ผลทดสอบ
ฮันเด ซันตา เฟ สปอร์ทเอสยูวี สัญชาติเกาหลี หวนกลับคืนสู่ตลาดรถเมืองไทยอีกครั้ง หลังเคยนำ ซันตา เฟ รุ่นแรก เข้ามาจำหน่าย การกลับมาครั้งนี้ มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าครอบครัว
ที่ต้องการรถรูปทรงทันสมัย สำหรับเดินทางท่องเที่ยว และพักผ่อน รวมทั้งใช้งานประจำวัน
ฮันเด ซันตา เฟ ซีอาร์ดีไอ 2.2 ลิตร 4 สูบ 150 แรงม้า ราคา 2,550,000 บาท
คู่แข่งในตลาด
เกียร์ โซเรนโต ซีอาร์ดีไอ 2.5 ลิตร 4 สูบ 140 แรงม้า ราคา 1,838,000 บาท
เชฟโรเลต์ แคพทีวา 2.4 ลิตร 4 สูบ 142 แรงม้า ราคา 1,450,000 บาท
นิสสัน มูราโน 2.5 ลิตร 4 สูบ 163 แรงม้า ราคา 2,950,000 บาท
ซังยง เรกซ์ตัน ทู เอกซ์วีที 2.7 ลิตร 5 สูบ 186 แรงม้า ราคา 2,830,000 บาท
ข้อเด่น
- เส้นสายภายนอกทันสมัย สวยมีสไตล์
- ห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย
- เครื่องยนต์เล็ก ขับสนุก ไม่แพ้บลอคใหญ่
- เกียร์อัตโนมัติ และระบบขับเคลื่อนทันสมัย
ข้อด้อย
- ศูนย์บริการมีน้อย
- คอนโซลหน้าดูเรียบง่าย
- ราคาค่าตัวยังแพง
ฟันธง
เอสยูวีเลือดโสม ราคาเกินตัว สมรรถนะโดนใจ
ฮันเด ซันตา เฟ สปอร์ทเอสยูวี สัญชาติเกาหลี หวนกลับคืนสู่ตลาดรถเมืองไทยอีกครั้ง หลังเคยนำ ซันตา เฟ รุ่นแรก เข้ามาจำหน่าย การกลับมาครั้งนี้ มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าครอบครัว
ที่ต้องการรถรูปทรงทันสมัย สำหรับเดินทางท่องเที่ยว และพักผ่อน รวมทั้งใช้งานประจำวัน
4 WHEELS จึงนำรถรุ่นนี้มาทดสอบสมรรถนะ และวัดอัตราสิ้นเปลือง ด้วยเครื่องมือดาทรอน
ภายนอก 4 ดาว
สวยหรู โฉบเฉี่ยว
รูปทรงสปอร์ททันสมัย แนวเส้นฝากระโปรง และแก้มข้างดูลงตัว โคมไฟหน้าแบบโพรเจคเตอร์ รวมไฟเลี้ยว และไฟหรี่ไว้ในโคมเดียวกัน ดีไซจ์นแปลกตา กระจังหน้าขนาดใหญ่ลายรังผึ้งสีดำ เน้นความเป็นสปอร์ท และยังช่วยให้อากาศไหลผ่านไปในห้องเครื่องยนต์ได้ดี กันชนหน้าเว้าเป็นช่องรับลม เพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนอากาศ ด้วยดีไซจ์นที่กลมกลืนไปกับไฟตัดหมอกทรงรี โป่งล้อด้านข้าง แม้จะดูไม่ใหญ่ แต่ก็เพียงพอสำหรับรองรับล้อ และยางใหญ่ได้สบาย หลังคาติดตั้งซันรูฟ สไตล์เอสยูวีหรู กระจกมองข้างสีทูโทน
ท้ายรถโค้งมนดูใหญ่ ชุดไฟท้ายใหญ่ ออกแบบเข้ารูปกับของไฟหน้า สปอยเลอร์หลังสีเดียวกับตัวรถ พร้อมไฟเบรคดวงที่ 3 แบบแอลอีดี ติดตั้งมือจับประตูด้านท้าย ช่วยให้เปิด/ปิดสะดวก ใต้กันชนใช้ท่อไอเสียคู่ เสริมมาดสปอร์ท เพิ่มไฟตัดหมอกหลัง เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ขณะฝนตก หรือหมอกจัด
ภายใน 3 ดาว
ดีไซจ์นเรียบง่าย อุปกรณ์ครบ
ห้องโดยสารกว้าง ทรงโปร่ง ให้ความรู้สึกสบาย การตกแต่งโดยรวมเน้นความเรียบง่าย ตามสไตล์รถเกาหลี ไม่หรูจนชวนสะดุดตา แม้จะตกแต่งลายไม้ที่แผงคอนโซล และแผงข้างประตู แล้วก็ตาม การจัดวางอุปกรณ์ และแผงควบคุมต่างๆ ใช้งานสะดวก เรือนไมล์ และมาตรวัดเรืองแสงทรงกลม เล่นลวดลายบนพื้นดำด้วยสีฟ้า
ภายใต้ความเรียบง่ายนี้ ยังอัดแน่นด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย พวงมาลัย 4 ก้าน แบบมัลทิฟังค์ชัน มีปุ่มควบคุมขนาดใหญ่ ใช้งานง่าย สามารถควบคุมระบบเสียง และควบคุมความเร็วอัตโนมัติได้ เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า แถวที่ 3 สามารถพับเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ ด้านหลังยังมีช่องแอร์แบบแยกส่วน ให้ความเย็นได้ทั่วถึง
