ค่าย โตโยตา (TOYOTA) มุ่งพัฒนารถไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีล้ำหน้า เพื่อออกสู่ตลาดภายในปี 2555 มีเป้าหมายจัดสถานีจ่ายกระแสไฟฟ้าเพื่อบริการลูกค้าได้ 150 สถานี ภายในปี 2552 โดยจะสร้างสถานีบริการน้ำมัน และไฟฟ้าอย่างน้อย 10 สถานี ภายในต้นปี 2553

ค่าย โตโยตา (TOYOTA) มุ่งพัฒนารถไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีล้ำหน้า เพื่อออกสู่ตลาดภายในปี 2555 มีเป้าหมายจัดสถานีจ่ายกระแสไฟฟ้าเพื่อบริการลูกค้าได้ 150 สถานี ภายในปี 2552 โดยจะสร้างสถานีบริการน้ำมัน และไฟฟ้าอย่างน้อย 10 สถานี ภายในต้นปี 2553 โตโยตา เปิดตัวรถแนวคิด เอฟที-อีวี (FT-EV) รถไฟฟ้าสำหรับใช้งานในเมือง ขุมพลังไฟฟ้าจากแบทเตอรี BEV (BATTERY ELECTRIC VEHICLE) ซึ่งพร้อมสู่ตลาดในปี 2555 โตโยตา เอฟที-อีวี ใช้พแลทฟอร์มร่วมกันกับ โตโยตา ไอคิว (IQ) ที่ได้รับความนิยมสูงในประเทศญี่ปุ่น โดย ไอคิว เป็นรถ 4 ที่นั่ง น้ำหนักเบา เพียบพร้อมด้วยความสะดวกสบาย และปลอดภัย ขณะเดียวกันก็มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่น่าประทับใจ ออกแบบประณีต สมรรถนะเร้าใจ ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างสนุกสนาน และเป็นที่ถูกใจของวัยรุ่น โตโยตา เอฟที-อีวี ถูกวางให้เป็นรถสำหรับใช้งานในเมือง โดยมีพิสัยเดินทางถึง 80 กิโลเมตรต่อการชาร์จกระแสไฟฟ้า 1 ครั้ง ทั้งยังสามารถใช้ร่วมกับระบบขนส่งมวลชนด้วยรางความเร็วสูงได้ด้วย ในขณะนี้ เอฟที-อีวี ยังเป็นรถแนวคิดอยู่ โดยอาจจะปรับเปลี่ยนรูปแบบตามความเหมาะสมในอนาคต จากสภาวะวิกฤตราคาน้ำมันที่มีโอกาสผันผวนได้ตลอดเวลา ทำให้เกิดความไม่แน่นอนขึ้นสำหรับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันปิโตรเลียม กระตุ้นให้ค่ายรถยนต์ต่างๆ ต้องพัฒนารถยนต์พลังงานทางเลือกขึ้น หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องพัฒนารถยนต์น้ำหนักเบาพิเศษอย่าง ไอคิว ที่มีน้ำหนักเบา และมีขนาดกะทัดรัด หนทางอยู่รอดของรถยนต์ในอนาคตยังเป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยาก ว่าจะลงเอยด้วยรถพลังงานไฟฟ้าหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์แต่ละรายจะพัฒนาขึ้นมา ระบบขับเคลื่อนของรถในอนาคต ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าจากพลังแบทเตอรี หรือรถใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่าง ไอคิว ยังเป็นโจทย์ที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์จะต้องคำนึงถึง นอกจากนั้นยังมีรูปแบบของรถยนต์ลูกผสมน้ำมัน-ไฟฟ้าเหมือนกับ ปรีอุส (PRIUS) ซึ่งทาง โตโยตา ได้ผลิตเป็นรุ่นที่ 3 แล้ว ปีที่แล้ว โตโยตา ประกาศจะขายรถยนต์ลูกผสมน้ำมัน-ไฟฟ้าให้ได้ถึงล้านคัน/ปี ก่อนปี 2553 โดย โตโยตา มีแนวคิดจะเปิดตัวรถลูกผสมรุ่นใหม่ถึง 10 รุ่น เพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่มากขึ้น โดยตอนต้นปีที่ผ่านมา ทาง โตโยตา ได้วางตลาดด้วยรถ 2 รุ่น คือ ปรีอุส รุ่นที่ 3 และเลกซัส เอชเอส 250 เอช ในปีที่ผ่านมา โตโยตา มีแผนจะวางตลาดรถไฟฟ้าแบบ พลัก-อิน (PHV: PLUG-IN HYBRID VEHICLES) ในรูปแบบของรถให้เช่าทั่วโลก โดยจะวางตลาด 500 คันทั่วโลก พร้อมดำเนินการได้ในปลายปี 2552 นี้ โดยใช้ขุมพลังแบทเตอรี ลิเธียม-ไอออน ทั้งหมด แบทเตอรีแบบ ลิเธียม-ไอออน รุ่นแรกนี้ ประกอบขึ้นที่โรงงาน PEVE (PANASONIC EV ENERGY COMPANY, LTD.) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตแบทเตอรีที่ โตโยตา ถือหุ้นอยู่ 60 เปอร์เซนต์ ในขณะเดียวกันทางโรงงานกำลังพัฒนาแบทเตอรีสำหรับ ปรีอุส ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบ พลัก-อิน พร้อมกับแบทเตอรี ลิเธียม-ไอออน และแบทเตอรี นิคเคิล-เมทัล ไฮดไรด์ สำหรับขุมพลังลูกผสมไฟฟ้า และน้ำมันเหมือนกับที่เคยใช้อยู่ สำหรับรถไฟฟ้าแบบ พลัก-อิน ที่จะเริ่มวางตลาดในปลายปีนี้ ทางบริษัท ฯ จะใช้เป็นข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์ด้านการตลาด และวิศวกรรม โดยจะเก็บข้อมูลด้านสมรรถนะ และความทนทานต่อการใช้งานของแบทเตอรีแบบ ลิเธียม-ไอออน รุ่นแรก นอกจากนั้นยังเป็นการสำรวจผลการใช้งานรถไฟฟ้าแบบ พลัก-อิน ก่อนที่จะวางตลาดทั่วโลกในอนาคต นับว่าเป็นการปรับตัวของ โตโยตา อีกครั้ง ที่ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างรถขึ้นมาแล้วขายไป แต่มันคือการหาทางออกที่ท้าทาย ในการฝ่าวิกฤตการณ์ที่อาจเกิดขึ้นอีกครั้งในอนาคตอันใกล้นี้