ผลทดสอบ
รถอเนกประสงค์ ของครอบครัวยุคใหม่
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ดีเซล 3.0 ลิตร 156 แรงม้า ราคา 1,226,000 บาท
คู่แข่งในตลาด
เชฟโรเลต์ แคพทีวา ดีเซล 2.0 ลิตร 150 แรงม้า ราคา 1,560,000 บาท
โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ ดีเซล 3.0 ลิตร 163 แรงม้า ราคา 1,419,000 บาท
มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท ดีเซล 3.2 ลิตร 165 แรงม้า ราคา 1,240,000 บาท
อีซูซุ มิว-7 พแลทินัม แอคทิโว ดีเซล 3.0 ลิตร 163 แรงม้า ราคา 1,256,000 บาท
ฮอนดา ซีอาร์-วี เบนซิน 2.4 ลิตร 170 แรงม้า ราคา 1,470,000 บาท
ข้อเด่น
- ปรับโฉมด้านหน้าใหม่
- เครื่องเสียงดูหนัง/ฟังเพลง ระบบนำทาง กล้องมองหลัง
- แอร์แบก 4 ใบ ทั้งด้านหน้าและด้านข้าง
- เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ
- ล้อแมก 18 นิ้ว
ข้อด้อย
- วงเลี้ยวกว้าง
- ช่วงล่างโยนตัว
- ระบบรองรับหลังเป็นแหนบแผ่นซ้อน
ฟันธง
รถครอบครัวแต่งครบเครื่อง ชูหน้าตาเรื่องความสะดวกสบาย และปลอดภัย มากกว่าสมรรถนะ
บริษัท ฟอร์ด เซลล์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ ฟอร์ด เปิดตัว ฟอร์ด
เอเวอเรสต์ ใหม่ ที่ได้รับการปรับโฉม เพื่อลุยศึกในกลุ่มตลาดรถกิจกรรมกลางแจ้ง หรือเอสยูวี ด้วยรูปลักษณ์ที่ทันสมัยมากขึ้น เพียบพร้อมด้วยความบันเทิง และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน หวังต่อกรกับคู่แข่งในตลาด ที่ชิงปรับทัพ เปิดตัวรถรุ่นใหม่ ตั้งแต่ต้นปี 2552 เอเวอเรสต์ ใหม่ เน้นเอาใจกลุ่มลูกค้าขนาดครอบครัว หวังแชร์ตลาด สร้างยอดขายในกลุ่มรถกิจกรรมกลางแจ้ง
4 WHEELS ได้นำ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ รุ่น 3.0 ลิมิเทด เอที เนวี ขับเคลื่อน 4 ล้อ รุ่นทอพสุด มาทำการทดสอบด้วยเครื่องวัดสมรรถนะดาทรอน เพื่อเปรียบเทียบดูผลทดสอบ และความน่าสนใจของมัน
ภายนอก 3 ดาว
โฉบเฉี่ยว มีเอกลักษณ์
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มีมิติตัวรถยาว 5,062 มม. กว้าง 1,788 มม. และสูง 1,826 มม. เมื่อเทียบกับมิติของ เอเวอเรสต์ ขับเคลื่อน 4 ล้อ รุ่นเดิมแล้วต่างกันเล็กน้อย โดยเฉพาะความสูงของรุ่นเดิม ที่สูง 5,009 มม.
