เครื่องยนต์อัจฉริยะพลังคู่

หลังจากที่เราเคยได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับรถซึ่งใช้เครื่องยนต์ที่อาศัยน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นแหล่งพลังงานหลัก โดยมีระบบมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นแหล่งพลังงานเสริม หรือที่รู้จักกันในนาม เครื่องยนต์ "ไฮบริด" มาเป็นเวลานาน รวมทั้งเคยได้ทดลองขับเป็นระยะสั้นๆ มาแล้ว ปีนี้ ฮอนดาได้เปิดตัว ซีวิค ไฮบริด รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังไฮบริดคุณภาพสูง ประหยัดเชื้อเพลิง ลดมลพิษเพื่อสภาพแวดล้อมที่ดี ซึ่งจัดว่าเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่รถยนต์ประเภทนี้ได้ถูกนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวทดลองขับในรูปแบบการใช้งานตามปกติ จาก กทม.-สุราษฎร์ธานี เป็นระยะทางไกลเกือบ 700 กม. ภายนอก สปอร์ทซีดาน เพรียวลม รูปลักษณ์ภายนอกของ ซีวิค ไฮบริด เหมือนกับซีวิค รุ่นล่าสุด มีข้อแตกต่างเพียงเล็กน้อย เช่น กระจังหน้าแบบสปอร์ทพร้อมกันชนขึ้นรูปชิ้นเดียว ตัวรถเตี้ยลง ไฟท้ายแบบมัลทิรีเฟลคเตอร์น้ำหนักตัวรถเพิ่มขึ้นจากรุ่นปกติถึง 60 กก. จากการที่อุปกรณ์ระบบไฟฟ้าที่จะมาช่วยเสริมพลังขับเคลื่อนถูกติดตั้งหลังเบาะนั่งด้านท้าย ฝากระโปรงท้ายติดตั้งสปอยเลอร์และบริเวณใต้ท้องรถใช้แผงปิดเรียบ เพื่อผลด้านอากาศพลศาสตร์ ล้อแมกลายใหม่ขนาด 14 นิ้ว โครงสร้างตัวถังยังคงใช้เทคโนโลยี G-CON (G-FORCE CONTROL) ให้ความปลอดภัยด้านการชนระดับสูงสุดของโลก คุ้มครองผู้โดยสารจากการชน ทั้ง ด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง ภายใน สะดวกสบาย อุปกรณ์ครบ ภายในห้องโดยสารยังคงอยู่ในรูปแบบของ ซีวิค รุ่นปกติ ชิ้นส่วนขึ้นรูปในห้องโดยสารเกือบทุกชิ้นทำจากวัสดุ โอเลฟิน เรซิน และพลาสติคทั้งหมด สามารถหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ได้กว่า 90 % มีอุปกรณ์ต่างๆ ติดตั้งมาให้ครบครัน ทั้งอำนวยความสะดวก และความปลอดภัย พวงมาลัยหุ้มหนังและที่นั่งคนขับปรับระดับ สูง-ต่ำได้ กระจกไฟฟ้าทั้ง 4 บาน เซนทรัลลอค ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ วิทยุ-เทป พร้อมเครื่องเล่น ซีดี 6 แผ่น ถุงลมนิรภัยคู่ คานเหล็กเสริมรับแรงกระแทกด้านข้าง ฯลฯ ความแตกต่างอยู่ที่แผงหน้าปัดซึ่งนอกเหนือจาก มาตรวัดความเร็ว และมาตรวัดรอบเครื่องยนต์แล้ว ยังมีมาตรวัดกระแสไฟในแบทเตอรี ไฟแสดงการชาร์จประจุไฟฟ้ากลับไปสู่แบทเตอรี ไฟแสดงขณะใช้พลังไฟฟ้าช่วยในการขับเคลื่อน เพื่อให้ผู้ขับขี่รับทราบด้วย สมรรถนะ ปานกลาง ประหยัด สะอาด ขุมพลังของ ซีวิค ไฮบริด เป็นเครื่องยนต์ i-DSI (DUAL & SEQUENTIAL IGNITION) ความจุ 1.3 ลิตร วี-เทค หัวเทียนคู่ต่อสูบ เพื่อลดขนาดของเครื่องยนต์ ให้กำลังสูงสุด 86 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 12.1 กก.-ม./3,300 รตน. ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงหลัก พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเสริม IMA (INTEGRATED MOTOR ASSIST) ซึ่งพัฒนามาจากรุ่นที่ใช้ใน อินไซจ์ท์ มาช่วยเพิ่มแรงบิดในช่วงที่มีการเร่งหรือขณะเครื่องยนต์ทำงานหนัก ช่วยลดความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงให้น้อยลง ทุกชิ้นส่วนผลิตจากวัสดุน้ำหนักเบาเพื่อลดแรงเสียดทาน ขณะลดความเร็ว มอเตอร์จะแปลงพลังงานที่กระจัดกระจายให้เป็นกระแสไฟฟ้า เมื่อเหยียบเบรคจะเป็นการชาร์จประจุไฟฟ้ากลับเข้าสู่แบทเตอรี เครื่องยนต์ระบบใหม่นี้จะตัดการทำงานของวาล์วของลูกสูบทั้ง 3 ตัว จาก 4 ตัว ซึ่งจะลดแรงเสียดทานของเครื่องยนต์ลงได้ถึง 50 % ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงลงได้มาก ยิ่งกว่านั้นขณะหยุดรถ เช่นตามแยกที่มีสัญญาณไฟจราจร เครื่องยนต์จะดับเองโดยอัตโนมัติซึ่งระบบนี้จะช่วยประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น คายไอเสียน้อยลง เครื่องยนต์จะสตาร์ทติดใหม่ทันทีที่ผู้ขับเหยียบคันเร่งจากการทดสอบจากทางวิศวกรฮอนดา ซีวิค ไฮบริด สามารถประหยัดน้ำมันได้ถึง 37.7 กม./ลิตร ที่ความเร็วคงที่ 60 กม./ชม. ซึ่งนับเป็นสถิติประหยัดที่สุดในโลก สำหรับรถยนต์ขนาด 5 ที่นั่ง ในสายการผลิตที่ใช้น้ำมันเบนซิน รวมทั้งการคายไอเสียออกมาน้อยกว่าเดิม มีมลพิษที่ลดลงถึงระดับ ULTRA LOW-EMISSION VEHICLE (ULEV) ตามมาตรฐานกระทรวงขนส่งของญี่ปุ่น เทียบเท่ามาตรฐาน อียู 2000 จากการขับขี่ระยะทางไกล จาก กทม.-สุราษฎร์ธานี ตามสภาพการใช้งานปกตินั้น ซีวิค ไฮบริด ให้การตอบสนองที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในสภาพที่มีการจราจรติดขัดต้องมีการจอดบ่อยๆ ใน กทม. หรือ ในยามที่ใช้ความเร็วสูงบนไฮเวย์ อัตราเร่งช้ากว่ารุ่นปกติอยู่บ้าง แต่ไม่ถึงกับอืด แม้ว่าจะมีความจุอยู่เพียงแค่ 1.3 ลิตร แต่มีมอเตอร์ไฟฟ้ามาช่วยเสริมพลัง การเร่งแซงไม่จัดจ้านนัก แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ เพียงพอต่อการใช้งานโดยทั่วไป เราใช้ความเร็วอยู่ที่ประมาณ 100-120 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ยทำได้ประมาณ 20 กม./ลิตร นับว่าประหยัดมากทีเดียว สำหรับรถยนต์ที่มีน้ำหนักตัวถึง 1,210 กก.