ทั่วไป
โลกเรานี้ ถ้าไม่มีผู้หญิงแล้วจะเป็นอย่างไร ไม่มีใครวาดภาพได้ถูกต้อง มี อดัม ก็ต้องมี อีวา ซึ่งกติกานี้เป็นที่ยอมรับ แต่ อดัม บนโลกเรานี้ไม่รักษากติกา มี อีวา แล้วก็แอบไปมีอีอะไรต่อ
อีอะไรอีกแยะ
โลกเรานี้ ถ้าไม่มีผู้หญิงแล้วจะเป็นอย่างไร ไม่มีใครวาดภาพได้ถูกต้อง มี อดัม ก็ต้องมี อีวา ซึ่งกติกานี้เป็นที่ยอมรับ แต่ อดัม บนโลกเรานี้ไม่รักษากติกา มี อีวา แล้วก็แอบไปมีอีอะไรต่อ
อีอะไรอีกแยะ
นักเขียนที่เรียกตัวเองว่านักประพันธ์ ถ้าไม่เขียนถึงผู้หญิงก็ไม่รู้จะเขียนอะไรให้เป็นเรื่องขึ้นมาได้
นักเขียนที่เราว่านี้ หมายถึง ทั้งนักเขียนผู้ชาย และนักเขียนผู้หญิง ไม่ได้จำกัดความเพียงนักเขียนผู้ชายเพียงเพศเดียว
การที่ อดัม ทุกวันนี้ ชอบแอบไปมี อีวา ที่สอง ที่สาม และที่สี่นั้น จะไปกล่าวโทษ อดัม ก็ไม่ควร เพราะ อีวา ในโลกนี้ดันมีหลายประเภท กลายเป็นเมนูทางเลือกสำหรับผู้บริโภค เลือกรับ
ประทาน หรือแอบไปรับประทานเมื่อต้องการลิ้มรส
พวกเรามีความรู้ว่าผู้หญิงมีหลายประเภทก็เพราะนักเขียน
ยาขอบ สุดยอดนักประพันธ์ เคยรำพึงรำพันถึงนารีไว้เป็นบทเป็นกลอน แจกแจงให้ฟังว่า ผู้หญิงเป็นอย่างไรในความคิดความเข้าใจของท่าน
ท่านบอกว่า ผู้หญิงนั้นมีความโลภเป็นสอง มีสมองเป็นสี่ มีมายาเป็นหก แต่มีกำหนัด (ความใคร่) เป็นแปด
...ท่านว่าโลภสตรีมีอยู่สอง การตรึกตรองสมองดีมีสี่ขั้น
มายาหกยกให้ไล่ไม่ทัน กำหนัดนั้นถึงแปดสตรีมี...ฯ
ยาขอบ อ้างด้วยว่าที่เขียนขึ้นมานี้ ไม่ใช่กลอนพาไป แต่เป็นการคัดมาจากหนังสือ หิโตปเทศ อันเป็นหนังสือฉบับแปลโดย เสฐียรโกเศศ นาคะประทีป
เพื่อให้ความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ผมขอถ่ายทอดต้นฉบับดั้งเดิมของเรื่องนี้ จาก หิโตปเทศ นิยายที่ 7 ว่าด้วยการแตกมิตร ดังต่อไปนี้
ในเมืองทวาราวดี มีหญิงภริยาเลี้ยงโคผู้หนึ่ง ใจโลเลไม่ซื่อตรงประพฤติทุจริตกับ ทัณฑนายกแห่งนิคมนั้นและบุตรของเขา เพราะท่านแสดงว่า
ธรรมดาไฟย่อมไม่พักพอไม้เชื้อ, ทะเลใหญ่ไม่ปรากฏว่าเบื่อน้ำ, มฤตยูไม่เคยอิ่มหนำประชาสัตว์, นางผู้งามจำรัสก็ไม่รู้สึกจุใจในผู้ชาย
แน่นอนทีเดียว นารีแม้นอนสบายบนที่นอนซึ่งปักลวดลาย ก็ไม่รู้สึกพึงใจเท่ากับความบันเทิงร่วมเรียงกับชายคู่รักแปลกหน้า แม้พื้นจะเพียงลาดด้วยหญ้าคาหรืออะไรเช่นนั้น
คราวหนึ่ง...
