ทั่วไป
ผมลงมือเขียนเรื่องนี้ ขณะสังคมไทยกำลังตั้งคำถาม โทรทัศน์มีอิทธิพลต่อเด็กเยาวชนแห่งชาติจริงแท้แค่ไหน รัฐบาลต้องการจัดระเบียบละครโทรทัศน์ เพราะเห็นว่ากำลังยัดเยียดความรุนแรงให้เป็นตัวอย่างแก่เด็ก
ผมลงมือเขียนเรื่องนี้ ขณะสังคมไทยกำลังตั้งคำถาม โทรทัศน์มีอิทธิพลต่อเด็กเยาวชนแห่งชาติจริงแท้แค่ไหน รัฐบาลต้องการจัดระเบียบละครโทรทัศน์ เพราะเห็นว่ากำลังยัดเยียดความรุนแรงให้เป็นตัวอย่างแก่เด็ก
ประเภทการแสดงค่อนข้างเหนือความจริงของนางตัวร้ายในเรื่อง นั่นแหละ เป็นปัญหาโทรทัศน์ไทย มีผู้จัดสรรไว้เรียบร้อย ระหว่างช่อง 3, 5, 7, 9, 11 และ ทีไอทีวี (TITV) ช่อง 6 แบ่งแยกเป็นทีวีประเภทต้องการให้ผู้ดูเป็น ผู้บริโภค กับ ต้องการให้ผู้ดูเป็นพลเมืองช่อง 3 และ 7 ได้รับการจัดสรรว่า เป็นทีวีต้องการให้ผู้ดูเป็นผู้บริโภค มีต้มยำให้รับประทานทุกเย็น และหลังข่าวช่อง 9 และ 11 เป็นโทรทัศน์ที่ต้องการให้ผู้ดูเป็น พลเมือง และขณะนี้ก็เพิ่มช่อง ทีไอทีวี เข้ามาอีกหนึ่งช่องแบ่งแยกค่ายกันแบบนี้แล้ว ก็มีรายงานว่า ช่อง 3 และ 7 มีคนดูมากสุด ในขณะที่อีก 3 ช่อง ไม่มีคนดูเลย
แต่แม้ว่าเรทิงคนดูไม่เป็นที่น่าพอใจ โทรทัศน์ช่อง 9, 11 และ ทีไอทีวี ก็ยังมีคนดูคนกรุงเทพ ฯ อาจจะเป็นผู้บริโภคส่วนใหญ่ เพราะอยู่เมืองใหญ่ ความเครียดในแต่ละวันมีมาก ถ้ามีอะไรได้คลายเครียดไปบ้างก็น่าจะดี
คนต่างจังหวัด ส่วนใหญ่เวลานี้กำลังเป็นคนสมัยใหม่ รับชมโทรทัศน์ด้วยจานรับดาวเทียมเลิกใช้เสาอากาศ เพราะเสาอากาศมีปัญหาความชัดเจนในการรับสัญญาณภาพจานรับสัญญาณดาวเทียมวันนี้ ก็แข่งราคากันน่าดู ราคาถูกลงอย่างไม่น่าเชื่อ เป็นต้นว่า จานรับดาวเทียมของเครือข่ายธรรมกาย ซึ่งส่งสัญญาณภาพภายใต้ชื่อ DMC ราคาจานอยู่ที่ 2,200 บาท รวมค่าติดตั้ง ติดตั้งเสร็จแล้วดู 3, 5, 7, 9, 11 และ ทีไอทีวี ได้ชัดเจน ดูธรรมกายได้ ดู ASTV ได้หลายช่อง พร้อมรายการจาก ปฐมอโศก
คนบ้านนอกเวลานี้ จึงทันสมัย เพราะอเมริกันชนเวลานี้ร้อยละ 84.8 ดูโทรทัศน์ในระบบเคเบิลทีวีน้องใหม่ล่าสุดของเคเบิลทีวีเวลานี้ คือ เอเอฟซี (AFC) เป็นรายการโทรทัศน์ใหม่ล่าสุดจากกองทัพอากาศ ซึ่งดำเนินการโดย สำนักงานกิจการโทรทัศน์กองทัพอากาศ กรมสื่อสารทหารอากาศ ดอนเมืองเอเอฟซี ออกอากาศตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคมที่แล้ว มีระยะเวลาการออกอากาศวันละ 15 ชั่วโมง ตั้งแต่ 9 โมงเช้ายันเที่ยงคืน
