ต่อเนื่องจากฉบับที่แล้ว เราได้พูดคุยกันเรื่อง "ปัญหาประกันภัย เพราะประกันภัยมีปัญหา" แล้วในส่วนตัวของเราแต่ละคน จะช่วยกันลดปัญหาเกี่ยวกับประกันภัยได้อย่างไร คำตอบง่ายๆ แบบฟันธง คือ เลือกทำประกันภัยกับบริษัทที่มีคุณสมบัติ 1, 2, 3 และ 4 ตามลำดับ ดังนี้ อันดับแรก คือ บริษัทที่มีความมั่นคงทางการเงิน และเลือกบริษัทที่มีชื่อเสียงด้านการบริการที่ดีเป็นอันดับสอง และเลือกบริษัทที่ให้ความคุ้มครองสูงเป็นอันดับที่สาม และ เลือกบริษัทที่เบี้ยประกันถูกเป็นอันดับสุดท้าย

ต่อเนื่องจากฉบับที่แล้ว เราได้พูดคุยกันเรื่อง "ปัญหาประกันภัย เพราะประกันภัยมีปัญหา" แล้วในส่วนตัวของเราแต่ละคน จะช่วยกันลดปัญหาเกี่ยวกับประกันภัยได้อย่างไร คำตอบง่ายๆ แบบฟันธง คือ เลือกทำประกันภัยกับบริษัทที่มีคุณสมบัติ 1, 2, 3 และ 4 ตามลำดับ ดังนี้ อันดับแรก คือ บริษัทที่มีความมั่นคงทางการเงิน และเลือกบริษัทที่มีชื่อเสียงด้านการบริการที่ดีเป็นอันดับสอง และเลือกบริษัทที่ให้ความคุ้มครองสูงเป็นอันดับที่สาม และ เลือกบริษัทที่เบี้ยประกันถูกเป็นอันดับสุดท้าย เหตุผลที่ให้จัดอันดับในการเลือกเช่นนี้เพราะ บริษัทที่มีความมั่นคงทางการเงิน ยังไงก็มีเงินจ่ายให้เรา และผู้เสียหาย ไม่ว่าจะจ่ายตามสัญญาประกันภัย หรือตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ถ้าเป็นบริษัทที่ไม่มีความมั่นคง เขาไม่มีเงินจ่ายแน่นอน ไม่ว่าเราจะ ไปร้องเรียนกับ คปภ. หรือไปฟ้องร้องต่อศาล เขาก็ไม่มีเงินจ่ายอยู่ดี หรือหากจะบังคับให้เขาจ่าย เขาก็จ่ายให้ได้ เป็นการจ่ายแบบเฉลี่ยจ่าย ได้ไม่เต็มจำนวน และที่สำคัญ คือ ต้องเสียทั้งเวลา และค่าใช้จ่ายอีกมากมายในการติดตามทวงถาม ส่วนคุณสมบัติของบริษัทที่มีชื่อเสียงในการบริการที่ดี มักจะเป็นบริษัทประกันที่ทำงานแบบมืออาชีพ เน้นการบริการและชื่อเสียง อันนี้คนละประเด็นกับบริษัทที่มียอดขายสูงนะครับ เพราะบริษัทที่มียอดขายสูง หรือมีส่วนแบ่งการตลาดมาก ล้วนแล้วแต่ทำการโฆษณามีพโรโมชัน ลด-แลก-แจก-แถม เพื่อจูงใจให้ลูกค้า หรือ ตัวแทน-นายหน้ามาส่งงานให้เท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าเขาบริการดีมีชื่อเสียงนะครับ คนทั่วไปมักจะหลงเชื่อว่าบริษัทที่มีลูกค้ามากเป็นบริษัทใหญ่ (มันไม่ได้ใหญ่จริงนะครับเพราะมันไม่มีความมั่นคง) และบริษัทพวกนี้ล้วนแล้วแต่เป็นบริษัทอันตรายทั้งสิ้น เพราะส่วนใหญ่บริษัทที่มีปัญหาร้องเรียน ฟ้องร้องกันจนเจ๊งหรือล้มละลายต้องถูกปิดไป ก็พวกบริษัทที่ทำโฆษณาอย่างบ้าเลือดทั้งนั้น ลูกค้าที่ได้ยินได้เห็นโฆษณาหรือพโรโมชันก็หลงเขา แห่ไปซื้อประกัน สุดท้ายก็เจอปัญหาด้านบริการที่แย่ และไม่มีเงินจ่าย บริษัทที่บริการดี มักจะไม่ค่อยมีพโรโมชัน ลดแลกแจกแถม แต่คนที่เคยใช้บริการแล้วจะรู้ว่าเขาไม่ได้เอาเปรียบลูกค้า ให้บริการดี มีความเป็นธรรม จึงไม่ค่อยมีเรื่องร้องเรียนให้ได้เห็นเป็นข่าว สำหรับคุณสมบัติบริษัทที่ให้ความคุ้มครองสูง แสดงว่าเขาเป็นที่ยอมรับในตลาดประกันภัยกันเองที่สามารถทำสัญญาประกันต่อ (RE-INSURANCE) ให้บริษัทอื่นๆ เข้ามาร่วมรับผิดชอบในความคุ้มครองที่สูงขึ้นได้ เพราะฉะนั้นโอกาสที่เราทำประกันกับบริษัทพวกนี้ ย่อมเท่ากับว่าปัญหาที่จะไม่ได้รับการคุ้มครอง หรือจ่ายค่าคุ้มครองต่ำไม่เป็นธรรมก็ย่อมน้อยลดลงไปด้วย สำหรับคุณสมบัติของบริษัทที่มีเบี้ยประกันภัยถูก เท่ากับไม่มีคุณสมบัติใดน่าให้ความสนใจเลยน่าจะเรียกว่าทำธุรกิจแบบเด็กอนุบาลก็ว่าได้ ลองคิดดูว่าเขารับเบี้ยประกันแบบถูกๆมา แล้วพอมีเคลมเขาจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเคลมให้เรา หรือผู้เสียหายได้ในอัตราที่สูงพอกับค่าเสียหาย เงินรับมันไม่พอจ่ายใคร เดือดร้อนก็จะย้อนกับมาที่ผู้เอาประกันอยู่ดีที่จะต้องออกส่วนเพิ่มเอง มันคุ้มกันหรือไม่ ? ที่จะไปเลือกบริษัทพวกนี้ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการซื้อประกันภัยที่เน้นขายถูก เว้นแต่จะมีคุณสมบัติที่ดีข้ออื่นสนับสนุน อย่างไรก็ตาม ถ้าไปพบว่าบริษัทประกันภัยใดมีคุณสมบัติครบครันทั้ง 4 ข้อเลย ต้องถือว่าโชคดีมากๆ และคิดว่าไม่มีบริษัทเช่นนี้ในโลก เว้นแต่ ช่วงที่เขาทำพโรโมชันพิเศษเท่านั้น บริษัทเกรดดีๆ จะมีคุณสมบัติแค่ 2 -3 ข้อ ก็ถือว่าเยี่ยมแล้ว เราลองมาดูปัญหาบริษัทประกันภัยทุกวันนี้ ที่เกิดปัญหาซ้ำซาก แก้ไม่จบ แม้จะมี คปภ. ก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น กรณีของบริษัท ลิเบอร์ตี้ประกันภัย ฯ คปภ. มีประกาศฉบับที่ 2/2553 ลงวันที่ 10 มีนาคม 2553 หลังจากที่ออกประกาศฉบับแรกลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2553 ห้ามขยายธุรกิจ ห้ามออกกรมธรรม์ใหม่ เนื่องจากกองทุนติดลบ 147 ล้านบาท และทุกวันนี้ยังไม่สามารถแก้ไขวิกฤตการณ์นี้ได้ ก่อนหน้านี้ถูกลงโทษปรับรายวันมาตลอดปี 2552 และเคยออกโฆษณาทำพโรโมชันประกันประเภท 1 ราคาถูก 9,999 บาท แล้วก็ไปไม่รอด ลองสังเกตดูให้ดีตอนนี้มีบางบริษัทก็กำลังทำพโรโมชันนี้อยู่เหมือนกัน กรณี บริษัท ประกันภัยฟีนิกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ถูกร้องเรียนไม่เว้นวัน คปภ. ยังไม่ได้ประกาศลงโทษอย่างเป็นทางการให้หยุดทำธุรกิจ แต่ก็เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากไม่มีเงินจ่ายค่าสินไหม ถูกร้องเรียนแทบทุกวัน ลองดูตัวอย่างนะครับ คำถามส่งไปที่ คปภ. บริษัทฟีนิกซ์ ประกันภัย ฯ ไม่ยอมจ่ายค่าซ่อมมา 3 ครั้ง ทำให้ผมเอารถออกจากอู่ไม่ได้ทั้งที่เป็นอู่ในเครือของบริษัท คปภ จะทำอะไรได้บ้างครับ ? 08-4388-9556 (ชื่อผู้ถาม : เพิ่มพล ใจมีอารีย์ 9 มีนาคม 2553 ) คำตอบที่ได้รับจาก คปภ. ควรร้องเรียนที่ คปภ. เพื่อดำเนินการประสานกับบริษัทให้ (ชื่อผู้ตอบ : ส่วนคุ้มครองสิทธิประโยชน์ 4 15 มีนาคม 2553) อีกคำถามของบริษัท ประกันภัยฟีนิกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด จ่ายค่าสินไหมเอาเปรียบประชาชน ผมสงสัยว่าบริษัทประกันภัยฟีนิกซ์ ฯ มีปัญหาเรื่องร้องเรียนเรื่องการจ่ายค่าสินไหม่ให้กับรถคู่กรณี จำนวนมาก แสดงว่าบริษัทนี้ขาดความรับผิดชอบ และเอาเปรียบประชาชน ทำไม ทาง คปภ. จึงไม่มีวิธีการบังคับให้บริษัทมีความรับผิดชอบ มากขึ้น หรือ ปิดบริษัทนี้เสีย