ภริยาคนเลี้ยงโคกำลังรื่นรมย์อยู่กับบุตรแห่งทัณฑนายก ตัวทัณฑนายกเองก็มาหาด้วย นางเห็นนายทัณฑนายกมา เมื่อซ่อนบุตรของเขาไว้ในฉางแล้ว ก็ออกมาต้อนรับภิรมย์กับ
ทัณฑนายกฉันเดียวกับลูกของเขา
ระหว่างนั้น...
คนเลี้ยงโคผู้ภัสดากลับมาจากทุ่งนา พอนางเห็นสามีก็บอก
ท่านทัณฑนายกขา, ท่านจงฉวยไม้ทำทีเป็นโกรธ รีบออกไปเสียเดี๋ยวนี้
เมื่อทัณฑนายกทำตามนั้นแล้ว คนเลี้ยงโคก็มาถึงที่นั่น ถามภริยา
นี่ทัณฑนายกเข้ามานี่ด้วยธุระอะไร ?
ภริยาตอบ ก็ไม่ทราบ, โกรธลูกชายด้วยเรื่องอะไรมาน่ะแหละ ลูกชายกลัวหนีมาขออาศัยที่นี่ ฉันช่วยซ่อนไว้ในฉาง พ่อของเขามาตามหาที่นี่ไม่พบ จึงโกรธงุ่นง่านกลับไป
แล้วนางนำตัวลูกทัณฑนายกออกมาจากฉางให้ดู ท่านจึงว่า
สตรีย่อมทราบกันแล้วว่ามีอาหาร 2 เท่า, มีเชาว์ปัญญาแยบยล 4 เท่า, และเล่ห์กลมายา 6 เท่า, กามราคะถึง 8 เท่า
นี่ก็เป็นนิทานจากหิโตปเทศว่าด้วยผู้หญิง แต่ผู้หญิงของผู้ชายนั้นยังมากด้วยประเภทอีกหลายประเภท จาระไนกันไม่จบสิ้น
ผู้หญิงบางคน นิยมความสกปรกมักง่าย ไม่สนใจความเป็นแม่บ้านแม่เรือน ไม่รู้จักความสะอาดคืออย่างไร แม้ร่างกายของตัวเองก็ไม่สนใจรักษาความสะอาด เพียงการทำความสะอาดก็ไม่มีปัญญา
ผมเคยไปห้องพักส่วนตัวของฝรั่งบางคน เขามีความเป็นตัวเองมากเลย ห้องของเขาสกปรกรุงรังไปทั่ว แม้แต่กางเกงในก็ดาดดื่นไปทั่วห้อง
ไม่รู้ว่า ชีวิตประจำวันของเขาต้องการความรวดเร็วเพียงไหนกัน
และในขณะเดียวกัน ผมก็เคยไปบ้านพวกพ้องที่รู้จักกัน นับถือกันอยู่ มีธุระจำเป็นต้องเข้าห้องน้ำ พอเข้าห้องน้ำก็พบว่าเจ้าของบ้านโดยเฉพาะลูกสาวเจ้าของบ้าน มักง่ายเกินไปหน่อย
ห้องน้ำก็เลยรุงรัง
ผู้หญิงบางประเภทนิยมเมาธ์แตก ปากนกปากกาก็สู้ไม่ได้ มีอะไรผ่านเข้าหูเป็นต้องเมาธ์กระจาย
อันนี้น่าจะเป็นคุณสมบัติประการหนึ่งที่ติดตัวผู้หญิงมา เพราะชอบเรื่องเล่ามากกว่าประสบด้วยตนเอง เข้าประเด็นชอบการนินทา มั่วสุมคุยถึงเรื่องราวของคนอื่น เห็นว่าเป็นเรื่องสนุกสนานไม่มีอะไรเสียหาย เข้าทำนอง อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำ ไม่ชอกช้ำเหมือนเอามีดมากรีดกระเป๋า ว่าเข้านั่น
เมาธ์แตกกับคนช่างพูดนั้นต่างกัน คนช่างพูดมักจะมีคุณลักษณะเห็นไมค์ที่ไหนต้องวิ่งเข้าใส่
ซึ่งหลายคนก็พูดได้ดี มีเหตุมีผล น่าฟัง ไม่เหมือนกับการได้ฟังคนเมาธ์แตกเมาธ์กระจายในสังคมผู้หญิงประเภทไม่ยอมเป็นช้างเท้าหลังก็มี เห็นสามีเป็นบ่าวมากกว่าเป็นเจ้าบ่าว สามีทำอะไรเป็นที่ขัดเคืองหูตานางไปหมด ตำหนิว่ากล่าว และขัดคอไปเสียทุกเรื่องทุกอย่าง
แบบนี้ เห็นทีความเจริญในครอบครัวคงจะเกิดยาก
สามีภรรยาคู่หนึ่งเข้าตำราแบบนี้ อะไรทุกอย่างในบ้าน เมียพูดทุกวันว่าเป็นสมบัติของนางคนเดียว นางหามาเพียงคนเดียว
คืนหนึ่ง เมียก็บอกผัวให้ปิดประตูหน้าต่างให้ดี เดี๋ยวจะโดนโจรกรรมย่องเบา
สามีก็เลยบอกเมียว่า...ก็ช่างมันปะไร เพราะทุกอย่างในบ้านไม่มีอะไรที่เป็นสมบัติของฉันเลยนี่...
