แม้ว่า แรลลี อาร์เจนตินา จะค่อนข้างอยู่ไกลสำหรับบรรดาแฟนๆ แรลลี ทั้งในยุโรป และเอเชีย แต่เมื่อเทียบกับสภาพพื้นที่ที่มีความน่าสนใจ โดดเด่น และค่อนข้างโหด รวมทั้งบรรยากาศที่แฟนคลับชาวท้องถิ่น กระตือรือร้นที่จะเข้าร่วมเชียร์อย่างมีสีสัน ทำให้เมื่อเทียบกับการแข่งขันในรายการอื่นๆ ก็นับว่าน่าสนใจไม่น้อยที่จะเดินทางไปชมการแข่งขันสักครั้ง

แม้ว่า แรลลี อาร์เจนตินา จะค่อนข้างอยู่ไกลสำหรับบรรดาแฟนๆ แรลลี ทั้งในยุโรป และเอเชีย แต่เมื่อเทียบกับสภาพพื้นที่ที่มีความน่าสนใจ โดดเด่น และค่อนข้างโหด รวมทั้งบรรยากาศที่แฟนคลับชาวท้องถิ่น กระตือรือร้นที่จะเข้าร่วมเชียร์อย่างมีสีสัน ทำให้เมื่อเทียบกับการแข่งขันในรายการอื่นๆ ก็นับว่าน่าสนใจไม่น้อยที่จะเดินทางไปชมการแข่งขันสักครั้ง พื้นที่ที่ใช้ทำการแข่งขันตั้งอยู่ในเมืองโคร์โดบา (CORDOBA) อยู่ติดกับเมืองบัวโนส ไอเรส (BUENOS AIRES) เมืองหลวงของประเทศ เส้นทางการแข่งขันอยู่แถบเทือกเขาสูงคล้ายคลึงกับที่ประเทศเมกซิโก ซึ่งในแถบที่สูงแบบนี้เครื่องยนต์ของรถแข่งจะมีกำลังน้อยลง และระบบระบายความร้อนจะต้องทำงานหนักกว่าปกติ เนื่องจากอากาศเบาบางกว่า เช่นเดียวกับสภาพเส้นทางที่คดเคี้ยว และเป็นหลุม ทำให้ช่วงล่างต้องทำงานหนัก เสี่ยงที่จะเสียหายได้ทุกเมื่อ นอกเหนือจากฝีมือของนักขับ ความทนทานของรถก็เป็นปัจจัยหลักในการตัดสินผลแพ้ชนะ การแข่งขันในเลกแรก เริ่มขึ้นตอนเช้าตรู่ของวันอาทิตย์ ท่ามกลางกองเชียร์ที่เข้าร่วมชมการแข่งขันมากกว่า 5 หมื่นคน นักแข่งที่ถูกจับตามองมากที่สุดหนีไม่พ้น เซบัสเตียง โลบ์ (SEBASTIEN LOEB) แชมพ์โลกคนล่าสุด ทีม ซีตรอง และมาร์คุส โกร์นโฮล์ม (MARCUS GRONHOLM) นักขับรุ่นเก๋า ทีม บีพี-ฟอร์ด ที่กำลังมีคะแนนสะสมคู่คี่สูสีกันอยู่ในตอนนี้ รวมทั้ง มิคโค ฮีร์โวเนน (MIKKO HIRVONEN) เพื่อนร่วมทีม โกร์นโฮล์ม ที่โชว์ฟอร์มร้อนแรง ทำเวลาดีที่สุดในช่วงทดสอบ "ผมถนัดกับสภาพถนนแบบนี้มากเป็นพิเศษ เพราะสามารถใช้ความเร็วสูงได้ แม้ว่าสภาพถนนจะโหดกว่าปีที่แล้ว แต่ก็ยังดีกว่าที่โปรตุเกส ที่ไม่สามารถใช้ความเร็วได้เลย จึงคิดว่าน่าจะจบการแข่งขันแบบมีแต้มติดมือกลับบ้านแน่นอน" ฮีร์โวเนน กล่าว จบการแข่งขันเลกแรก ผลเป็นไปตามคาด ฮีร์โวเนน ทำเวลาดีที่สุด ทิ้งอันดับ 2 ดานี โซร์โด (DANI SORDO) ทีม ซูบารุ 2.4 วินาที ด้าน โลบ์ และโกร์นโฮล์ม ยังรั้งอันดับ 3 และ 4 ตามลำดับ สภาพอากาศในเลกที่ 2 ต่างจากเลกแรกอย่างสิ้นเชิง หลังจากที่มีหมอกลงจัดตลอดทั้งวัน ทำให้ผลการแข่งขันเมื่อจบวันต่างจากเลกแรกอย่างสิ้นเชิง เมื่อ โลบ์ สามารถทำเวลาเร่งแซงขึ้นมาตำแหน่งผู้นำได้สำเร็จ โดยมี โกร์นโฮล์ม ตามหลังอยู่ห่างๆ 19.2 วินาที ส่วน ฮีร์โวเนน ที่เจอกับสภาพอากาศไม่เป็นใจ ร่วงลงไปอยู่อันดับ 3 ตามหลังผู้นำอยู่เกือบนาทีครึ่ง