ผมมีประสบการณ์ความประทับใจหลายอย่าง ตั้งแต่ช่วงที่เริ่มต้นชีวิตในวัยทำงาน โดยเฉพาะกับ คาสตรอล ย้อนกลับไปเมื่อปี 2539 นั่นคือจุดเริ่มต้นการทำงานในแวดวงหนังสือที่ผมชอบ โดยรับหน้าที่จัดทำนิตยสาร 4 WHEELS ตามโพรเจคท์ที่ บริษัท สื่อสากล จำกัด วางเป้าหมายไว้ แต่ก่อนที่นิตยสาร 4 WHEELS จะคลอดในเดือนมกราคม ปีถัดมา ระหว่างที่เตรียมตัวเรื่องต่างๆ อยู่ ก็ถูกขัดตาทัพ ยืมตัวไปช่วยงานหนังสือเล่มอื่นๆ ในบริษัท ฯ ก่อน รวมถึงหนังสือรถโบราณในสมัยนั้น สมาคมรถโบราณลุฟท์ ฮันซา-คาสตรอล ยังอยู่ในความอุปถัมภ์ของสายการบิน ลุฟท์ ฮันซา และคาสตรอล บุคคลแรกในอาชีพที่ผมต้องติดต่อด้วย คือ คุณการ์เล ฮาร์เตวา (KAARLE HARTEVA) ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่ง เลขานุการสมาคม ฯ ต้องใช้ชีวิตคลุกคลีอยู่กับเรื่องราวของรถโบราณพอสมควร อาศัยว่าบ้านอยู่บนถนนเดียวกัน เลยไปมาสะดวกในเรื่องการติดต่อสื่อสาร และก็ต้องอาศัยข้อมูลจาก พี่เล็ก พวงพรรณ รัตนปริคนณ์ (ปัจจุบันเป็นเหรัญญิก สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย) ซึ่งตอนนั้นทำงานที่ คาสตรอล เป็นคนเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ ในการทำงาน ทำให้ผมมีความรู้สึกผูกพันเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้

ผมมีประสบการณ์ความประทับใจหลายอย่าง ตั้งแต่ช่วงที่เริ่มต้นชีวิตในวัยทำงาน โดยเฉพาะกับ คาสตรอล ย้อนกลับไปเมื่อปี 2539 นั่นคือจุดเริ่มต้นการทำงานในแวดวงหนังสือที่ผมชอบ โดยรับหน้าที่จัดทำนิตยสาร 4 WHEELS ตามโพรเจคท์ที่ บริษัท สื่อสากล จำกัด วางเป้าหมายไว้ แต่ก่อนที่นิตยสาร 4 WHEELS จะคลอดในเดือนมกราคม ปีถัดมา ระหว่างที่เตรียมตัวเรื่องต่างๆ อยู่ ก็ถูกขัดตาทัพ ยืมตัวไปช่วยงานหนังสือเล่มอื่นๆ ในบริษัท ฯ ก่อน รวมถึงหนังสือรถโบราณ…ในสมัยนั้น สมาคมรถโบราณลุฟท์ ฮันซา-คาสตรอล ยังอยู่ในความอุปถัมภ์ของสายการบิน ลุฟท์ ฮันซา และคาสตรอล บุคคลแรกในอาชีพที่ผมต้องติดต่อด้วย คือ คุณการ์เล ฮาร์เตวา (KAARLE HARTEVA) ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่ง เลขานุการสมาคม ฯ ต้องใช้ชีวิตคลุกคลีอยู่กับเรื่องราวของรถโบราณพอสมควร อาศัยว่าบ้านอยู่บนถนนเดียวกัน เลยไปมาสะดวกในเรื่องการติดต่อสื่อสาร และก็ต้องอาศัยข้อมูลจาก “พี่เล็ก” พวงพรรณ รัตนปริคนณ์ (ปัจจุบันเป็นเหรัญญิก สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย) ซึ่งตอนนั้นทำงานที่ คาสตรอล เป็นคนเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ ในการทำงาน ทำให้ผมมีความรู้สึกผูกพันเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ แล้วมันเกี่ยวพันกับ คาสตรอล อย่างไร ? โดยหน้าที่การงานแล้ว เกี่ยวพันกันแบบสายตรงเลยละครับ เพราะ คาสตรอล เป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่น ที่ใช้ในยานยนต์ทุกชนิด มีหลายครั้งที่ผมถูกเชิญไปร่วมกิจกรรมแปลกๆ ใหม่ๆ ของ คาสตรอล เช่น ในปี 2538 ไปร่วมกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ท สัมผัสประสบการณ์ความมันกับทีมแข่ง WRC ของ โตโยตา ที่ คาสตรอล เป็นผู้สนับสนุน เคยไปนั่งรถแข่งที่ขับโดย ดิดิเยร์ ออริออล สมัยนั้นเขาดัง และมีฝีมือระดับแชมพ์โลก ถ้าให้เทียบกับนักแข่งแรลลีสมัยนี้ ประมาณว่า ฝีมือและความดังใกล้เคียงกับ เซบัสเตียง โลบ์…ครั้งนั้นสนุก ตื่นเต้น และเร้าใจสุดๆ ส่วนปี 2544 คาสตรอล ก็รับบทเป็นโต้โผ เชิญทีมฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเทด มาเตะนัดกระชับมิตรกับทีมชาติไทย และอีกหลายกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกันอยู่ ล่าสุดเมื่อต้นเดือนมิถุนายน ผมได้รับเชิญไปร่วมกิจกรรมการตลาด ”ARESENE WENGER ASIA TOUR IN MALAYSIA” การเดินทางครั้งนี้ มีแขกรับเชิญพิเศษร่วมขบวนไปด้วย ส่วนที่ผมพาดหัวไว้ว่า “อึ้ง” เพราะทุกครั้งที่เดินทางไปกับ คาสตรอล นั้น จะมีโพรแกรมที่เชิญสื่อมวลชนนานาชาติไปร่วมงานเสมอ “ทึ่ง” เพราะ คาสตรอล พยายามที่จะขยายตัวไปสู่วงการอื่นๆ มากขึ้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการโพรโมทบแรนด์ คาสตรอล ให้กว้างขวาง และเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วโลกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกิจกรรมที่เกี่ยวกับกีฬา ทั้งมอเตอร์สปอร์ทระดับโลก ที่ยังสนับสนุนอยู่ และล่าสุดเป็นออฟฟิเชียล พาร์ทเนอร์ ของมหกรรมฟุตบอลโลก 2010 ที่จัดขึ้น ณ ประเทศสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ โดยเล็งเห็นว่า “ฟุตบอล” เป็นกีฬามหาชนที่ผู้คนรู้จัก และให้ความสนใจในเกือบทุกทัวร์นาเมนท์ โดยเฉพาะรายการ ฟุตบอลยูโร และฟุตบอลโลก แต่ละครั้งที่ทำการแข่งขัน จะมีผู้คนจากทั่วโลกกว่า 715 ล้านคน เฝ้าติดตามผลการแข่งขัน จึงไม่แปลกใจที่เจ้าของผลิตภัณฑ์ทั้งหลาย จะพาเหรดกันเข้าไปเป็นผู้สนับสนุน ซึ่งก็มีทั้งรถยนต์ อุปกรณ์ไอที และอื่นๆ ส่วนที่ว่า “เสียว” นั้น เพราะวันที่เดินทาง เป็นช่วงที่ไข้หวัดมรณะระบาดหนัก เราต้องเจอมาตรการตรวจคนเข้าเมืองที่เข้มข้น ตรวจแล้วตรวจอีก ตรวจจนเกร็ง ตั้งแต่ขาออกนอกประเทศ จนถึงขาเข้าประเทศ กว่าจะผ่านด่านตรวจเล่นเอาเบื่อ แต่ก็ถือว่าสนุก และตื่นเต้น ตามสไตล์ คาสตรอล เขาละครับ