ผ่านไป 9 เดือนแล้ว หลังจากที่กรมการประกันภัย กระทรวงพาณิชย์ สั่งให้บริษัท สัมพันธ์ประกันภัย จำกัด หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2550 เป็นต้นไป จนกว่าจะสามารถแก้ไขปรับปรุงฐานะ ถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถจะบอกถึงอนาคตของสัมพันธ์ประกันภัย ฯ จะกลับมารอดได้อย่างไร

ผ่านไป 9 เดือนแล้ว หลังจากที่กรมการประกันภัย กระทรวงพาณิชย์ สั่งให้บริษัท สัมพันธ์ประกันภัย จำกัด หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2550 เป็นต้นไป จนกว่าจะสามารถแก้ไขปรับปรุงฐานะ ถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถจะบอกถึงอนาคตของสัมพันธ์ประกันภัย ฯ จะกลับมารอดได้อย่างไร อยากจะให้ย้อนไปดูความเห็นของบุคคลสำคัญอีกครั้งหนึ่ง เพื่อนำมาประกอบว่าอนาคตของบริษัทสัมพันธ์ประกันภัย ฯ จะเป็นอย่างไร สัมพันธ์ ฯ โคมา ! ค้างสินไหมอื้อ เบี้ยวหนี้อู่ซ่อม จ่อถูกปิดอีกราย นาง จันทรา บูรณฤกษ์ อธิบดีกรมการประกันภัย ระบุว่า บริษัท สัมพันธ์ประกันภัย ฯ ต้องนำเงินสดเข้ามาเพิ่มเงินกองทุน และเพิ่มสภาพคล่องอีก 1,000 ล้านบาท เนื่องจากมีปัญหาขาดสภาพคล่องภายในเดือน มิย.นี้ หากไม่ทัน จะดำเนินการตามกฎหมายขั้นสูงสุด คือ การยึดใบอนุญาต (นสพ.ไทยโพสต์ 2 กค. 2550) นาง จันทรา บูรณฤกษ์ อธิบดีกรมการประกันภัย เปิดใจ 8 เดือนนับจาก เข้ามารับตำแหน่งอธิบดีกรมการประกันภัยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 ลุยสางปัญหาบริษัทขาดสภาพคล่องมาตลอด ตามบัญชีดำ มี 5 บริษัท และ "สัมพันธ์ ฯ" หนักสุด เพราะเป็นเบอร์ 2 ประกันรถยนต์ สั่งผู้บริหารทุนใหม่ อัล ไดเซล (AL DAICEL) จากกาตาร์ ส่งแผนฟื้นฟูในวันที่ 6 กค. นี้ บีบวางเงินมัดจำกันตลบหลัง หากแผนไม่ผ่านมีสิทธิ์ถูกสั่งหยุดรับประกันชั่วคราว กรณีสัมพันธ์ประกันภัย ฯ ถือเป็นบริษัทที่น่าหนักใจมากที่สุดในบรรดา 5 บริษัท ที่มีปัญหาฐานะการเงิน เนื่องจากมีขนาดใหญ่มาก มีเบี้ยรถยนต์มากเป็นอันดับ 2 ของธุรกิจ ซึ่งอธิบดีกรมการประกันภัยกล่าวว่า ตลอด 8 เดือนที่เข้ามาทำงาน ติดตามปัญหาของสัมพันธ์ ฯ ใกล้ชิดตลอดเช่นกัน โดยล่าสุดทางผู้บริหารบริษัท ฯ แจ้งอย่างเป็นทางการว่ามีทุนจากประเทศกาตาร์ ชื่อบริษัท อัล ไดเซล เป็นบริษัทขนาดใหญ่ของประเทศ ประกอบธุรกิจเหล็ก สนใจจะเข้ามาร่วมทุน ซึ่งตนได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น บริษัท ฯ นี้มีตัวตนจริง และยังได้โทรศัพท์ไปที่บริษัทที่ประเทศกาตาร์ เพื่อเชคข้อมูลด้วยตนเอง พบว่าบุคคลที่ทาง สัมพันธ์ ฯ ระบุชื่อมาในจดหมายที่แจ้งมา มีตัวตนจริงเช่นกัน และเป็นประธานบริษัท ฯ (นสพ.