ทดสอบ
ดีไซจ์นใหม่ หรูหรา ในแบบสแกนดิเนเวีย
บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรมทดลองขับ โวลโว เอส 80 (S 80) แนะนำระบบความปลอดภัยใหม่ล่าสุด ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ ทำหน้าที่เตือนก่อนเกิดการชนพร้อมระบบช่วยเบรค ช่วยหลีกเลี่ยงและลดความเสี่ยงของการชนท้าย ด้วยสัญญาณเตือนทั้งเสียงและไฟเตือน รวมถึงการลดความเร็วให้โดยอัตโนมัติในระยะคับขัน เพื่อป้องกันและปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกที่นั่ง มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ แถวเรียง 3.2 ลิตร กับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน
ภายนอก
ดีไซจ์นใหม่หมด เส้นสายโค้งมน
โวลโว เอส 80 เป็นรถยนต์ที่ผนวกความหรูหราสง่างามเข้ากับดีไซจ์นที่เป็นอมตะ เป็นรถยนต์ซีดาน 4 ประตู ที่ได้รับการออกแบบด้วยเส้นสายที่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่ง และโฉบเฉี่ยว เส้นสายที่มน และโค้งขึ้นในตอนท้ายเพิ่มมิติใหม่ให้รถยนต์ มีรูปทรงที่ดูแข็งแกร่ง และเร้าใจยิ่งขึ้น
ไฟหน้ารถแบบแอคทีฟไบซีนอนที่เปลี่ยนทิศทางตามการบังคับพวงมาลัย ยังช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นเส้นทางที่โค้งและคดเคี้ยว รับกับโครงร่างที่ดูเสมือนรอยยิ้มทางด้านหน้า โค้งไปตามเส้นสายจรดท้ายรถ กระจังหน้าลายแนวตั้งที่ดูโดดเด่น และมีขนาดใหญ่ ขณะเดียวกันเส้นโค้งรูปตัววี ที่พาดอยู่บนฝากระโปรงหน้า จะลากยาวไปจนถึงสปอยเลอร์ท้ายรถ ไฟท้ายอันเป็นเอกลักษณ์ของ โวลโว ถูกย่อส่วนให้แคบลง เพื่อให้รับกับบ่าของตัวรถที่กว้างขึ้น
ภายใน
กว้างขวาง สะอาดตา สไตล์สแกนดิเนเวีย
ห้องโดยสารภายในได้รับการออกแบบให้กว้างขวาง สะอาดตา ในสไตล์สแกนดิเนเวีย มีเส้นโค้งคู่ขนานเพื่อสร้างอาณาเขตที่ชัดเจน ระหว่างขอบประตูกับแผงหน้าปัด อุปกรณ์ต่างๆ ที่บริเวณแผงหน้าปัดเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมที่มีมุมโค้งมน คอนโซลแบบลอยตัว บางเฉียบ และมีเส้นสายไหลเรื่อยไปถึงส่วนหน้า ช่วยให้การวางขาสะดวกสบายยิ่งขึ้น
เบาะหน้าได้รับการพัฒนาขึ้น ให้สามารถหหนุนรองเพื่อป้องกันการสะบัดของศีรษะ ปกป้องการบาดเจ็บของกระดูกต้นคอและหลังที่เกิดจากการสะบัดของศรีษะ เบาะหลังสามารถแยกพับลงเพื่อ
ประโยชน์ใช้สอย ส่วนเบาะหนังและอุปกรณ์ต่างๆ ภายในตัวรถได้รับการรับรองมาตรฐาน OKO-TEX 100 ไม่เป็นอันตรายและไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบการจัดการห้องโดยสารที่ปราศจากสิ่งกระตุ้นอาการภูมิแพ้ (CLEAN ZONE INTERIOR PACKAGE : CZIP) ซึ่งได้รับการรับรองคุณภาพจากสถาบันโรคหอบหืดและภูมิแพ้แห่งประเทศสวีเดน เพื่อให้อากาศที่ไหลเวียนภายในห้องโดยสารสะอาดและดีต่อสุขภาพของผู้โดยสารทุกคน
ระบบความปลอดภัย
ขับขี่อัจฉริยะด้วยระบบเตือนภัย
โครงสร้างของตัวรถที่ได้รับการออกแบบให้ไม่ยุบตัวได้ง่าย มีหน้าที่ดูดซับแรงกระแทกจากการชนเพื่อไม่ให้ห้องโดยสารได้รับความกระทบกระเทือน เพิ่มช่องว่างในห้องเครื่องเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการยุบตัวเมื่อเกิดการชน และลดความเสี่ยงที่เครื่องยนต์จะยุบตัวเข้ามาถึงห้องโดยสารในกรณีที่เกิดการชนด้านหน้า ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (ADAPTIVE CRUISE CONTROL : ACC) ประกอบด้วยเรดาร์เซ็นเซอร์ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถรักษาระยะห่างกับรถยนต์คันหน้า ระบบ ACC ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมรถเมื่อสภาพการจราจรมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเร็ว รวมถึงในขณะที่ถูกรถอื่นปาดหน้า
ระบบเตือนก่อนเกิดการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (COLLISION WARNING WITH BRAKE SUPPORT : CW) ช่วยหลีกเลี่ยงและลดความเสี่ยงของการชนท้าย ด้วยสัญญาณเตือนทั้งเสียงและไฟเตือน รวมถึงการลดความเร็วของรถให้โดยอัตโนมัติในระยะคับขัน เพิ่มระบบกล้องและสัญญาณไฟเตือนมุมอับสายตา (BLIND SPOT INFORMATION SYSTEM : BLIS) ที่ช่วยให้ข้อมูลกับผู้ขับขี่ในจุดที่มองเห็นได้ยาก และระบบข้อมูลช่วยในการขับขี่อัจฉริยะ (INTELLIGNT DRIVER INFORMATION SYSTEM : IDIS) ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่เสียสมาธิในสถานการณ์คับขัน เช่น การกำหนดให้สัญญาณโทรศัพท์ดังช้ากว่าเดิม
