ทิศทางโลกยานยนต์ยุคใหม่

บรรดาค่ายรถยนต์หลายแห่ง ตั้งหน้าตั้งตาพัฒนารถพลังงานไฟฟ้า (EV: ELECTRIC VEHICLE) กันอย่างจริงจัง แต่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นรถแนวคิด หรือรถที่ยังไม่จำหน่ายในวงกว้าง แม้จะมีค่ายรถหน้าใหม่ ชื่อว่า เทสลา (TESLA) สามารถผลิตรถสปอร์ทแบบโรดสเตอร์ พลังงานไฟฟ้า จนเป็นกระแสฮือฮา ทว่าราคาขายที่สูงถึง 128,500 เหรียญสหรัฐ ฯ (ประมาณ 4,240,500 บาท) ทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าไม่ถึง ขณะที่รถพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตโดยค่ายรถยนต์อิสระจากอินเดีย รีวา ไอ (REVA I) ก็มีขนาดตัวถังที่เล็กมากจนบางประเทศไม่นับว่าเป็นรถยนต์นั่งเสียด้วยซ้ำ ความหวังของ EV เพื่อประชาชน ล่วงเข้าสู่ปี 2553 รถยนต์พลังงานไฟฟ้าดูมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อ นิสสัน เปิดตัว ลีฟ (LEAF) รถแฮทช์แบค 5 ประตู มิติตัวถังความยาว 4,445 มม. กว้าง 1,770 มม. สูง 1,550 มม. และระยะฐานล้อ 2,700 มม. ซึ่งเทียบได้กับ ฮอนดา ซีวิค หรือ โตโยตา โคโรลลา เลยทีเดียว แบทเตอรีที่ใช้เป็นแบบลิเธียม-ไอออน ส่งกำลังไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 107 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุด 28.6 กก.-ม. มากกว่าเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตรด้วยซ้ำ เมื่อชาร์จไฟเต็มแล้วสามารถแล่นได้เป็นระยะทางประมาณ 160 กม. หากแบทเตอรีหมด สามารถชาร์จกลับจนเต็มได้ภายใน 8 ชม. (ระบบไฟฟ้า 200 โวลท์ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา) ทำความเร็วสูงสุดถึง 140 กม./ชม. นิสสัน เคาะราคาขายในสหรัฐอเมริกา เริ่มต้นที่ 25,280 เหรียญสหรัฐ ฯ (ประมาณ 834,240 บาท) เท่านั้น ผลคือ มียอดจองถล่มทลายถึง 19,000 ราย เกินกว่ากำลังการผลิต 12,000 คัน/ปี พูดง่ายๆ ว่าถ้าใครอยากได้รถพลังงานไฟฟ้ารุ่นนี้ไปครอบครอง ต้องต่อคิวกันถึงปีหน้าเลยทีเดียว ! ยักษ์ใหญ่ไม่อาจอยู่เฉย เมื่อยักษ์รองจากญี่ปุ่นชิงเปิดฉากลุยตลาดรถพลังงานไฟฟ้าก่อนใคร ค่ายอื่นๆ ก็ไม่อาจอยู่เฉยได้ โดยเฉพาะยักษ์ใหญ่คู่ปรับอย่าง โตโยตา ซึ่งเคยแสดงรถแนวคิดพลังงานไฟฟ้า เอฟที-อีวี 2 (FT-EV II) ล้ำหน้าด้วยระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ (AUTO-PILOT) ล่าสุด โตโยตา ได้เข้าซื้อหุ้นบางส่วนของบริษัท เทสลา คิดเป็นมูลค่าถึง 50 ล้าน เหรียญสหรัฐ ฯ เพื่อให้รถพลังงานไฟฟ้ารุ่นทำตลาดจริงรุ่นแรกของ โตโยตา ถือกำเนิดเร็วที่สุด ด้าน จีเอม (GM) หนึ่งในค่ายรถหัวเรือใหญ่จากสหรัฐอเมริกา ได้เปิดตัวรถแนวคิดเพื่อต่อยอดจากตัวถังซีดาน โวลท์ เอมพีวี 5 (VOLT MPV 5) ในงานมหกรรมยานยนต์ปักกิ่งที่เพิ่งผ่านพ้นไป รูปทรงบึกบึนแบบรถข้ามสายพันธุ์ (CROSSOVER) เน้นพื้นที่ใช้สอย ชาร์จแบทเตอรีเต็ม จะวิ่งได้ระยะทาง 482 กม. ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. อย่างไรก็ตาม โวลท์ รุ่นทำตลาดจริงในปี 2554 จะเป็นตัวถังซีดาน พร้อมระบบขับเคลื่อนพันทางแบบไฮบริดต่อพ่วง (PLUG IN-HYBRID) ขณะที่รถในเครืออีกยี่ห้อ คือ โอเพล ก็มีรถซีดานพลังงานไฟฟ้า อัมเพรา (AMPERA) กำหนดทำตลาดปีหน้า ค่ายรถจากแดนภารตะที่กำลังโตวันโตคืนอย่าง ทาทา (TATA) นำ นาโน (NANO) รถนาครที่สร้างกระแสด้วยราคาย่อมเยา มาพัฒนาเป็น นาโน อีวี (NANO EV) เผยโฉมในงานมหกรรมยานยนต์เจนีวา เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ชูจุดเด่นด้านอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 10 วินาที และแบทเตอรีมีระยะทำการ 160 กม. คาดว่าจะเป็นหัวหอกในการทำตลาดทั่วโลกของรถพลังงานไฟฟ้าจาก ทาทา ในปี 2555 EV เน้นความทนทาน ข้ามฟากมายุโรปบ้าง ขณะที่ค่ายอื่นๆ นำเสนอรถพลังงานไฟฟ้าในลักษณะของรถยนต์นั่งส่วนบุคคล แต่ โฟล์คสวาเกน กลับมีแนวคิดรถแทกซียุคหน้า สำหรับเมืองใหญ่ในยุโรปกับ เบร์ลิน แทกซี คอนเซพท์ (BERLIN TAXI CONCEPT) แสดงให้เห็นว่ารถพลังงานไฟฟ้ามีความทนทาน และสามารถวิ่งเป็นระยะทางไกลได้อย่างต่อเนื่อง แม้ในสภาพการจราจรที่ติดขัด ซึ่งทาง โฟล์คสวาเกน มีแผนจะทำตลาดรถพลังงานไฟฟ้าในอีก 3 ปีข้างหน้า ด้วยรถยนต์ที่อยู่ในสายการผลิตเดิมอย่าง กอล์ฟ และเจททา โดยจะมีรหัสต่อท้ายว่า บลู-อี-โมชัน (BLUE-E-MOTION) EV ระดับซูเพอร์คาร์ คอรถสปอร์ทไม่ต้องกังวลว่าชีวิตจะขาดสีสันจากความแรง เพราะ เอาดี ได้พัฒนาสปอร์ทระดับ ซูเพอร์คาร์ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนๆ มีชื่อว่า อาร์ 8 อี-ทรอน (R8 E-TRON) ชดเชยเครื่องยนต์แรงม้าสูงด้วย มอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 4 ตัว ติดตั้งที่ล้อทุกตำแหน่ง แรงบิดสูงสุดรวมกันแล้วจะมากมหาศาลถึง 458.6 กก.