ทั่วไป
บีเอมดับเบิลยู เป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญของตลาดรถยนต์กลุ่มพรีเมียม แม้กลุ่มลูกค้าของรถประเภทนี้ จะไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวม แต่ก็ขาดความมั่นใจในการจับจ่ายไปพอสมควร นั่นคือ ปัญหาที่ มิคาเอล โคร์ดีส ประธาน บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด คนใหม่ จะต้องรับมือให้ดี เพื่อนำความสำเร็จมาสู่ บีเอมดับเบิลยู ในตลาดเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง
บีเอมดับเบิลยู เป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญของตลาดรถยนต์กลุ่มพรีเมียม แม้กลุ่มลูกค้าของรถประเภทนี้ จะไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวม แต่ก็ขาดความมั่นใจในการจับจ่ายไปพอสมควร นั่นคือ ปัญหาที่ มิคาเอล โคร์ดีส ประธาน บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด คนใหม่ จะต้องรับมือให้ดี เพื่อนำความสำเร็จมาสู่ บีเอมดับเบิลยู ในตลาดเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง
ฟอร์มูลา : คุณวางนโยบายการบริหารงานของ บีเอมดับเบิลยู ประเทศไทยอย่างไร ?
โคร์ดีส : หลังเข้ารับตำแหน่งในเดือนมค. 2550 สิ่งแรกที่ได้ทำ คือ การเร่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาด รถรุ่นที่ได้เปิดตัวในช่วงที่ผ่านมา เช่น บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 3/บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 5/บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ตัวใหม่ ด้าน มีนี เป็นตลาดที่บริษัท ฯ ให้ความสำคัญมาก ที่ผ่านมาได้มีการเปิดตัวรถรุ่น มีนี ซูเพอร์ เอส/มีนี 1 รวมทั้งการเร่งเปิดตัวแคมเปญการตลาดต่างๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาด และเพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้วในตลาด ให้เป็นที่รับรู้ของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น แคมเปญที่บริษัท ฯ ได้เปิดตัวไปแล้ว เช่น มีนี เอฟ 3/บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ตัวใหม่ และ บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์ 7 ซึ่งยังคงเป็นผลิตภัณฑ์หลักในการทำตลาดของบริษัท ฯ และจะมีแคมเปญใหม่ออกมาเพื่อกระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ต้องการสร้างจุดแข็งที่มีอยู่ให้ดีขึ้นกว่าเดิม อาทิ ตลาด CKD ของ บีเอมดับเบิลยู ประเทศไทย เป็นตลาดที่มีความแข็งแกร่ง และจะทำให้แข็งแกร่งมากขึ้น ปัจจุบัน รถยนต์ บีเอมดับเบิลยู ที่ผลิตในประเทศไทยของ ประกอบด้วย ซีรีส์ 3/ซีรีส์ 5/ซีรีส์ 7 และ เอกซ์ 3 จากนี้ไป จะเน้นการนำเครื่องยนต์รุ่นใหม่เข้ามาผลิตในเมืองไทยมากขึ้น รวมทั้งการแนะนำผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดให้มากขึ้น และเร็วๆ นี้ บริษัท ฯ ได้เตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ซึ่งใช้เครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่ผลิตในเมืองไทย
ขณะเดียวกัน บริษัท ฯ ก็มองเห็นถึงศักยภาพของตลาด ซีบียู ว่าน่าจะมีการเติบโตขึ้นไปได้อีกมาก ดังนั้นจำเป็นต้องเร่งพัฒนากลยุทธ์ที่จะทำให้ตลาด ซีบียู ในประเทศไทยเติบโตขึ้น รวมทั้งกลยุทธ์ที่จะดึงดูดความต้องการของลูกค้า ปัจจุบันรถยนต์รุ่นที่ บีเอมดับเบิลยู นำเข้ามาเป็น ซีบียู เช่น บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 5 นอกจากนี้บริษัท ฯ มองว่า บีเอมดับเบิลยู เซด 4 มีความน่าสนใจ และน่าจะทำตลาดในเมืองไทยได้ดี ซึ่งคงนำเข้ามาทำตลาดในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม ไม่สำคัญว่า บีเอมดับเบิลยู จะมีเทคโนโลยีอะไร เพราะสิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือ การพัฒนาในสิ่งที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุด
ฟอร์มูลา : วางกลยุทธ์เพื่อสร้างยอดจำหน่าย ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน อย่างไร ?