และบรรทุกผู้โดยสารถึง 3 คน ใช้ความเร็วในการเดินทางตามปกติที่ค่อนข้างเร็ว โดยไม่ได้ตั้งใจขับกันแบบการแข่งขันประหยัดน้ำมัน เครื่องยนต์ระบบนี้ตอบสนองการใช้งานโดยทั่วไปได้เป็นอย่างดี ระบบถ่ายทอดกำลังแบบอัตโนมัติ CVT (CONTINUOUSLY VARIABLE TRANSMISSION) หรือระบบส่งกำลังแบบแปรผันต่อเนื่องทำให้ การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างต่อเนื่องและนุ่มนวลดี ช่วยลดอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงได้ส่วนหนึ่ง ระบบรองรับ นุ่มนวล นั่งสบาย ระบบรองรับ ด้านหน้าแบบ อิสระ โท คอนโทรล ลิงค์ ส่วนด้านหลังเป็นแบบ รีแอคทีฟ ลิงค์ ปีกนกคู่ ติดตั้งเหล็กกันโคลงทั้งที่ด้านหน้าและหลัง โดยใช้สปริงที่มีค่าความแข็งและ โชคอัพที่มีความหนืดเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานของรถรุ่นนี้ การขับขี่ให้ความนุ่มนวล เหล็กกันโคลงหน้าขนาดใหญ่ขึ้น ให้การยึดเกาะถนนที่ดี การทรงตัวทำได้ดีแม้ว่าขับอยู่บนเส้นทางที่เต็มไปด้วยโค้งแถบทางตอนใต้ของไทย การเปลี่ยนเลนกะทันหัน การแซง การเข้าโค้งที่ความเร็วสูง ให้ความมั่นใจได้เป็นอย่างดี สรุป ประหยัด น่าใช้ ติดที่ค่าตัว จากการที่ได้ทดลองขับ และนั่งโดยสาร รถขับเคลื่อนด้วยพลังไฮบริด ที่ให้ความเงียบ ประหยัด มลพิษต่ำ ใช้งานได้ดี ทั้งในกทม.และต่างจังหวัด ไม่มีปัญหาในการเติมเชื้อเพลิงเหมือนรถพลังงานไฟฟ้าหรือกาซ เป็นรถยนต์ที่น่าใช้มากในยุคปัจจุบัน แต่ในเรื่องราคาจะสูงกว่ารถทั่วไป เนื่องจากมีต้นทุนสูง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากภาษีนำเข้าไม่ได้รับการลดหย่อนใดๆ จากภาครัฐบาลเลย แตกต่างจากในหลายๆ ประเทศที่ช่วยเหลือโดยการลดภาษีเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้รถประเภทนี้ซึ่งมีข้อดีมากมาย ฮอนดาได้กำหนดเงื่อนไขการจำหน่าย ซีวิค ไฮบริด ในรูปแบบของการเช่า อัตราเดือนละ 36,000 บาท เป็นเวลา 48 เดือน ไม่ต้องจ่ายเงินดาวน์ บริษัทจะรับผิดชอบเรื่องเบี้ยประกันภัย และค่าบำรุงรักษาตามระยะตลอดอายุสัญญาซึ่งรวมทั้งค่าแรงและอะไหล่ทุกรายการ ลูกค้าจ่ายค่าน้ำมันเพียงอย่างเดียว โดยตั้งเป้าหมายในปีนี้ไว้ที่ 50 คัน รถยนต์ประเภทนี้จะเป็นที่นิยมในประเทศไทยหรือไม่ ส่วนหนึ่งคงขึ้นอยู่กับการช่วยเหลือจากภาครัฐบาลที่พูดอยู่เสมอเกี่ยวกับการประหยัดพลังงานและการลดมลพิษ ข้อมูลจำเพาะ ฮอนดา ซีวิค ไฮบริด เครื่องยนต์ ชนิด i-DSI VTEC SOHC 4 สูบ 8 วาล์ว ความจุ (ซีซี) 1,339 กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 86/5,700 แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 12.1/3,300 ระบบถ่ายทอดกำลัง เกียร์อัตโนมัติ CVT (CONTINUOUSLY VARIABLE TRANSMISSION) ระบบรองรับ หน้า อิสระ โท คอนโทรล ลิงค์ สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง หลัง อิสระ รีแอคทีฟ ลิงค์ ปีกนกคู่ พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบบังคับเลี้ยว แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรง แบบอีเลคทรอนิค ระบบห้ามล้อ แบบ ป้องกันล้อลอคตาย พร้อมระบบเสริมและกระจายแรงเบรค หน้า/หลัง จาน/ดุม