เทียบกับคู่แข่งอย่าง โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ 3.0 วี และมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท 3.2 จีที แล้ว เอเวอเรสต์ ใหม่ มีมิติตัวรถที่ยาวกว่า โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ และปาเจโร สปอร์ท ความกว้างเป็นรองเล็กน้อย ส่วนความสูงนั้นใกล้เคียงกัน เทียบกับ อีซูซุ มิว-7 ที่ใช้ระบบรองรับหลังเป็นแหนบแผ่นซ้อนเหมือนกัน ปรากฏว่าความยาวตัวรถใกล้เคียงกันมาก
หน้าตาของ เอเวอเรสต์ ใหม่ ได้รับการปรับโฉมให้ทันสมัยขึ้น เหมือนยกเอาด้านหน้าของ เรนเจอร์ แมกซ์ มาตกแต่ง เปลี่ยนกระจังขนาดใหญ่ แถบด้านบนปั๊มอักษร EVEREST ดูโดดเด่นมีเอกลักษณ์ ไฟหน้าใหม่โค้งมน โคมฉายแบบมัลทิรีเฟลคเตอร์ หรือเลนส์สะท้อน ยังดูต่างจากคู่แข่ง ที่ส่วนใหญ่เลือกใช้แบบโพรเจคเตอร์ กระจกมองข้างติดตั้งไฟเลี้ยว และไฟส่องสว่างแบบแอลอีดี (LED)
แก้มด้านข้างซ้าย/ขวา ออกแบบคล้ายช่องรับลมสไตล์เอสยูวีหรู หลังคาติดตั้งรูฟแรคมาให้ ส่วนไฟท้ายสไตล์เดิม วางแนวตั้งรับกับเสาหลังปรับใหม่ โค้งมน พร้อมเลนส์ขาวแดง ทันสมัยกว่าเดิม ส่วนประตูท้ายแบบเปิดข้าง ควรระวังเมื่อรถจอดเอียง ต้องลอคบานเปิดทุกครั้ง ไม่อย่างนั้นประตูท้ายอาจปิดกระแทกได้ ส่วนล้อแมกเปลี่ยนใหม่ ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 255/60 R18 ใหญ่ขึ้น ลายนี้เคยใช้ใน เรนเจอร์ แมกซ์ รถพิคอัพต้นแบบ เสริมมาดเท่ให้ เอเวอเรสต์ ใหม่ ได้มาก
ภายใน 4 ดาว
แต่งหรู/บันเทิงครบ
ห้องโดยสารตกแต่งให้หรูหรา เน้นชุดดูหนัง/ฟังเพลง ระบบนำทาง และกล้องมองหลัง คอนโซลหน้าสีดำ ตำแหน่งเสาสัญญาณจีพีเอส ใกล้มุมกระจกฝั่งซ้าย ดูสะดุดตา ในขณะที่คู่แข่งบางรายซ่อนไว้ ลิ้นชักเก็บของแบบ 2 ชั้น แม้จะเก็บได้ไม่เยอะแต่ก็ไม่เหมือนใคร แผงคอนโซลกลางตกแต่งกรอบสีเมทัลลิค และลายไม้วอลนัท มาตรวัด ช่องแอร์ด้านข้าง ใช้กรอบทรงกลม แป้นเหยียบคันเร่ง และเบรค ตกแต่งแบบสปอร์ท คิ้วขอบประตู มีอักษรเรืองแสง "EVEREST" สวิทช์หมุนปรับเปลี่ยนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ติดตั้งบริเวณคอนโซลเกียร์ เป็นระบบไฟฟ้าแบบใช้มือหมุน ทันสมัย ใช้งานง่าย แต่ดูเล็กและบอบบาง ส่วนที่ดูจะเหนือกว่าคู่แข่ง คือ ถุงลมนิรภัย 4 จุด ที่ติดตั้งมาให้ทั้งด้านหน้า และด้านข้าง
เบาะนั่งหุ้มหนังสีครีม แถว 2 พับเก็บได้ในจังหวะเดียว แถว 3 ถอดเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้ ระบบปรับอากาศแบบ 3 ตอน ปรับใช้งานแบบแยกส่วนหน้า/หลัง ช่องแอร์ติดตั้งบนเพดาน ช่วยกระจายความเย็นได้ทั่วทั้งคัน เป็นรถเอสยูวีรุ่นแรกที่ติดตั้งในตำแหน่งนี้
ระบบเครื่องเสียงของรุ่นนี้ แทบไม่ต้องควักเงินเพิ่ม เครื่องเสียงด้านหน้าเป็นของ ALPINE ขนาด 2 DIN แบบทัชสกรีน 6.5 นิ้ว รองรับดีวีดี ซีดี เอมพี 3 และลำโพง 6 จุด พร้อมระบบนำทางผ่านดาวเทียม และกล้องมองหลัง ที่ส่งสัญญาณผ่านจอทันทีที่เข้าเกียร์ในตำแหน่ง R หรือเกียร์ถอยหลัง
วัดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารของ เอเวอเรสต์ ใหม่ ที่ความเร็วต่ำนั้นค่อนข้างดัง จากล้อที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ความเร็ว 60-80 กม./ชม. ระดับเสียงยังต้องปรับปรุง โดยวัดค่าได้ 64/66 เดซิเบล และอาจทำให้เสียอรรถรสในการรับชมความบันเทิงได้ ช่วงความเร็วสูง 100-120 กม./ชม. ระดับเสียงเริ่มดีขึ้น ทำได้ผ่านเกณฑ์ ส่วนความเร็ว 140 กม./ชม. เสียงเริ่มกลับมาดังขึ้นอีกครั้ง