ส่วน PCC หรือ PERSONAL CAR COMMUNICATOR รีโมทคอนโทรลขนาดเล็ก ประกอบด้วยฟังก์ชั่นสื่อสารกับรถพร้อมการปลดล็อคและขับขี่โดยปราศจากกุญแจ ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบได้ว่า รถยนต์ล็อคแล้วหรือยัง สัญญาณเตือนภัยทำงานหรือไม่ หรือมีผู้บุกรุกเข้ามาภายในตัวรถยนต์หรือเปล่า ในระยะ 60-100 เมตรจากตัวรถ
เครื่องยนต์
ขุมพลังใหม่มีให้เลือก 3 ขนาด
เครื่องยนต์ของ เอส 80 ใหม่นี้ มีให้เลือก 3 ขนาด คือ ดีเซลคอมมอนเรล 2.4 ลิตร เทอร์โบ 185 แรงม้า ในรุ่น ดี 5 (D5) ส่วนเบนซินแยกเป็น 2 รุ่น ขนาด 2.5 ลิตร 5 สูบ เทอร์โบ 200 แรงม้า ในรุ่น 2.5 ที (2.5T) และรุ่นทอพ 3.2 ลิตร 6 สูบ 238 แรงม้า ระบบส่งกำลัง แบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ มีบวก/ลบให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้เอง เช่นเดียวกันกับเกียร์ธรรมดา
ส่วนรุ่นที่ได้ทดลองขับเป็นรุ่นเบนซิน 2.5 ลิตรและ 3.2 ลิตร ทั้งสองบลอคให้แรงบิดที่ดีในรอบต่ำ แม้จะเป็นรุ่น 2.5 ลิตร แต่การที่มีเทอร์โบชาร์จ ช่วยให้การเร่งแซงสามารถทำได้ง่าย เครื่องยนต์ตอบสนองได้อย่างทันใจ ไม่ต้องรอจังหวะ ส่วนรุ่น 3.2 แม้จะเป็นการทดสอบระยะสั้น เน้นทดสอบระบบความปลอดภัยเป็นหลัก แต่ก็ได้รับรู้ถึงพละกำลังของเครื่องยนต์ขณะออกตัวได้เป็นอย่างดี
ระบบรองรับ
รูปแบบการขับขี่อัจฉริยะ
ระบบรองรับด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ส่วนด้านหลังอิสระแบบมัลติลิ้งค์ ช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างนุ่มนวลและตอบสนองได้ฉับไว ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่ได้ถึง 3 รูปแบบ คือ แบบนุ่มนวล แบบสปอร์ท และแบบแอดวานซ์ เพียงปลายนิ้วสัมผัส นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมการทรงตัวและยึดเกาะถนนแบบไดนามิค (DYNAMIC STABILITY TRACTION CONTROL) เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่บังคับรถได้อย่างปลอดภัยเมื่อขับขี่บนถนนที่อาจทำให้รถเสียการทรงตัว
จากการทดสอบบนสภาพผิวถนนที่หลากหลาย ของเส้นทางกรุงเทพฯ-เขาใหญ่ ต้องบอกว่ารูปแบบการขับขี่ทั้ง 3 รูปแบบ เหมาะแก่คนทุกวัย ไม่ว่าจะต้องการความนุ่มนวลเมื่อใช้ความเร็วปกติ หรือเพิ่มการยึดเกาะให้มากขึ้นเมื่อยามใช้ความเร็วสูง โวลโว เอส 80 สามารถตอบสนองความต้องการได้ครบครัน
สรุป
อุปกรณ์ครบ ราคาน่าใช้
โวลโว เอส 80 เผยโฉมครั้งแรกที่งานเจนีวา มอเตอร์โชว์ในปี 2549 ดูปราดเปรียวด้วยแรงบันดาลใจจากวิถีการออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียน ราคาเริ่มต้นที่ 3 ล้านต้นๆ ไปจนถึง 4 ล้านปลายๆ ในรุ่นทอพ ด้วยอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกที่ให้มาครบครัน รวมถึงระบบความปลอดภัยที่วอลโวยังให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งเสมอมา ทำให้ เอส 80 เป็นรถที่น่าใช้อีกรุ่นหนึ่ง
ข้อมูลจำเพาะ โวลโว เอส 80 3.2
ตัวแทนจำหน่าย บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 0-2319-9820-3
มิติ และน้ำหนัก
ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,851/1,861/1,490
ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,575/1,578
ฐานล้อ (มม.) 2,835
น้ำหนักรถ (กก.) 1,581
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) 70
เครื่องยนต์
ชนิด 6 สูบ DOHC 24 วาล์ว
ความจุ (ซีซี) 3,192
กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 84.0/96.0
อัตราส่วนกำลังอัด 10.8:1
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 238/6,200
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 32.6/3,200
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอีเลคทรอนิค
ระบบถ่ายทอดกำลัง
เกียร์อัตโนมัติ (จังหวะ) 6 มีบวก/ลบ
ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หน้า
ระบบรองรับ
หน้า แมคเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง
หลัง อิสระ มัลทิลิงค์ คอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง
ระบบบังคับเลี้ยว
แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถ
ระบบห้ามล้อ
แบบ เอบีเอส/อีเอสพี และบีเอเอส
หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน
หลัง จาน
ราคา (บาท) 4,700,000
เรื่องโดย : ธนกฤต นรพันธุ์พงศ์
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2550
คอลัมน์ Online : ทดสอบ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/25825