โคร์ดีส : บริษัท ฯ ให้ความสำคัญด้านการให้บริการแก่ลูกค้ามากกว่ายอดจำหน่าย ที่ผ่านมามีการปรับปรุงคุณภาพการให้บริการแก่ลูกค้าให้ดีขึ้น และในปีนี้ ได้เตรียมเปิดบริการใหม่ที่มีชื่อว่า BSS (BMW SERVICE SATELLITE) โดยจังหวัดที่แรกที่จะเปิด คือ อุดรธานี ภายใต้การบริหารของดีเลอร์ บีเอมดับเบิลยู จ. ขอนแก่น ซึ่งเป็นศูนย์บริการเหมือน บีเอมดับเบิลยู เซอร์วิศ เอาท์เลท ให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์ และวางแผนเปิดเพิ่มขึ้นอีก 3-4 แห่ง ขณะนี้อยู่ในระหว่างหาสถานที่ตั้งที่เหมาะสม สำหรับ MINI SERVICE SATELLITE บริษัท ฯ จะเปิด 3 แห่ง ในพื้นที่ภาคเหนือ กลาง และใต้ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าของบริษัท ฯ ถึงความใส่ใจ และการให้บริการลูกค้าอย่างทั่วถึง
สำหรับ BSS จะเข้าไปเปิดให้บริการในพื้นที่ที่ไม่มีศูนย์บริการของบริษัท ฯ ตั้งอยู่ แต่มีลูกค้าอยู่ในพื้นที่ โดยจะให้บริการซ่อมรถ บริการอะไหล่ และหากมองว่า ศูนย์บริการดังกล่าวมีศักยภาพในการเติบโตที่ดีในอนาคต อาจมีดีเลอร์บางราย เข้าไปตั้งศูนย์บริการก็เป็นได้ ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในแผนงาน ในการขยายธุรกิจของบริษัท ฯ นอกจากนี้ ยังมีบริการ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 3 โมบายล์ เซอร์วิศ รถช่วยเหลือลูกค้าตลอด 24 ชม. ฉุกเฉิน สำหรับให้บริการแก่ลูกค้า โดยพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญ ที่ผ่านการอบรมด้านการซ่อมบำรุงรถยนต์มาเป็นอย่างดี รวมทั้งโพรแกรม BSI (BMW SERVICE INCLUDED) ซึ่งลูกค้าไม่ต้องเสียค่าดูแลรักษาตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กม.
นอกจากนี้ บริษัท ฯ ยังได้เตรียมขยายธุรกิจรถมือสอง BPS (BMW PREMIUM SELECTION) สู่ต่างจังหวัดอีกด้วย โดยรถทุกคันผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดกว่า 70 จุด และไม่เคยประสบอุบัติเหตุ มีอายุการใช้งานไม่เกิน 7 ปี ที่สำคัญมีการรับประกัน 2 ปีจาก บีเอมดับเบิลยู
ฟอร์มูลา : มีแผนเปิดศูนย์บริการแห่งใหม่หรือไม่ ?
โคร์ดีส : ปัจุบันบริษัท ฯ มีโชว์รูมในกรุงเทพ ฯ 11 แห่ง ต่างจังหวัด 10 แห่ง และมองว่าจำนวนของศูนย์บริการ ไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับบริษัท ฯ การเปิดศูนย์บริการแห่งใหม่ ต้องดูว่ามีศักยภาพพอที่จะดำเนินธุรกิจได้หรือไม่ อาทิ ทำเลที่ตั้งเหมาะสมหรือไม่ ปัจจุบัน บริษัท ฯ มีการปรับปรุงศูนย์ให้บริการบางแห่งของบางดีเลอร์ เพื่อให้บริการที่ดีที่สุด และเหมาะสมกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด เนื่องจากนโยบายหนึ่งของบริษัท ฯ คือ ต้องเพิ่มคุณภาพด้านการบริการในศูนย์บริการของ บีเอมดับเบิลยู ให้ได้มากกว่าเดิมในทุกๆ ปี
ฟอร์มูลา : คาดการณ์ยอดจำหน่ายของกลุ่มรถพรีเมียมไว้อย่างไร ?