สยามธุรกิจ 09 กค. 2550) ปัญหาสัมพันธ์ ฯ บานปลาย อู่ทั่วอีสานประท้วงเรียกร้องให้จ่ายสินไหม (นสพ.มติชน 13 กค. 2550) อู่ไล่บี้ "สัมพันธ์ประกันภัย ฯ" เคลียร์หนี้ภายใน 3 วัน ปัญหา "สัมพันธ์ประกันภัย ฯ" เริ่มบานปลาย อู่ทั่วอีสานประท้วง เรียกร้องให้จ่ายสินไหมใบนัดที่ถึงกำหนดแล้วใน 3 วัน ส่วนสินไหมที่ค้างอยู่ต้องจ่ายใน 15 วัน สมาคมผู้ประกอบการอู่ลงมติไม่รับซ่อมอีกต่อไป ชี้หนี้เสียเกิน 500 ล้านบาทแล้ว ด้านอธิบดีกรมการประกันภัยเร่งประสานให้บริษัท ฯ จ่ายสินไหมผู้ร้องเรียน 400 ราย ภายในอาทิตย์หน้า ขีดเส้นหากเสริมสภาพคล่องไม่เสร็จใน 16 กค.นี้ จะสั่งหยุดกิจการ เผยเตรียมออกประกาศ 2 ฉบับ ป้องกันปัญหาในอนาคต คาดประกาศใช้ 1 กย. 50 ขณะที่นายหน้า และตัวแทนเริ่มตีจาก หันซบอกบริษัทคู่แข่งแทน ย้ำกรม ฯ ต้องคุมให้จ่ายสินไหมคืนอย่างเป็นธรรม จากกรณีปัญหาที่ลูกค้าประกันวินาศภัยกับทางบริษัท สัมพันธ์ประกันภัย จำกัด ได้รับความล่าช้าในการจ่ายค่าสินไหมทดแทน และการกดราคาซ่อม รวมถึงอู่รับซ่อมรถจำนวนมากปฏิเสธจะซ่อมรถที่ทำประกันกับบริษัทดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่า ไม่สามารถเรียกค่าสินไหมจากบริษัทประกันได้ อนาคต "สัมพันธ์ประกันภัย ฯ" ยังมืดมน ! กาตาร์ เมินใส่เงินอุ้ม "อัล ไดเซล" จากกาตาร์ ไม่สนซื้อหุ้นเพิ่มทุน หลังผู้บริหารให้รับผิดชอบหนี้นอกบัญชีกว่า 200 ล้านบาท วันชัย วัฒนามานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมพันธ์ประกันภัย ฯ กล่าวว่า ทางบริษัท อัล ไดเซล จากกาตาร์ ได้ปฏิเสธที่จะเข้ามาร่วมทุนกับบริษัทแล้ว วันชัย กล่าวว่า การปฏิเสธดังกล่าวก็เป็นผลให้บริษัท ฯ ต้องถูกกรมการประกันภัยออกคำสั่งห้ามขายกรมธรรม์ประกันภัยในช่วงที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุแท้จริงที่บริษัท อัล ไดเซล ตัดสินใจไม่เข้าร่วมทุนนั้น โดยส่วนตัวแล้วไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องของผู้ถือหุ้นกับบริษัท อัล ไดเซล ไปเจรจากันเอง แหล่งข่าวระดับสูงจากกรมการประกันภัย เปิดเผยว่า บริษัท อัล ไดเซล เลิกล้มความตั้งใจที่จะเข้าร่วมทุนกับบริษัท สัมพันธ์ประกันภัย ฯ เนื่องจากผู้บริหารบริษัท สัมพันธ์ประกันภัย ฯ ต้องการให้บริษัท อัล ไดเซล