นิสสัน จูค (NISSAN JUKE) คอมแพคท์เอสยูวี เตะตากับดีไซจ์นแปลกใหม่ อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ทรวดทรงของตัวถังที่กะทัดรัด แต่ดูมีพลัง ก็เป็นลักษณะพิเศษอีกอย่าง ทั้งที่ไม่
ได้บรรจุเครื่องยนต์ทรงพลัง ในขณะที่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบใหม่ เน้นการขับขี่ที่ราบรื่น และสะดวกสบาย

นิสสัน จูค (NISSAN JUKE) คอมแพคท์เอสยูวี เตะตากับดีไซจ์นแปลกใหม่ อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ทรวดทรงของตัวถังที่กะทัดรัด แต่ดูมีพลัง ก็เป็นลักษณะพิเศษอีกอย่าง ทั้งที่ไม่ ได้บรรจุเครื่องยนต์ทรงพลัง ในขณะที่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบใหม่ เน้นการขับขี่ที่ราบรื่น และสะดวกสบาย รูปลักษณ์ภายนอกที่แปลกตา ถอดแบบจากรุ่น กาซานา (QAZANA) รถแนวคิดต้นแบบของ นิสสัน ที่เปิดตัวในงานมหกรรมยานยนต์เจนีวา ปี 2552 ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้รับการกล่าวขวัญ ถึงการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอก ที่พิเศษต่างจากคอมแพคท์เอสยูวีที่มีอยู่อย่างเห็นได้ชัด สู่ "จูค" ที่สืบทอดแนวความคิดหลัก นำมาผลิตเป็นรุ่นที่จำหน่ายในตลาด และมีการเปิดตัวที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส ไปเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เทคนิคการออกแบบโดยการใช้รอบเอวเป็นเส้นแบ่ง ให้ส่วนของท่อนบนแสดงออกถึงความปราดเปรียว และความสบายของรถสปอร์ท แต่ท่อนล่างแสดงออกถึงความทรงพลังของรถ เอสยูวี...และทุกวันนี้อาจเห็นเป็นเรื่องธรรมดา แต่สไตล์ของรถที่เสร็จสมบูรณ์ออกมา ซึ่งกลายเป็นผลงานสร้างสรรค์ที่ไม่เหมือนกับรถใดๆ ในช่วงที่ผ่านมาเลย ผลงานชิ้นนี้อาจจะมีทั้งเสียงสนับสนุน และคัดค้าน แต่อย่างไรก็ตามด้านรูปลักษณ์ก็มีความโดดเด่นเหนือใคร การตกแต่งภายใน ก็ไม่แพ้รูปทรงภายนอก คอนโซลกลางมีการออกแบบให้ดูคล้ายถังน้ำมันของรถจักรยานยนต์ และมีการพ่นสีเหมือนกับอุปกรณ์ภายนอก ติดตั้งจอแสดง ข้อมูลของระบบปรับอากาศ และการขับขี่ไว้ตรงกลางใต้จอระบบนำร่องก็เป็นสิ่งใหม่ดูแปลกตาเช่นกัน นอกจากนี้ ยังสามารถใช้จอดังกล่าวในการเปลี่ยนโหมดการขับขี่ 3 โหมด คือ "NORMAL" "SPORT" และ "ECO" ได้อีกด้วย สำหรับตลาดยุโรป มีเครื่องยนต์ 3 แบบ คือ แบบ K9K (ดีเซลเทอร์โบ 1.5 ลิตร) แบบ HR16DE (เบนซิน 1.6 ลิตร) และแบบ MR16DDT (ดีเซลเทอร์โบ 1.6 ลิตร) ในจำนวนนั้นได้มีการบรรจุเครื่องยนต์แบบ MR16DDT ให้กับรถรุ่นที่เป็น 4x4 ใหม่ ที่ให้ทั้งความประหยัด และพลังเร่งแรงจากการนำระบบไดเรคท์อินเจคชันกับระบบ เทอร์โบแบบพัฒนาใหม่ มาประกอบเข้าด้วยกัน ระบบขับเคลื่อน แม้จะเป็นแบบออลล์โหมด 4x4 ที่คุ้นเคย แต่ทว่ามันมาพร้อมด้วยทอร์คคอนเวอร์เตอร์ ซึ่งไม่เพียงควบคุมการกระจายแรงบิดหน้า/หลังให้เหมาะสมที่สุดเท่านั้น ระบบอีเลคทรอนิค แอลเอสดีของดิฟฟ์หลัง ยังควบคุมการกระจายแรงบิดของล้อซ้าย/ขวาคู่หลังด้วย จึงเป็นกลไกใหม่ที่นอกจากจะสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพผิวทางได้ถี่ถ้วนกว่ารุ่นก่อนแล้ว ยังควบคุมอาการของรถให้มีเสถียรอีกด้วย รถรุ่นนี้จะเริ่มจำหน่ายในตลาดญี่ปุ่นก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับตลาดยุโรปในเดือนตุลาคม ซึ่ง นิสสัน คาดหวังอย่างเต็มเปี่ยมที่จะได้รับการตอบรับในด้านรูปลักษณ์ภายนอกที่เตะตา และฝีเท้าจากระบบ 4x4 แบบใหม่ สำหรับรถที่ออกแบบตามปกติ อาจจะหวังเรื่องประโยชน์ใช้สอยไม่ได้แน่ แต่สำหรับสไตล์คูเปแล้ว ดูเหมือนมันจะมีห้องโดยสารที่กว้าง ส่วนการพลิกแพลงให้บรรทุกคน และสัมภาระ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการจัดวางที่นั่งหลายแบบ ก็เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับรถเอสยูวี การตกแต่งภายในเป็นไปในแนวเดียวกับรูปลักษณ์ภายนอก คอนโซลกลางพ่นสี และบริเวณคันเกียร์มีการทำรูปทรงเหมือนถังเชื้อเพลิงของรถจักรยานยนต์ ทั้งมีการเปลี่ยนสี วัสดุ และการปรับแต่งให้แตกต่างกันไปตามตำแหน่งของอุปกรณ์ เพื่อแสดงภาพพจน์ของความกระฉับกระเฉง 1. มาตรวัดทรงกลมคู่อวดความสปอร์ท 2. คอนโซลกลางคล้ายถังน้ำมันของมอเตอร์ไซค์ 3. รุ่น 4x4 บรรจุเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4. ที่นั่งก็มีรูปทรงแบบสปอร์ท เบาะสีทูโทน 5. ด้านหน้าเตะตา แต่ด้านหลังดูมีเอกลักษณ์