แฟนๆ “เกาะกระแส” เคยสังเกตไหมว่ารถยนต์รุ่นใหม่ จากญี่ปุ่นที่จำหน่ายโดยผู้นำเข้าอิสระ มักจะมีสติคเกอร์ชิ้นเล็กๆ ติดอยู่ที่มุมกระจกหรือส่วนต่างๆ ของตัวรถ ขณะที่รถประกอบในบ้านเราหลายๆ คันก็มีสติคเกอร์เหล่านี้ติดมาด้วย

แฟนๆ “เกาะกระแส” เคยสังเกตไหมว่ารถยนต์รุ่นใหม่ จากญี่ปุ่นที่จำหน่ายโดยผู้นำเข้าอิสระ มักจะมีสติคเกอร์ชิ้นเล็กๆ ติดอยู่ที่มุมกระจกหรือส่วนต่างๆ ของตัวรถ ขณะที่รถประกอบในบ้านเราหลายๆ คันก็มีสติคเกอร์เหล่านี้ติดมาด้วย สติคเกอร์ที่ว่า ได้รับความนิยมจากบรรดานักแต่งที่อยากให้รถตัวเองเหมือนรุ่นที่ขายในญี่ปุ่น จนกลายมาเป็น “แฟชัน” สติคเกอร์ โดยที่ส่วนใหญ่ไม่รู้ความหมายของมันเลย ต่อไปนี้ คือ ตัวอย่างสติคเกอร์ 5 แบบ ที่นักแต่งรถชอบหามาแปะรถ 1. วงรีสีฟ้ามีดาว ลูกโลกสีเขียว สติคเกอร์ทั้งสอง กำลังบอกเราถึงมลพิษ และความประหยัด... สติคเกอร์วงรีสีฟ้า รูปดาว แสดงการปล่อยไอเสียในระดับต่างๆ ของรถยนต์รุ่นนั้นๆ โดยจำนวนดาวจะแสดงถึงประสิทธิภาพการลด การปล่อยไอเสียชนิด NMHC (NON-METHANE HYDROCARBON) NOX (NITROGEN OXIDE) และ CO (CARBON MONOXIDE) ซึ่งสามารถแยก 3 ระดับ - 3 ดาวขึ้นไป ULTRA-LOW EMISSION VEHICLE ลดไอเสียได้ 75 % อยู่ในระดับยอดเยี่ยม - 2 ดาว EXCELLENT-LOW EMISSION VEHICLE ลดไอเสียได้ 50 % อยู่ในระดับดีที่สุด - 1 ดาว GOOD-LOW EMISSION VEHICLE เท่ากับ ลดไอเสียได้ 25 % อยู่ในระดับดี อย่างไรก็ตามตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา รถยนต์รุ่นใหม่ๆ ส่วนใหญ่มาตรฐานไอเสียมักอยู่ที่ 3 และ 4 ดาว ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ส่วนของสติคเกอร์ลูกโลกสีเขียว ติดอยู่บนกระจกรถบานหลังด้านขวาแสดงถึง ประสิทธิภาพความประหยัดน้ำมันของรถคันนั้นๆ โดยจะมีสติคเกอร์ 6 แบบ ได้แก่ ผ่านเกณท์มาตรฐาน,+5,+10,+15,+20 ,+25 % ยิ่งตัวเลขมากยิ่งประหยัดมาก 2. JAF JAF เป็นสมาพันธ์รถยนต์ของญี่ปุ่นที่ให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ชื่อเต็มๆ คือ JAPAN AUTOMOBILE FEDERATION ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1962 ปัจจุบันมีสมาชิกไม่ต่ำกว่า 17 ล้านคน มีบริการต่างๆ ให้แก่สมาชิก เช่น สอนเทคนิคการขับขี่ปลอดภัย บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน บริการรถลาก แปลใบขับขี่สากล เป็นต้น เมื่อก่อนรถบางคันที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่น หรือคันที่ซื้อ "หัวตัด" จากเซียงกงมาใส่ บริเวณกระจังหน้าจะติดตรา JAF สีเงิน ซึ่งแสดงให้รู้ว่ารถคันนี้เป็นสมาชิกของ JAF ปัจจุบันในกลุ่มผู้ใช้รถยุคใหม่ไม่ค่อยมีใครสนใจกันแล้ว แต่จะนิยมติดกันสติคเกอร์เอามากกว่า สติคเกอร์ของ JAF ที่นิยมในตอนนี้ เป็นจำพวกตราที่ระลึกครบรอบ 20 และ 30 ปี ที่หายาก รวมถึงสติคเกอร์เตือนให้คนภายในรถคาดเข็มขัดนิรภัย เตือนประตูรถหนีบ หรือตราสามเหลี่ยมสีแดง แปะบริเวณด้านท้ายรถ เพื่อแสดงหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินเวลาต้องการความช่วยเหลือ 3. วงกลมขอบสีฟ้ามีรูปรถอยู่ข้างใน ในญี่ปุ่นหากคุณจะมีรถสักคัน จะต้องยืนยันว่าจะมีที่จอดรถแน่ๆ ก่อน ถึงจะมีสิทธิ์ซื้อรถได้ หลังจากซื้อรถยนต์เรียบร้อยแล้ว ทางการจะมีสติคเกอร์ชนิดนี้ให้ติดแสดงไว้ โดยรถยนต์ทั่วไป ให้ติดบริเวณกระจกรถหลังมุมล่างด้านซ้าย รถบรรทุกให้ติดไว้บริเวณด้านซ้ายของประตูรถ ข้อความในสติคเกอร์แสดงถึงเลขทะเบียน และจังหวัดที่จดทะเบียน ชื่อสถานที่ และที่จอดรถประจำ 4. วงกลมสีขาว/แดง ตัวเลขล้อมรอบ รถบางคันมีสติคเกอร์ชนิดนี้ติดอยู่บริเวณด้านซ้ายของกระจก สติคเกอร์ที่ว่า คือ ป้ายภาษี โดยจะแสดงเดือนที่หมดอายุเอาไว้ตรงกลาง กำหนดให้ติดบริเวณกระจกด้านหน้ามุมขวาบน หรือมุมซ้ายบนสำหรับรถพวงมาลัยซ้าย วงนอกแสดงถึงเดือนที่หมดอายุ โดยเดือนที่หมดอายุจะใช้วิธีการดึงสติคเกอร์ตัวเลขชิ้นเล็กๆ ออกให้เห็นตัวเลขด้านใน จะรู้ได้ทันทีว่ารถคันนี้เดือนไหนต้องเสียภาษีแล้ว ส่วนกลางวงกลมจะเป็นปีเฮเซ (คือ การนับปีตามรัชสมัยการปกครองของจักรพรรดิ์ญี่ปุ่น) แสดงปีที่หมดอายุ ด้านหลังแสดงหมายเลขทะเบียน ศูนย์บริการที่เราไปตรวจสภาพรถ และวัน/เดือน/ปีที่ครบรอบเสียภาษี 5. ล้อเลียนสติคเกอร์แสดงการปล่อยไอเสีย เป็นสติคเกอร์แฟชันฮาๆ ยี่ห้อ AMUZ AUTO GRAFFITI SCENE ที่ทำเลียนแบบสติคเกอร์ของจริง โดยทำล้อเลียนสติคเกอร์การปล่อยไอเสีย เป็นรูปหัวกะโหลกไขว้ แล้วเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า “เพิ่มมลพิษ” แทน หรือทำเป็นสติคเกอร์ง่วง รูปตัว “ZZZ” แล้วเขียนว่าง่วงนอนมาก เป็นต้น ซึ่งนิยมในหมู่วัยรุ่นที่ชอบแต่งรถในญี่ปุ่น และขณะนี้กำลังเข้ามาระบาดในเมืองไทย สติคเกอร์เหล่านี้ส่วนมากเป็นของแท้ และนำเข้ามาจากญี่ปุ่นพร้อมกับอะไหล่รถ ส่งมาขายต่างหากบ้าง โดยผู้ที่นิยมซื้อไปแปะรถ มักเป็นกลุ่มวัยรุ่น และวัยเริ่มต้นทำงานที่นิยมแต่งรถ การนำเข้ามามีหลายวิธี อย่างสติคเกอร์ตราแสดงที่จอดรถ หรือสติคเกอร์แสดงระดับการปล่อยไอเสียของรถยนต์ จะมีกลุ่มคนไทยที่อยู่ที่ญี่ปุ่น ซึ่งรู้จักกับบุคคลที่ทำงานภายในหน่วยงานนั้นๆ นำออกมาขาย ส่วนสติคเกอร์ประเภทตรายี่ห้อรถ รูปการ์ตูน หรือตราทีมแข่งต่างๆ จะซื้อตามร้านแต่งรถที่ขายกันในญี่ปุ่น และมีคนส่งมาให้ขายอีกที ราคาของสติคเกอร์แต่ละชิ้นขายในบ้านเราประมาณ 100-500 บาท สติคเกอร์ประเภทนี้มีทั้งของแท้และเทียม ราคาแพงบ้างถูกบ้างตามสภาพ ที่มา รวมถึงความนิยมของสติคเกอร์ตัวนั้นๆ โดยสติคเกอร์ที่ทำในบ้านเราจะสังเกตได้ง่ายๆ ว่าตัวอักษร หรือเนื้อสติคเกอร์จะไม่เหมือนต้นฉบับ โดนแดดไปนานๆ สีจะซีดจาง ซึ่งต่างจากของที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่น ที่สีสันจะสดใสได้นานกว่า หากใครชื่นชอบ ไปหาซื้อมาติดกันก็ได้ ส่วนใหญ่มีขายในเวบไซท์แต่งรถครับ ขอขอบคุณ เอกชัย ปิยะมงคลกุล เอื้อเฟื้อสติคเกอร์เพื่อถ่ายภาพประกอบ