การป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก ซันตา เฟ ตกแต่งภายในสไตล์เรียบง่าย แต่มีการป้องกันเสียงรบกวนที่ดี ช่วงความเร็วต่ำ 60-100 กม./ชม. ยังป้องกันเสียงได้ดี วัดค่าได้ 53-60 เดซิเบล และดีกว่าคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน ในช่วงความเร็วสูงขึ้นไป 120-140 กม./ชม. เสียงรบกวนภายในห้องโดยสารดี อยู่ในเกณฑ์เงียบ วัดได้ 65-68 เดซิเบล พอๆ กับ ซังยง เรกซ์ตัน ทู
เครื่องยนต์ 4 ดาว
คอมมอนเรล ประหยัด/แรงพอตัว
ขุมพลังแบบดีเซล CRDI 2.2 ลิตร คอมมอนเรล ความจุ 2.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 4,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 34.2 กก.-ม. ที่ 1,800-2,500 รตน. ระบบถ่ายทอดกำลัง
อัตโนมัติ 5 จังหวะ
ระบบขับเคลื่อนแบบล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ ตลอดเวลา ควบคุมด้วยไฟฟ้า ทอร์ค ออน ดีมานด์ มีเซนเซอร์สำหรับตรวจจับสภาพถนน และการขับขี่ เพื่อปรับให้ระบบกลไกเครื่องยนต์ทำงานสัมพันธ์กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยอัตโนมัติ เมื่ออยู่ในสภาพที่ต้องการ พร้อมปุ่ม 4WD LOCK สำหรับการขับขี่ผ่านสภาพถนนที่อาจมีการลื่นไถล หรือเส้นทางทุรกันดารที่ต้องใช้ความระมัดระวังสูง
ซันตา เฟ แม้จะมีตัวรถใหญ่ การลือกใช้เครื่องยนต์บลอคเล็ก ที่ให้แรงม้า และแรงบิด มาพอตัว โดยคำนึงถึงความประหยัด เน้นใช้งานดี ทั้งในและนอกเมือง อัตราเร่งออกตัว และการเร่งแซง จึงไม่จี๊ดจ๊าด ทำได้อยู่ในระดับกลางๆ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ตามหลัง เรกซ์ตัน ทู ที่ใช้เครื่องยนต์ 2.7 ลิตร บลอคใหญ่กว่าเพียง 1 วินาที
สำหรับอัตราสิ้นเปลือง อยู่ในเกณฑ์ที่น่าใช้ เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ช่วยให้มีรอบที่ต่ำ ช่วงความเร็วต้น 60 กม./ชม. จนถึงในช่วงความเร็วปลาย 140 กม./ชม. ผลทดสอบออกมา
ตัวเลขประหยัดกว่าคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน ทุกช่วงความเร็ว
ระบบรองรับ 4 ดาว
นุ่มหนึบ ยึดเกาะถนน
ระบบรองรับ เลือกใช้ชอคอับไฮดรอลิค ให้ความมั่นใจในการขับทุกสภาพถนน พร้อมระบบยกตัวด้านท้ายรถแบบอัตโนมัติ เมื่อบรรทุกสัมภาระ หรือมีผู้โดยสารหลายคน ช่วยรักษาสมดุล
ของรถ ให้รถมีสมรรถนะการทรงตัวที่ดีอยู่ตลอดเวลา
ระบบรองรับด้านหน้าอิสระ แบบแมคเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง แข็งแกร่ง ทรงตัวดี ด้านหลังอิสระ มัลทิลิงค์ มาพร้อมระบบรองรับคอยล์สปริง ให้ความนุ่มนวล และยึดเกาะถนนทุกสภาพการขับขี่ แต่พวงมาลัยจะตอบสนองเร็ว จึงต้องควบคุมให้นิ่ง ส่วนระบบเบรค ด้านหน้าแบบจาน พร้อมช่องระบายความร้อน ด้านหลังแบบจาน ยังให้ความมั่นใจได้
วัดจากระยะเบรคของ ซันตา เฟ เมื่อหยุดรถที่ความเร็ว 60 กม./ชม. ใช้ระยะ 16.8 ม. อยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ ดีกว่าคู่แข่งร่วมชาติอย่าง ซังยง เรกซ์ตัน ทู ที่ทำไว้ 17.1 ม. และใกล้เคียงกับ
ฟอร์ทูเนอร์ 2.7 ลิตร ส่วนเบรคที่ความเร็ว 80 กม./ชม. ทำได้ดี และดีกว่าคู่แข่งในกลุ่ม เบรคที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ยังทำได้ดีพอๆ กับคู่แข่งอย่าง แคพทีวา และ มูราโน ที่ทำไว้
(42.3/42.9 ม.)