ผู้หญิงประเภทไวไฟ (คนละ ไวไฟ-WI-FI ภาษาอินเตอร์เนทนะ) ชอบมั่วผู้ชาย นิสัยอันนี้ส่งผลสะท้อนไปถึงการเป็นคนโกหกสามี
ไปภิรมย์ที่ไหนมาก็ไม่ทราบ แต่บอกสามีว่า ไปเล่นไพ่กับเพื่อนมา
กามราคะของผู้หญิงประเภทนี้น่าจะถึงแปดเท่า ตามที่ หิโตปเทศ กล่าวถึง และน่าจะเป็นภริยาคนเลี้ยงโคที่ผู้ชายหลายคนชอบใจ
เพื่อนผู้ชายของเราคนหนึ่ง บอกกับเราว่า
ไม่มีเวลานาทีชั่วโมงไหน จะสนุกสนานเท่ากับเวลาที่ขโมยมาจากเลขผานาทีของภริยา
เรียกว่า ขโมยกินอร่อยกว่ากินด้วยความชอบธรรม
ไหนๆ ก็วิสัชนากันด้วยนิทานมาแล้ว ผมขอเล่านิทานข้างหมอนอีกสักเรื่องก็แล้วกัน
กาลครั้งหนึ่ง...นานมาแล้ว คุณผู้ชายตื่นนอนตอนเช้าก็ลงมาเดินเล่นในสวนดอกไม้หลังบ้าน พบสาวใช้ที่เล็งไว้หลายวันแล้วกำลังตัดดอกกุหลาบ
ถามว่าตัดดอกกุหลายไปทำอะไร
สาวใช้ซึ่งเล็งคุณผู้ชายอยู่นานแล้วเหมือนกัน ตอบว่า วันนี้วันเกิดคุณผู้หญิงไงคะ และเรากำลังจะจัดพาร์ทีที่บ้านคืนนี้
คุณผู้ชายนึกออก แต่ก็ชวนสาวใช้มาที่ม้านั่งข้างพุ่มกุหลาบ เสร็จแล้วก็ล้างหน้าไก่กับสาวใช้คนสวยบนม้านั่ง
ระหว่างนั้น...คุณผู้ชายอยู่ล่าง สาวใช้อยู่บน สายตาคุณผู้ชายเหลือบมองขึ้นไปข้างบน เห็นคุณนายของบ้านติดกันกำลังยืนดูมาจากหน้าต่างชั้นบน
คุณผู้ชายก็สงบสติไว้ไม่ออกปากจนเสร็จการเสร็จงานก็ขึ้นไปห้องนอน ปลุกเมียให้ตื่นแล้วบอกภริยาว่า วันนี้เป็นวันเกิดของเมียเราลงไปเดินเล่นในสวนดอกไม้กันเถอะ
เมียก็แสนซื่อ เดินตามสามีลงไปในสวน ถึงสวนแล้วคุณผู้ชายก็ชวนคุณผู้หญิงล้างหน้าไก่บนม้านั่งตัวเดิม เมียก็ตามใจสามีทุกเรื่อง
คืนนั้นเขาจัดงานพาร์ทีเล็กๆ คุณนายข้างบ้านก็มาร่วมงานตามที่ได้รับเชิญ พอได้โอกาสก็ดึงมือคุณผู้หญิงมาทางหนึ่งแล้วกระซิบเรื่องเล่าเช้านี้ให้ฟัง
คุณผู้หญิงฟังแล้วหัวร่อก๊าก บอกคุณนายข้างบ้านว่า พุทโธ่เอ๊ย...ก็นั่นมันฉันเองแหละค่ะคุณนาย...!
เรื่องโดย : ไก่อ่อน 4wheels@autoinfo.co.th
นิตยสาร 4wheels ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2552
คอลัมน์ Online : ทั่วไป
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/27861