กองทัพอากาศดำเนินกิจการโทรทัศน์ด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติการต้องเป็นไปภายใต้ข้อกฎหมาย เพราะ ผบ. ทอ. คือ พลอากาศเอกชลิต พุกผาสุข มีตำแหน่งถึงรองประธาน คมช.การเข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมายของทหารอากาศ ก็คือ เช่าเวลาจาก บริษัท อาลาคาร์ต จำกัด (จอย ทีวี) ซึ่งเป็นบริษัทคู่สัญญากับกรมประชาสัมพันธ์
พูดเรียบง่าย ก็คือ ทหารอากาศทำเพียงการผลิตรายการโทรทัศน์ มิได้ตั้งสถานีโทรทัศน์ เช่น ธรรมกาย เช่น เอเอสทีวี อันเป็นการกระทำที่ผิดข้อกฎหมายเนื่องจากเวลานี้เรายังไม่มีองค์กรอิสระที่จัดสรรคลื่นความถี่อย่างถูกต้อง
แต่กระนั้น เอเอฟซี ก็ยังต้องพึ่งดาวเทียม หนีความเป็นโทรทัศน์ดาวเทียมไปไม่พ้นดาวเทียมที่ เอเอฟซี พึ่งพาอยู่วันนี้ คือ ดาวเทียมสื่อสารชื่อ NSS6 มีโลเคชันอยู่ที่ 95 องศาตะวันออก ในระบบ KU-BAND เป็นดาวเทียมดวงเดียวกันกับที่ ASTV และ DMC อาศัยพูดอีกนัยหนึ่ง ก็คือ คนที่รับชมรายการของ เอเอสทีวี หรือ ดีเอมซี ย่อมจะสามารถรับชมรายการของ เอเอฟซี ได้เลย โดยไม่ต้องซื้อจานรับดาวเทียมใหม่
ผมเชื่อว่า AFC คงต้องมีฐานผู้รับชมเป็นจำนวนสูง เพราะนอกจากผู้ชม เอเอสทีวี ประมาณ 50,000 ครัวเรือน และธรรมกายอีก 120,000 ครัวเรือน แล้ว กองทัพอากาศยังมีเคเบิลทีวีอีกถึง ๑๑ กองบินทั่วประเทศเริ่มต้นจากดอนเมือง กองบิน 6 หรือ บน. ๖ ซึ่งมีฐานผู้รับชมเป็นข้าราชการ ทอ. ประมาณ 10,000 ครัวเรือน
กองบิน 1 นครราชสีมา กองบิน 2 ลพบุรี กองบิน 4 ตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ กองบิน 5 ประจวบคีรีขันธ์ กองบิน 7 สุราษฎร์ธานี กองบิน 21 อุบลราชธานี กองบิน 23 อุดรธานี กองบิน 41 เชียงใหม่ กองบิน 46 พิษณุโลก และกองบิน 56 หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
นอกจาก 11 กองบินแล้ว กองทัพอากาศยังมีเคเบิลทีวีที่ โรงเรียนการบิน กำแพงแสน จังหวัดนครปฐมอีกต่างหากทั้งหมดนี้ผมได้รับข้อมูลอ้างได้ว่า มีฐานผู้รับชมประมาณ 50,000 ครัวเรือน โดยลำพังเคเบิลทีวีท้องถิ่น ที่คนบ้านนอกเป็นสมาชิกรับชมรายเดือนเวลานี้ ท่านจะเชื่อหรือไม่ก็ตามมีบริษัทดำเนินการเคเบิลทีวีท้องถิ่นทุกภาค รวมแล้วไม่น้อยกว่า 800 บริษัท
ที่กล่าวมานี้ เป็นบทยืนยันว่า เอเอฟซี น่าจะขึ้นต้นด้วยดี เพราะผู้รับชมมีจำนวนค่อนข้างสูงเหลือเชื่อผู้อำนวยการสำนักงานกิจการโทรทัศน์กองทัพอากาศคนปัจจุบัน คือ นาวาเอกโสภณ ขาวสำรวย เป็นผู้ดำเนินการ เอเอฟซี โดยได้รับอนุมัติมอบหมายจาก ผบ. ทอ.