-ม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.8 วินาที แม้ความเร็วสูงสุดยังไม่มากนักที่ 200 กม./ชม. ผลิตจำนวนจำกัดแค่ 1,000 คัน หลังจากนั้น เอาดี ถึงจะเปิดตัวสปอร์ทพลังไฟฟ้าขนาดย่อมลงมา อย่าง อาร์ 4 อี-ทรอน และแฮทช์แบคขนาดเล็ก เอ 1 อี-ทรอน หนทางสดใส แต่จุดหมายยังอีกไกล ยังมีค่ายรถอีกหลายแห่งที่มีการพัฒนารถพลังงานไฟฟ้าอย่างจริงจัง และผลักดันเพื่อการจำหน่ายสำหรับประชาชนทั่วไป ด้วยเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ไฟฟ้าที่ล้ำหน้าขึ้น ทำให้สามารถใช้งานในชีวิตจริงไม่แพ้เครื่องยนต์สันดาปภายใน สิ่งสำคัญ คือ ระบบสาธารณูปโภคสำหรับชาร์จกระแสไฟฟ้าต้องมีเพียงพอ เพราะถึงจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมขนาดไหน คงไม่มีใครอยากเสียเวลาชาร์จไฟหลายชั่วโมงในแต่ละวัน หรือเสี่ยงต่อการเจอเหตุการณ์แบทเตอรีหมดระหว่างทาง สำนักออกแบบอิสระขอแจม สำนักออกแบบ ปินินฟารีนา มีผลงานการออกแบบระดับ มาสเตอร์พีศ มากมาย โดยเฉพาะกับรถสปอร์ทของค่ายม้าลำพอง แฟร์รารี เฉลิมฉลองการก่อตั้งบริษัทครบ 80 ปี ด้วยแนวคิดรถนาคร พลังงานไฟฟ้า นีโด อีวี (NIDO EV) อัตราเร่งทันใจ 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.7 วินาที ในอนาคตมีโครงการที่จะผลิตตัวถังแบบมีนีแวนอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีสำนักออกแบบของ กอร์ดอน เมอร์เรย์ (GORDON MURRAY DESIGN) อดีตหัวหน้าทีมออกแบบของซูเพอร์คาร์ระดับตำนานอย่าง แมคลาเรน เอฟ 1 (McLAREN F1) นำเสนอรถนาครพลังงานไฟฟ้าที่จะผลิตจริงในปีหน้ากับ ที.27 (T.27) ค่าไอเสียที่ต่ำเพียง 48 กรัม/กม. ซึ่งขณะนี้ยังไม่เผยรูปทรงภายนอกให้เห็น 1.ลีฟ ได้ชื่อว่าเป็นรถระดับ ปลอดมลพิษโดยสมบูรณ์ (ZERO-EMISSION) แบทเตอรี และมอเตอร์ไฟฟ้าถูกติดตั้งด้านหน้าเหมือนเครื่องยนต์ปกติ 2.เอฟที-อีวี 2 ความเร็วสูงสุด 100 กม./ชม. ชาร์จแบทเตอรีเต็มจะแล่นได้ระยะทาง 90 กม. เป็นไปได้ว่ารถพลังงานไฟฟ้าที่ร่วมมือพัฒนากับ เทสลา จะมีประสิทธิภาพดีกว่านี้มาก 3.โวลท์ เอมพีวี 5 มิติตัวถัง ยาว 4,585 มม. กว้าง 1,871 มม. สูง 1,612 มม. และระยะฐานล้อ 2,760 มม. แบทเตอรีให้กำลัง 150 แรงม้า ระยะทำการถึง 480 กม. 4.ทาทา นาโน อีวี แสดงให้เห็นว่ารถขนาดเล็ก ราคาไม่แพง ก็สามารถติดตั้งระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าได้ แบทเตอรีแบบ ซูเพอร์โพลีเมอร์ ลิเธียม-ไอออน ให้อัตราเร่งที่ดี 5.เปิดตัวในเวลาไล่เลี่ยกันระหว่าง มิลาน และ เบร์ลิน แทกซี คอนเซพท์ ที่ทาง โฟล์คสวาเกน หมายจะให้เป็นรถแทกซีสาธารณะตามเมืองใหญ่ในยุโรป 6.เอาดี อาร์ 8 อี-ทรอน ทะยานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 78 แรงม้า จำนวน 4 ตัวติดตั้งที่ล้อแต่ละตำแหน่ง เป็นแม่แบบของ เอาดี อาร์ 4 อี-ทรอน สปอร์ทพลังงานไฟฟ้าขนาดย่อมลงมา