบุ แต่เชื่อได้เลยว่า ต้องสูงกว่ารถรุ่นสามัญ ซึ่งมีค่าตัวในเยอรมนี คือ 177,300 ยูโร หรือประมาณ 7.45 ล้านบาทไทย
อ่านต่อ
เรื่องโดย : ชูศักดิ์ ชมจินดา/บริษัทผู้ผลิต formula@autoinfo.co.th
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2553
คอลัมน์ Online : รถใหม่
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://www.autoinfo.co.th/archive/29059
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th