รับผิดชอบหนี้ที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีบริษัท ฯ หรือหนี้นอกระบบอีกกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนี้ที่เกิดจากการระดมทุนกับกลุ่มบริษัทนายหน้าประกันภัย อู่ซ่อมรถยนต์ และตัวแทนรายใหญ่ เพื่อนำมาเพิ่มทุนในรอบปีที่ผ่านมา บริษัท อัล ไดเซล ไม่ต้องการรับผิดชอบหนี้จำนวนดังกล่าว และยังไม่ไว้วางใจต่อระบบการทำบัญชีของบริษัทด้วย เพราะผู้สอบบัญชีไม่รับรองงบการเงินของบริษัท สัมพันธ์ประกันภัย ฯ ขณะนี้ บริษัท สัมพันธ์ประกันภัย ฯ ขาดเงินกองทุน 777 ล้านบาท ขณะที่ตามกฎหมายบริษัทประกันภัยจะต้องมีสภาพคล่องเต็ม 100 % แต่จากการประเมินสภาพคล่องของบริษัท สัมพันธ์ประกันภัย ฯ มีสภาพคล่องเพียง 22.19 % เท่านั้น โดยมีส่วนของทรัพย์สิน 1.93 พันล้านบาท มีหนี้สินถึง 2.71 พันล้านบาท มีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน 777 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่มาของการขาดเงินกองทุน (นสพ. โพสต์ทูเดย์ 24 กค. 2550) บิกวินาศภัยชี้ "สัมพันธ์ประกันภัย ฯ" ไม่น่าซื้อ (นสพ. สยามธุรกิจ ฉบับที่ 818 11-14 สค. 2550) "ชัย โสภณพนิช" อดีตนายก ส.วินาศภัยฟันธง ! สัมพันธ์ ฯ รอดยาก ไม่น่าซื้อ บัญชีมีปัญหาเยอะ เชื่อหนี้สินจริงมากกว่าตัวเลข ที่กรม ฯ เปิดเผย เกินพันล้านแน่นอน ประเมินอีก 6 เดือน เงินกองทุนติดลบเพิ่มอีกอย่างน้อย 400 ล้านบาท รวมกว่า 1,100-1,200 ล้านบาท ใครอยากซื้อต้องมีหน้าตักอย่างต่ำเท่านี้ เชื่อทุนนอกหันซื้อค่ายอื่นแทนเหตุคลีนกว่า แถมใช้เงินแค่ 300-400 ล้านบาท เป็นเจ้าของไลเซนส์ ได้แล้ว ด้านผู้บริหารสัมพันธ์ ฯ ขอ 60 วันเจรจาผู้ร่วมทุน พร้อมเคลียร์หนี้ผู้เอาประกัน-อู่-สรรพากร ร่วม 700 ล้านบาท ภายใน 30 วัน ชัย โสภณพนิช อดีตนายก สมาคมประกันวินาศภัย ให้ความเห็นกรณีบริษัท สัมพันธ์ประกันภัย จำกัด ที่กำลังดิ้นรนทุกวิถีทางแก้ไข ปัญหาขาดสภาพคล่องรุนแรง เงินกองทุนขาดจำนวนมาก จนถูกกรมการประกันภัยมีคำสั่งหยุดรับประกันภัยชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า ผู้ที่จะมาซื้อสัมพันธ์ประกันภัย ฯ ต้องมาประเมินราคาทรัพย์สิน หนี้สิน หรือทำดิวดิลิเจนท์เพื่อศึกษาดูว่าบริษัทมีทรัพย์สิน หนี้สินอะไรอยู่บ้าง ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าบัญชีภายในของบริษัทนี้มีปัญหาอยู่มาก และถ้าดูข้อมูลจริงไม่น่าซื้อเพราะติดลบมาก น่าจะมากกว่าตัวเลขที่กรมการประกันภัยเปิดเผยออกมา เพราะตัวเลขที่กรมการประกันภัยมีอยู่ในตอนนี้ เฉพาะผู้เอาประกันภัย และอู่ซ่อมที่มาร้องเรียนเท่านั้น แต่ยังมีผู้เอาประกันภัยที่เกิดเคลมและบริษัท ฯ ค้างจ่ายรวมถึงอู่ที่บริษัท ฯ ติดหนี้อยู่ และยังไม่ร้องเรียนเข้ามาอีก อีกทั้งยังมีหนี้สินในส่วนที่ผู้เอาประกันที่ตัวแทนย้ายไปทำกับบริษัทอื่น ซึ่งต้องยกเลิกกรมธรรม์ขอเบี้ยคืนจากสัมพันธ์ ฯ อีก "สิ่งที่บริษัทมีอยู่ตอนนี้แค่ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ (ไลเซนส์) พนักงาน ตัวแทน ในส่วนตัวแทนเริ่มย้ายงาน ย้ายลูกค้าไปบริษัทอื่นเยอะแล้วเช่นเดียวกับพนักงานที่ลาออกไปมากแล้วเช่นกัน เชื่อว่ายอดหนี้สินน่าจะเกินพันล้านบาท ซึ่งถ้าย้อนไปดูวิธีการรับงานของเขาในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา เขาใช้วิธีตัดราคาเพื่อแย่งงานจากคนอื่นรับงานที่มีราคาต่ำสุดในตลาด ดังนั้นงานที่ได้มาจะขาดทุนเบี้ยต่ำกว่าเคลมที่เกิดขึ้น และยิ่งรับงานใหม่เข้ามามากขึ้น ผลขาดทุนจะยิ่งมากขึ้นอีก" กฤตวิทย์ ศรีพสุธา กรรมการรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด เปิดเผยว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้บริษัทประกันเหล่านี้เกิดปัญหา ก็คือ ภาวะการเติบโตที่รวดเร็วเกินไปโดยมุ่งเน้นที่การขยายตลาด ด้วยการเสนอขายกรมธรรม์ที่คิดเบี้ยราคาถูกมากกว่า จะคำนึงถึงค่าใช้จ่ายทางธุรกิจ รวมถึงไม่ได้ตั้งทุนสำรองเอาไว้เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และเชื่อว่าเมื่อนำกฎเกณฑ์เพียงพอของเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยงของบริษัทประกันภัย (RISK BASE CAPITAL ADEQUENCY) มาบังคับใช้ น่าจะทำให้ป้องกันปัญหาดังกล่าว ได้ดีขึ้น ผู้บริหารวิริยะ ฯ ยอมรับว่า กรณีที่เกิดกับสัมพันธ์ประกันภัย ฯ พลอยทำให้วงการประกันภัย และ วิริยะ ฯ เดือดร้อนไปด้วย ก็ตรงที่ มีการคาดกันจากหลายฝ่ายว่า บริษัทพอร์ทใหญ่อย่างสัมพันธ์ ฯ ยังล้มได้ แล้วบริษัทเล็กหรือบริษัทอื่นก็คงมีชะตากรรมไม่ต่างกัน "เราเดือดร้อนด้วย เพราะลูกค้ามองว่าสั่นสะเทือนไปทั้งวงการ ก็มีบางรายที่ถอนประกันไปเลย" (นสพ. ผู้จัดการรายสัปดาห์ 16 สค. 2550) จากความเห็นข้างต้นของบุคคลสำคัญในวงการประกันภัย พอจะสรุปได้อย่างชัดเจนแบบที่เรียกว่า ปิดฝาโลงเลยทีเดียวว่า โอกาสของสัมพันธ์ประกันภัย ฯ กรณีครั้งนี้ไปไม่รอดแน่ๆ และฉบับหน้าจะเป็นฉบับจบ กรณีศึกษาสัมพันธ์ประกันภัย ฯ ไปไม่รอด ที่จะสรุปบทเรียนอันสำคัญนี้ต่อการประกันภัยในอนาคต คอยติดตามนะครับ