นอ. โสภณ ขาวสำรวย เข้ามาดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการโทรทัศน์กองทัพอากาศเมื่อปี 2548 นอกจากความเป็นนายทหารอากาศแล้วยังได้รับการยอมรับจากผู้คนเป็นวงกว้าง ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในการบรรยายธรรม
ครั้งหนึ่งเมื่อ 2 ปีมาแล้ว นอ. โสภณ ได้รับเชิญไปบรรยายธรรมให้กับ ASTV แม้เวลาล่วงเลยไปนานถึง 2 ปีแล้ว แต่วันนี้ก็ยังมีแฟนรายการติดตามถามหา นอ. โสภณ ทุกวัน
การบรรยายธรรมของ นอ. โสภณ ถูกดัดแปลงไปจำหน่ายเป็น ซีดี ถูกนำมา รี-รัน ในรายการหลายครั้ง ทำให้มีผู้ชมรายการนี้ และอยากพบผู้บรรยายไม่ขาดระยะ
ดังนี้ หนึ่งในรายการหลักของ เอเอฟซี จึงต้องมี รายการบรรยายธรรม ซึ่งผมเชื่อว่า คงได้มีท่านผู้ชมหลายท่านได้รับชมรายการนี้ไปแล้ว
ผมได้มีโอกาสคุยกับ นอ. โสภณ พอประมาณ และทราบว่า เป้าหมายของการทำโทรทัศน์ของกองทัพอากาศ ไม่ได้อยู่ที่กองทัพเป็นหลักใหญ่ แต่อยู่ที่ทำอย่างไรจะช่วยเหลือสังคมไทยได้
ท่านบอกผมว่า คนเราต้องมีจริยธรรม ต้องมีความรู้ ต้องมีความเป็นคนไทย
และท่านก็ยกตัวอย่างจากการที่ท่านเดินทางออกไปต่างจังหวัด พบหลายครอบครัวต้องการให้ลูกหลานเข้าเตรียมทหาร เป็นนายทหาร มีเครื่องแบบ แต่ไม่มีเงินพอเป็นค่าติว
ท่านจึงจัดรายการติวเข้มให้มีอยู่ใน เอเอฟซี ของ ทอ. เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กทุกคนทุกภาคมีโอกาสเท่าเทียมกัน นอ. โสภณ ย้ำว่า รายการติว ม. ต้น และ ติว ม. ปลาย ของท่านนั้น ถูกดำเนินการอย่างประณีต ต้องการเห็นผลอย่างแท้จริง
และท่านก็พร้อมที่จะรับประกันว่า หากเด็กตั้งใจเรียนติวทาง เอเอฟซี ของ ทอ. โอกาสที่ฝันเป็นจริงมีสูง
นอกจาก 2 รายการนี้แล้ว ท่านผู้ชม เอเอฟซี อาจได้เห็นอีกรายการหนึ่งที่น่าสนใจ คือ รายการ "ศักยภาพเหนือขอบฟ้า อันเป็นรายการตีแผ่ความจริงทุกซอกมุม สำหรับชีวิตที่เข้าไปอยู่เตรียมทหาร
ผู้ดำเนินรายการนี้ ยืนยันกับผมว่า รายการนี้จะให้ความจริงตั้งแต่ชีวิตการเข้าเป็นเตรียมทหาร จนถึงได้เป็น นายเรืออากาศ
น่าสนใจครับ และผมก็ยอมรับว่า ถ้าในบ้านผมเวลานี้จะมีโทรทัศน์เพิ่มขึ้นมาอีกสัก 1 ช่องรายการ มันก็คงไม่เลวร้ายอะไรไม่ใช่หรือครับ ?
เรื่องโดย : บรรเจิด ทวี
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน กันยายน ปี 2550
คอลัมน์ Online : ทั่วไป
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/14396