สรุป
ราคาดุดัน สมรรถนะคุ้ม
ฮันเด ซันตา เฟ กลับมาลุยตลาดเอสยูวี ระดับหรู อีกครั้ง ด้วยรูปลักษณ์ทันสมัย ภายในแม้จะไม่หรูล้ำ แต่กว้างขวางนั่งสบาย อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ เครื่องยนต์บลอคเล็ก
แต่แรงเกินตัว สมรรถนะดี ขับสนุก ประหยัด ระบบรองรับทันสมัย ควบคุมรถได้ดี กับราคาที่ตั้งไว้ 2.55 ล้านบาท อาจทำให้เศรษฐีน้อย/ใหญ่ ต้องคิดหนัก แต่ถ้าได้ลองขับแล้ว อาจจะต้องมนต์เสน่ห์เอสยูวี 7 ที่นั่ง คันนี้ก็เป็นได้
ฮันเด ซันตา เฟ
ผู้จำหน่าย บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0-2511-2555
www.hyundai-moter.co.th
มิติและน้ำหนัก
ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,650/1,890/1,795
ช่วงล้อหน้า/หลัง (มม.) 1,615/1,620
ฐานล้อ (มม.) 2,700
น้ำหนัก (กก.) 1,800
ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง (ลิตร) 75
เครื่องยนต์
ชนิด ดีเซล คอมมอนเรล 4 สูบ เทอร์โบ อินเตอร์คูเลอร์
ความจุ (ซีซี) 2,188
กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 87.0/92.0
อัตราส่วนกำลังอัด 17.3:1
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 150/4,000
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 34.1/1,800-2,500
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง ไดเรคท์อินเจคชัน แบบคอมมอนเรล
ระบบถ่ายทอดกำลัง
เกียร์อัตโนมัติ (จังหวะ) 5
ขับเคลื่อน (ล้อ) 4 ทอร์ค ออน ดีมานด์
ระบบรองรับ
หน้า แมคเฟอร์สันสตรัท ชอคอับไฮดรอลิค เหล็กกันโคลง
หลัง มัลทิลิงค์ ชอคอับไฮดรอลิค เหล็กกันโคลง
ระบบบังคับเลี้ยว
แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน แปรผันตามความเร็วเครื่องยนต์
ระบบห้ามล้อ
แบบ เอบีเอส และอีบีดี
หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน
หลัง จาน
ราคา (บาท) 2,550,000
อัตราเร่ง (วินาที)
0-60 กม./ชม. 5.4
0-80 กม./ชม. 8.8
0-100 กม./ชม. 12.8
0-120 กม./ชม. 18.5
0-140 กม./ชม. 26.2
0-160 กม./ชม. N/A
0-400 ม. 18.7 ที่ความเร็ว 120.5 กม./ชม.
0-1,000 ม. 34.3 ที่ความเร็ว 151.6 กม./ชม.
อัตราเร่งยืดหยุ่น (วินาที)
40-120 กม./ชม. 15.1
60-100 กม./ชม. 7.0
80-120 กม./ชม. 9.3
ห้ามล้อเมื่อหยุดรถกะทันหันจากความเร็ว (ม./ค่าจี)
60-0 กม./ชม. 16.8 (0.84)
80-0 กม./ชม. 28.4 (0.89)
100-0 กม./ชม. 43.6 (0.90)
ระดับเสียงรบกวนในห้องโดยสาร (เดซิเบล A)
ขณะจอดนิ่งปิดแอร์ 45
ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. 53
ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. 55
ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. 60
ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. 65
ที่ความเร็ว 140 กม./ชม. 68
ความคลาดเคลื่อนของมาตรวัดความเร็ว (กม./ชม.)
ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. 55
ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. 75
ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. 95
ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. 115
ที่ความเร็ว 140 กม./ชม. 134
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
ความเร็วคงที่ (กม./ชม.) กม./ลิตร ลิตร/100 กม.
60 18.5 5.4
80 17.4 5.8
100 13.3 7.5
120 11.3 8.9
140 9.2 10.9
หมายเหตุ: ผ่านการใช้งาน 14,408 กม.
เรื่องโดย : ณัฐเวช ยอดแสง nattawate@autoinfo.co.th
นิตยสาร 4wheels ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2551
คอลัมน์ Online : ผลทดสอบ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/26719