โคร์ดีส : แม้ว่าภาพรวมของตลาดรถยนต์ที่ผ่านมา จะเติบโตลดลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในระยะยาว ตลาดรถยนต์ โดยเฉพาะกลุ่มรถพรีเมียม จะมียอดจำหน่ายที่เติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีหน้า เนื่องจากลูกค้าในกลุ่มนี้ยังมีกำลังซื้อสูง แต่ที่ผ่านมา อาจยังไม่กล้าตัดสินใจจับจ่าย และต่อไป สิ่งที่ลูกค้ากลุ่มนี้ต้องการ คือ ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และ บีเอมดับเบิลยู ก็เป็นบแรนด์รถยนต์อันดับต้นๆ ที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มีกำลังซื้อ มีความต้องการ เนื่องจากบุคลิกของรถยนต์ที่ดูสปอร์ท ไม่หยุดนิ่ง และบริษัท ฯ เองก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ยอดจำหน่ายของปีนี้ เติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมา แม้เพียง 1 คันก็ตาม
ฟอร์มูลา : มองทิศทางของพลังงานทางเลือกอย่างไร ?
โคร์ดีส : ดีเซล ยังเป็นพลังงานที่น่าสนใจ และบริษัท ฯ ก็มีแผนที่จะเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ดีเซล หลังจากที่ก่อนหน้า ได้เปิดตัวรถ บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์ 5 เครื่องยนต์ ดีเซล และได้รับการตอบรับจากกลุ่มผู้บริโภคเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม มองว่าพลังงานทางเลือกที่จะช่วยให้ประหยัดพลังงานมากที่สุดในอนาคต คือ เครื่องยนต์ไฮบริด แต่ก็ต้องยอมรับว่า ต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร กว่าที่เครื่องยนต์ดังกล่าวจะถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย ที่ผ่านมาบริษัท ฯ ได้มีการร่วมมือกับกลุ่ม เจเนอรัล มอเตอร์ส ฯ ในการพัฒนาเครื่องยนต์ไฮบริดร่วมกัน อย่างไรก็ตาม บริษัท ฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเครื่องยนต์สำหรับพลังงานทางเลือกที่เป็นของ บีเอมดับเบิลยู เองโดยเฉพาะ
ฟอร์มูลา : วางเป้าหมายในการร่วมงานกับ บีเอมดับเบิลยู ประเทศไทย ไว้อย่างไร ?
โคร์ดีส : ต้องการให้ บีเอมดับเบิลยู เป็นบริษัทพรีเมียมคาร์ ที่แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม บริษัท ฯ ไม่เน้นจำนวนยอดจำหน่าย แต่ให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพในการให้บริการแก่ลูกค้าในทุกด้าน มองว่า สิ่งที่สำคัญสำหรับตลาดพรีเมียมคาร์ คือ ผลิตภัณฑ์ที่ถูกใจ ถูกต้อง คุณภาพดี ราคาเหมาะสม ที่ผ่านมา มีนี เป็นผลิตภัณฑ์ที่แสดงให้เห็นว่า บริษัท ฯ เปิดตัวรถอย่างถูกที่ถูกเวลา มีการวางตำแหน่งของผลิตภัณฑ์ที่ดี ทั้งเรื่องของดีไซจ์นที่สวย ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการความแตกต่าง รวมทั้งราคาเหมาะสมกับคุณภาพ จึงทำให้ มีนี ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ/นาทลดา
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน มกราคม ปี 2551
คอลัมน์ Online : ทั่วไป
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/25881