การเปลี่ยนศักราชใหม่ พร้อมการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ทำให้ผู้ประกอบการ เริ่มคาดหวังถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน แต่แนวทางใดที่จะสร้างให้ธุรกิจของตนเองเติบโตได้มากที่สุด 4 WHEELS สัมภาษณ์ มิจิโร อิมาอิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ถึงกลยุทธ์เพื่อสร้างความสำเร็จให้แก่ มิตซูบิชิ ในปีใหม่นี้

การเปลี่ยนศักราชใหม่ พร้อมการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ทำให้ผู้ประกอบการ เริ่มคาดหวังถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน แต่แนวทางใดที่จะสร้างให้ธุรกิจของตนเองเติบโตได้มากที่สุด 4 WHEELS สัมภาษณ์ มิจิโร อิมาอิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ถึงกลยุทธ์เพื่อสร้างความสำเร็จให้แก่ มิตซูบิชิ ในปีใหม่นี้ 4 WHEELS : ในสถานการณ์ปัจจุบันของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ฯ เป็นอย่างไร ? อิมาอิ : สถานการณ์ของบริษัท ฯ ในปัจจุบันยังไม่ค่อยดีเท่าที่ควร ยอดขายยังฟื้นตัวไม่มากนัก เนื่องจาก บริษัท ฯ ยังไม่มีผลิตภัณฑ์เพียงพอที่จะตอบสนองต่อกลุ่มผู้บริโภค ซึ่งการจะนำผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามาทำการตลาดนั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของบริษัทแม่ ที่ประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งที่ผ่านมา การสื่อสารระหว่างพนักงานขายกับเจ้าหน้าที่ของบริษัท ฯ ยังไม่เพียงพอ 4 WHEELS : มีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หรือไม่ ? อิมาอิ : ช่วงครึ่งหลังของปีนี้ (2551) บริษัท ฯ จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นรถพีพีวี นอกจากนี้ ในระหว่างปีจะมีการไมเนอร์เชนจ์ผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่รุ่นละ 2 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ บริษัทแม่ เริ่มมีการพูดถึงการพัฒนารถเล็ก แต่จะเป็นรถที่พัฒนาขึ้นสำหรับโครงการ อีโคคาร์ หรือไม่ ต้องพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากปัจจุบันบริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่นมี เคคาร์ ซึ่งเป็นรถขนาดเล็กอยู่แล้ว หากบริษัท ฯ ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ อีโคคาร์ รถที่นำเข้ามาขอรับการส่งเสริมการลงทุน อาจเป็น เคคาร์ ที่มีอยู่แล้ว หรือเป็นรถรุ่นใหม่ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาก็เป็นได้ ทั้งนี้ การพัฒนารถใหม่ บริษัทแม่คงไม่สามารถมองเฉพาะความต้องการในประเทศไทยได้ แต่ต้องมองความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกเป็นสำคัญ หากตลาดโลกมีความต้องการสอดคล้องกับสิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการ คือ อีโคคาร์ ก็นับเป็นเรื่องดีสำหรับบริษัท 4 WHEELS : คุณมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเงื่อนไขการผลิต อีโคคาร์ อย่างไร ? อิมาอิ : จากเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนดในโครงการ อีโคคาร์ ไม่ง่ายนักที่ค่ายรถยนต์จะตอบสนองในทุกเงื่อนไข สำหรับ มิตซูบิชิ การจะพัฒนารถใหม่ ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ดังนั้น ต้องมั่นใจด้วยว่า เมื่อพัฒนารถรุ่นใหม่ขึ้นมาแล้ว จะสามารถทำตลาด สร้างยอดขายได้จำนวนมาก ที่สำคัญ ในบรรดาเงื่อนไขที่รัฐบาลตั้งไว้ว่า ต้องผลิตรถยนต์ให้ได้ 500,000 คัน ในปีที่ 5 คิดว่าค่ายรถยนต์หลายค่ายคงมีความกังวลกับตัวเลขดังกล่าวไม่น้อย เพราะความไม่แน่นอนของตลาดรถยนต์ในอาเซียน หรือแม้แต่ในประเทศไทยเอง ขณะเดียวกัน หากผลิตออกมาแล้วขายไม่ได้ เงินลงทุนจำนวนมากที่เสียไป ก็บีบให้บริษัทรถยนต์จำหน่ายที่จำนวน 500,000 คันไม่ได้ 4 WHEELS : มิตซูบิชิ ให้ความสำคัญกับประเทศไทย ในแง่ของการเป็นฐานการผลิตอย่างไร ? อิมาอิ : การตัดสินใจของผู้บริหารชุดก่อนของ มิตซูบิชิ ในการเลือกให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถพิคอัพของบริษัท โดยเลือกตั้งโรงงานผลิตที่ แหลมฉบัง นับเป็นการตัดสินใจที่สร้างความได้เปรียบให้แก่ มิตซูบิชิ ในด้านยุทธศาสตร์ที่ตั้ง ที่สามารถประหยัดค่าขนส่งผลิตภัณฑ์ไปยังท่าเรือ เนื่องจากพื้นที่ไม่ไกลกันมาก และประเทศไทยยังเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของ มิตซูบิชิ จะเห็นได้จากยอดจำหน่ายที่ผ่านมา บริษัท ฯ มีสัดส่วนการส่งออกถึง 80 % ในขณะที่ยอดจำหน่ายในประเทศคิดเป็นสัดส่วนเพียง 20 % มิตซูบิชิ มีโรงงานในภูมิภาคเอเชีย 4 แห่ง คือ ประเทศไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และญี่ปุ่น น่าสังเกตว่า โรงงานในประเทศไทยและญี่ปุ่น มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี แต่น่าแปลกว่ายอดจำหน่ายในประเทศของทั้ง 2 ประเทศไม่ค่อยดีนัก ตรงกันข้าม กลับมีกำไรจากการส่งออกค่อนข้างมาก 4 WHEELS : คุณมีนโยบายในการแก้ไขจุดอ่อนของบริษัท ฯ อย่างไร ? อิมาอิ : การจะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในประเทศไทยได้ คงไม่ยากนัก หากบริษัท ฯ มีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่หลากหลายเหมือนคู่แข่งขันรายอื่นๆ ในตลาด แต่การจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของบริษัทแม่ ดังนั้น สิ่งที่บริษัท ฯ จะทำได้ คือ มุ่งพัฒนาการทำงานขององค์กร โดยเน้นการทำงานร่วมกันระหว่างบริษัท ฯ และดีเลอร์ นอกจากนี้ ต้องปลูกฝังแนวความคิดในการทำงานให้แก่พนักงานทุกคน ทั้งในด้านความเป็นหนึ่งเดียวกัน ต้องมีทิศทางในการทำงานร่วมกัน มีการสื่อสารกันมากขึ้น รวมทั้งการปรับทัศนคติในการทำงานของพนักงาน ให้คิดถึงความต้องการของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ 4 WHEELS : วางเป้าหมายในการร่วมงานกับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ฯ ไว้อย่างไร ? อิมาอิ : ต้องการทำให้ มิตซูบิชิ ขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ที่ใกล้อันดับ 2 มากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า ปัจจุบัน บริษัทแม่ยังไม่อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์นัก 10 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีปัญหาทางด้านการเงินบ้าง ทำให้ต้องหยุดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไปพอสมควร ส่งผลให้คู่แข่งหลายค่าย เข้ามาแย่งตำแหน่งที่ 3 ของ มิตซูบิชิ ไปอย่างง่ายดายในทุกตลาด เนื่องจากบริษัทไม่มีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ใช้สำหรับแข่งขัน