เทียบกับรุ่นเดิม เอเวอเรสต์ 3.0 ลิมิเทด ใช้ล้อแมกขนาด 16 นิ้ว กับยางขนาด 245/70 R16 เสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร ที่ความเร็วต่ำ 60-80 กม./ชม. วัดค่าได้ 61/63 เดซิเบล เงียบกว่า เอเวอเรสต์ ใหม่ แต่ที่ความเร็วสูงขึ้น ระดับเสียงวัดได้ใกล้เคียงกัน
จับมาเทียบกับคู่แข่ง เห็นได้ว่าระดับเสียงรบกวน ที่ความเร็วต่างๆ ยังเป็นรองคู่แข่งอย่าง ฟอร์ทูเนอร์ 3.0 วี มีเพียง ปาเจโร สปอร์ท 3.2 จีที ที่มีระดับเสียงช่วงความเร็วสูง 100-140 กม./ชม. ใกล้เคียงกัน
สมรรถนะ 3 ดาว
เกียร์ 5 จังหวะ แรงพอตัว
เครื่องยนต์ยังใช้บลอคเดิม ดูราทอร์ค WEC ความจุ 3.0 ลิตร คอมมอนเรล ไดเรคท์อินเจคชัน พร้อมเทอร์โบแปรผัน 156 แรงม้า ที่ 3,200 รตน. แรงบิดสูง 38.8 กก.-ม. (380 นิวตัน-เมตร) ที่ 1,800 รตน.
ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ใช้กล่องอีซียู TCM ช่วยปรับการทำงานให้สอดคล้องกับการขับขี่ที่หลากหลาย ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบพาร์ทไทม์ ปรับเลือกระบบส่งกำลังแบบ ACTIVE SHIFT-ON-THE-FLY สามารถเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนระหว่าง 2 และ 4 ล้อ ที่ความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม.
อัตราเร่งแซงของ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 3.0 ลิตร ทำได้พอตัว แรงบิดที่ให้มาเยอะแม้จะทำให้รู้สึกดี แต่ก็ไม่ช่วยให้ผลทดสอบออกมาหวือหวาเท่าที่ควร เมื่อดูผลทดสอบจากเครื่องวัดสมรรถนะดาทรอน ฟอร์ด เอเวอเรสต์ อัตราเร่งตีนต้น 0-100 กม./ชม. 0-400 ม. และอัตราเร่งตีนปลาย 0-1,000 ม. ทำได้ในระดับที่พอใช้งานเท่านั้น ใกล้เคียงกับรุ่นเดิมที่เคยทำได้
เทียบกับคู่แข่งด้วยกัน อัตราเร่งตีนต้น และอัตราเร่งตีนปลาย ตามติดชนิดหายใจรดต้นคอกับ ปาเจโร สปอร์ท 3.2 ลิตร แต่ยังเป็นรองคู่แข่งรายอื่นๆ อยู่เล็กน้อย โดยมี โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ ที่ทำไว้ดีที่สุด ในกลุ่มเครื่องยนต์ดีเซล
หัวข้ออัตราเร่งยืดหยุ่น จังหวะเร่งแซง ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 3.0 ลิตร ใหม่ มีอัตราเร่งช่วงยาว 40-120 กม./ชม. ที่ต้องปรับปรุง ส่วนความเร็ว 60-100 กม./ชม. ช่วงเร่งแซง ขณะใช้งานในเมือง และ 80-120 กม./ชม. ช่วงเร่งแซงบนถนนใหญ่ สอบผ่านได้ในระดับแค่พอใช้งานเท่านั้น เมื่อเทียบกับคู่แข่งด้วยกันแล้ว ยังเป็นรองคู่แข่งในกลุ่ม
วัดอัตราสิ้นเปลืองของ เอเวอเรสต์ 3.0 ลิตร ใหม่ จากความเร็วคงที่ พบว่าอัตราสิ้นเปลือง ที่ความเร็ว 60-100 กม./ชม. อยู่ในระดับพอใช้งาน ในช่วงความเร็วสูง 120 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองมาก เริ่มกินจุดุดันขึ้น
เทียบอัตราสิ้นเปลืองกับคู่แข่งในระดับเดียวกันแล้ว ความเร็วต่ำทำได้ดีไม่เป็นรองใคร โดยเฉพาะที่ความเร็ว 60 กม./ชม. เอเวอเรสต์ ทำไว้ดีที่สุด (18.2 กม./ลิตร) ความเร็ว 80 กม./ชม. สูสีกับ ฟอร์ทูเนอร์ แต่ยังเป็นรองเครื่องยนต์เบนซิน อย่าง ฮอนดา ซีอาร์-วี 2.4 ลิตร
อัตราสิ้นเปลืองที่ความเร็ว 100 กม./ชม. เอเวอเรสต์ ทำได้ดีที่สุด (12.8 กม./ลิตร) เมื่อเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มเครื่องยนต์ดีเซลด้วยกัน แต่ยังเป็นรอง ซีอาร์-วี 2.4 ลิตร ส่วนที่ความเร็ว 120 กม./ชม. กลับตรงกันข้าม กินมากขึ้น และกินที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
อัตราสิ้นเปลืองขณะเร่งออกตัว ทำได้ดีเยี่ยม เช่นเดียวกับ อัตราสิ้นเปลืองขณะเร่งยืดหยุ่น ความเร็วช่วงเร่งแซงขณะใช้งานในเมือง 60-100 กม./ชม. และเร่งแซงบนถนนใหญ่ 80-120 กม./ชม. ส่วนอัตราเร่งแซงช่วงยาว 40-120 กม./ชม. หรือใช้งานนอกเมืองทำได้ประหยัดมาก
ระบบรองรับ 3 ดาว
นุ่มนวล นั่งสบาย
ระบบรองรับสไตล์เดิม ด้านหน้าแบบอิสระ ปีกนกคู่ ทอร์ชันบาร์ และชอคอับ ด้านหลังเป็นแหนบแผ่นซ้อน แม้จะไม่ทันสมัย แต่ได้รับการปรับปรุงให้นุ่มนวลขึ้น ทำงานร่วมกับชอคอับขนาดใหญ่ และเหล็กกันโคลงหน้า/หลัง เน้นความนุ่มนวลเป็นพิเศษ แม้จะเปลี่ยนมาใช้ล้อขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 255/60 R18 เพิ่มมาดเท่ ยึดเกาะถนนมากขึ้น แต่อาการโยนตัวยังมีบ้าง โดยเฉพาะช่วงคอสะพาน หรือขับเข้าโค้งแคบๆ บนถนนคอนกรีทพอมีอาการเต้นของช่วงล่างให้เห็นตามสไตล์ของแหนบหลัง ล้อแมกใหญ่บวกกับรัศมีวงเลี้ยว 6.1 ม. ทำให้วงเลี้ยวกว้าง พวงมาลัยแบบลูกปืนหมุนวน ทนทาน แต่ย้อนยุค ส่วนระบบเบรค ด้านหน้าแบบจาน หลังยังเป็นดุม มีดีที่ระบบเบรคแบบเอบีเอส กระจายแรงเบรค พร้อมจี-เซนเซอร์ ช่วยให้อุ่นใจขึ้น
ผลทดสอบประสิทธิภาพการเบรค ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มีระยะเบรคที่ความเร็วต่ำอยู่ในระดับค่อนข้างดี และความเร็วสูงอยู่ในระดับพอใช้งาน เทียบกับ เอเวอเรสต์ รุ่นที่แล้ว เห็นได้ชัดว่าล้อและยางที่ใหญ่ ช่วยให้ประสิทธิภาพเบรคดีขึ้น โดยเฉพาะเบรคที่ความเร็วสูง แต่ค่าจี หรือแรงหนีศูนย์จากเบรคที่ความเร็วต่างๆ นั้น ก็ยังสรุปได้ถึงความนุ่มนวล และอาการโยนตัวของรถที่มีมากพอสมควร
เมื่อเทียบกับคู่แข่ง ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มีระยะหยุดช่วงความเร็วต่ำ 60-0 กม./ชม. พอๆ กับ เชฟโรเลต์ แคพทีวา 2.0 ลิตร เช่นเดียวกับเบรคที่ความเร็ว 80-0 กม./ชม. ที่ทำได้พอๆ กับ ฮอนดา ซีอาร์-วี 2.4 ลิตร แต่ยังเป็นรองคู่แข่งรายอื่นอยู่เล็กน้อย สำหรับเบรคในช่วงความเร็วสูง 100 กม./ชม. ทำได้ดีพอๆ กับ โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ เป็นรองเพียง เชฟโรเลต์ แคพทีวา 2.0 ลิตร และมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท 3.2 ลิตร
สรุป
แต่งครบ ราคาน่าสน
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 3.0 ลิตร ลิมิเทด เนวี ใหม่ ปรับโฉมให้สวยทันสมัย โดดเด่นด้วยล้อขนาด 18 นิ้ว เน้นชูจุดขายด้วยอุปกรณ์ตกแต่งสมบูรณ์แบบ เหมาะกับรถครอบครัวยุคใหม่ ที่ต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีระบบนำทาง และกล้องมองหลัง มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ สมรรถนะพอตัว ตกแต่งฟูลล์ออพชันแบบนี้ เทียบกับคู่แข่งระดับเดียวกันแล้ว ราคายังน่าสน น่าจะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจในตลาดรถเอสยูวี
ข้อมูลจำเพาะ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 3.0 ลิมิเทด เอที เนวี ผู้จัดจำหน่าย ฟอร์ด ประเทศไทย โทร. 0-2686-5899 หรือ โทร. 1-800-293-333 www.ford.co.th
มิติ และน้ำหนัก
ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 5,062/1,788/1,826
ช่วงล้อหน้า/หลัง (มม.) 1,575/1,570
ฐานล้อ (มม.) 2,860
น้ำหนัก (กก.) 2,026
ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 71
เครื่องยนต์
ชนิด ดีเซลเทอร์โบ อินเตอร์คูเลอร์ 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว
ความจุ (ซีซี) 2,953
กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 96.0/102.0
อัตราส่วนกำลังอัด 18.0:1
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 156/3,200
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 38.8/1,800
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง ไดเรคท์อินเจคชัน คอมมอนเรล
ระบบถ่ายทอดกำลัง
เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติ 5
ขับเคลื่อน (ล้อ) 4
ระบบรองรับ
หน้า อิสระ ปีกนกคู่ ทอร์ชันบาร์ พร้อมเหล็กกันโคลง
หลัง แหนบแผ่นซ้อน พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบบังคับเลี้ยว
แบบ ลูกปืนหมุนวน พร้อมเพาเวอร์
ระบบห้ามล้อ
แบบ เอบีเอส อีบีดี
หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน
หลัง ดุม
ราคา (บาท) 1,226,000
อัตราเร่ง (วินาที)
0-60 กม./ชม. 5.9
0-80 กม./ชม. 9.7
0-100 กม./ชม. 14.8
0-120 กม./ชม. 22.8
0-140 กม./ชม. N/A
0-400 ม. 19.4 วินาที ที่ความเร็ว 112.9 กม./ชม.
0-1,000 ม. 36.3 วินาที ที่ความเร็ว 139.4 กม./ชม.
อัตราเร่งยืดหยุ่น (วินาที)
40-120 กม./ชม. 20.3
60-100 กม./ชม. 8.6
80-120 กม./ชม. 11.5
ห้ามล้อเมื่อหยุดรถกะทันหันจากความเร็ว (ม./ค่าจี)
60-0 กม./ชม 17.1/0.83
80-0 กม./ชม. 30.6/0.82
100-0 กม./ชม. 47.4/0.83
ระดับเสียงรบกวนในห้องโดยสาร (เดซิเบล A)
ที่ความเร็ว 0 กม./ชม. (จอดนิ่ง) 56
ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. 64
ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. 66
ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. 66
ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. 69
ที่ความเร็ว 140 กม./ชม. 73
ความคลาดเคลื่อนของมาตรวัดความเร็ว (กม./ชม.)
ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. 60
ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. 79
ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. 98
ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. 119
ที่ความเร็ว 140 กม./ชม. 139
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
ความเร็วคงที่ (กม./ชม.) กม./ลิตร ลิตร/100 กม.
60 18.2 5.6
80 15.1 6.7
100 12.8 7.9
120 8.7 11.6
140 7.2 13.6
เรื่องโดย : ณัฐเวช ยอดแสง Nattawate@autoinfo.co.th
นิตยสาร 4wheels ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2552
คอลัมน์ Online : ผลทดสอบ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/28250