ปล่อยให้มีการประกอบการเอาเปรียบประชาชนอยู่อีก จากประสบการณ์ที่ผมพบ คือ ประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2553 ผมปรึกษาข้อพิพาทที่ คปภ. รัชดา พบผู้เสียหาย มารอ 4 คน แต่เอกสารผมไม่พร้อม วันที่ 20 กพ. ผมมาที่ คปภ. สาขาท่าพระ พบผู้ร้องเรียน อีก 3 ราย จนนัดวันที่ 12 มีนาคม พบมารอคุยอีก 4 ราย ซึ่งแสดงว่า บริษัท ประกันภัยฟีนิกซ์ ฯ มีการเอาเปรียบประชาชน เดือนละไม่ต่ำกว่า 100 รายขึ้นไป โดยอาศัยช่องว่างของกฎหมาย เอาเปรียบประชาชนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ อย่างผม คปภ. ตั้งขึ้นเพื่อช่วยประชาชน หรือบริษัทประกันกันแน่ (ชื่อผู้ถาม : ประภาส อู่ทับทิม 13 มีนาคม 2553) คำตอบที่ได้รับจาก คปภ. ทุกวันนี้ มีการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียนของบริษัทดังกล่าวไว้เป็นการเฉพาะแล้ว การปิดบริษัทประกันภัย ไม่ใช่ทางออกของปัญหา และจะกระทบกับธุรกิจบริษัทประกันภัยโดยรวม ซึ่งจะกระทบไปถึงประชาชนแบบลูกโซ่ได้ การที่บริษัทประกันภัยมีปัญหาแล้วสามารถแก้ไขปัญหาจนก้าวสู่บริษัทที่มีคุณภาพได้ก็มีหลายบริษัทครับ (ชื่อผู้ตอบ : ส่วนคุ้มครองสิทธิประโยชน์ 2 18 มีนาคม 2553) กรณีบริษัท สัมพันธ์ประกันภัย ฯ คำถามส่งไปที่ คปภ. ลูกค้าที่รอเงินค่าเคลม ประกันสัมพันธ์ชั่วชีวิตนี้มีโอกาสจะได้เงินคืนไหม ทำไมไม่มีความคืบหน้าเลย เรื่องลูกค้าที่รอเงินค่าเคลม ประกันสัมพันธ์ ถามมาที่ คปภ. ทีไร ก็บอกว่า "อยู่ในระหว่างผู้ชำระบัญชี" นานมากแล้วนะ ทำตามที่ทาง คปภ. บอกให้ทำทุกอย่าง ถามกี่ครั้งๆ ก็คำตอบเดิม คือ "อยู่ในระหว่างผู้ชำระบัญชี" ตกลงว่าประชาชนชาวไทยที่เสียภาษีให้รัฐปีละหลายแสนบาท มีสิทธิ์เพียงรอคอยอย่างไร้ความหวังใช่ไหม (ชื่อผู้ถาม : ปราโมทย์ 8 มีนาคม 2553) คำตอบจาก คปภ. มี ครับ (ชื่อผู้ตอบ : ส่วนคุ้มครองสิทธิประโยชน์ 1 11 มีนาคม 2553) อีกคำถามของ การจ่ายเงินค่าเสียหายของบริษัท สัมพันธ์ประกันภัย ฯ มีวิธีใดที่หน่วยงานภาครัฐจะเรียกค่าเสียหายให้คู่กรณีที่บริษัทรับประกันภัยจะจ่ายได้เร็วกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เวลาเรียกค่าเสียหายของรัฐเรียกจากประชาชน เรียกเก็บได้ไว แต่ทำไมเวลาประชาชนเสียหาย จึงได้เงินยากเย็น ในทางปฏิบัติการจัดตั้งบริษัท ฯ จะต้องมีเงินประกันความเสียหายที่ประชาชนสามารถจะเรียกร้องได้เลยมิใช่หรือครับ ภาครัฐน่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่าเป็นเสือกระดาษ หรือ เป็นทาสบริษัท ตามที่เขาเล่ามาแต่อดีต (ชื่อผู้ถาม : สมศักดิ์ แสดงหาญ 12 มีนาคม 2553) และนี่ก็คือคำตอบจาก คปภ. ตามที่เข้าใจถูกต้องแล้วครับ จะมีกองทุนประกันวินาศภัย ไว้จ่ายกรณีแบบนี้ แต่เนื่องจากกฎหมายกำหนดให้ผู้ชำระบัญชีดำเนินการจัดสรรค่าเสียหายให้กับเจ้าหนี้ก่อน หากขาดเหลือย่างไร กองทุนจึงจะเข้าไปรับผิดชอบในส่วนที่ขาดอยู่ แต่ทั้งนี้จะไม่เกินรายละ 1 ล้านบาท คำตอบตรงประเด็นหรือไม่ครับ ส่วนที่ว่าเสือกระดาษนั้น คงไม่มีคำตอบ (ชื่อผู้ตอบ : ส่วนคุ้มครองสิทธิประโยชน์ 1 12 มีนาคม 2553)