เลกที่ 3 อันดับผู้นำยังไม่เปลี่ยนแปลง จบการแข่งขัน โลบ์ คว้าตำแหน่งแชมพ์ แรลลี อาร์เจนตินา ไปครองได้สำเร็จเป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน ด้วยเวลารวมทั้งสิ้น 2 ชั่วโมง 52 นาที 3.8 วินาที ทิ้งห่างคู่ปรับอย่าง โกร์นโฮล์ม ไป 36.7 วินาที ด้าน ฮีร์โวเนน ที่ทำได้ดีที่สุดอันดับ 3 ตามหลังผู้นำ 2 นาที 15 วินาที คว้า 6 คะแนนกลับบ้าน การแข่งขันแรลลีชิงแชมพ์โลก สนามที่ 7 ประเทศอิตาลี ใกล้ถึงครึ่งทางเต็มที กับการแข่งขันแรลลีชิงแชมพ์โลก สนามที่ 7 จาก 16 สนาม คราวนี้ถึงคิวของประเทศอิตาลี ชื่อรายการ ซาร์ดินีอา แรลลี (SARDINIA RALLY) ซาร์ดินีอา เป็นเกาะใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของทะเลแถบเมดิเตอร์เรเนียน เส้นทางที่ใช้ทำการแข่งขันส่วนใหญ่เป็นทางลูกรัง และกรวด ทอดยาวลัดเลาะไปตามแนวเขา แม้เส้นทางจะแคบ แต่เรียบ ทำให้ใช้ความเร็วได้ค่อนข้างสูง ต้องอาศัยการตัดสินใจที่รวดเร็วของนักแข่งที่จะหลบสิ่งกีดขวางที่พร้อมจะโผล่มาได้ทุกเมื่อ เลกแรกเริ่มต้นด้วยสภาพอากาศแจ่มใส แต่สภาพเส้นทางกลับดูเหมือนไม่เป็นใจกับนักแข่งหลายคน รวมทั้ง จารี มัตตี ลัทวารา (JARI-MATTI LATVALA) และโกร์นโฮล์ม สองคู่หูจากทีม ฟอร์ด ที่ทั้งคู่กำลังทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในช่วงแรกของวัน ก่อนที่ ลัทวารา จะพลาดท่าตกหลุมอย่างจังในสเตจที่ 5 จนช่วงล่างเสียหายยับเยิน ต้องออกจากการแข่งขัน ส่วน โกร์นโฮล์ม ที่กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ทำเวลาดีที่สุดเกือบทั้งวัน ก่อนที่รถจะมีอาการขัดข้องในช่วงสเตจสุดท้าย ทำให้เสียตำแหน่งผู้นำให้แก่ โลบ์ ไปอย่างน่าเสียดาย เลกที่ 2 รถของ โกร์นโฮล์ม กลับมาสภาพพร้อมดังเดิม และทำเวลาไล่ตีตื้นขึ้นมาเรื่อยๆ ตอนนี้เหลือช่องว่างระหว่างเขา และผู้นำไม่ถึงครึ่งนาที แต่ โลบ์ ไม่ยอมปล่อยให้โอกาสหลุดมือ "ผมต้องขับให้เร็วขึ้นกว่านี้อีก เพราะ โกร์นโฮล์ม อยู่ใกล้มาก ถือเป็นตัวอันตรายเลยทีเดียว" โลบ์ กล่าว แต่การขับเคี่ยวกันอย่างหนักระหว่างผู้นำ และรองผู้นำ กลับไม่เป็นผลดีกับ ฮีร์โวเนน เพื่อนร่วมทีม โกร์นโฮล์ม ที่กำลังโดนทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆ แถม ยังมี โซร์โด ที่กำลังทำเวลาไล่จี้มาติดๆ ซึ่ง ฮีร์โวเนน ต้องลุ้นว่าจะสามารถรักษาตำแหน่งนี้ และจะได้ขึ้นไปยืนบนโพเดียมหรือไม่ เลกที่ 3 ดูเหมือนว่าโชคจะเริ่มเข้าข้างทีม ฟอร์ด มากขึ้น เมื่อ โลบ์ ที่เริ่มเพิ่มความเร็วมากขึ้น หลังจากที่โดน โกร์นโฮล์ม กดดันอย่างหนักในเลกที่ 2 ขับรถ ซีตรอง เซ กัตร์ (C4) หลุดโค้งออกไปไกลกว่า 30 เมตร ต้องออกจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย จบการแข่งขัน กลายเป็น โกร์นโฮล์ม ที่ได้ส้มหล่น คว้าแชมพ์ประจำสนามไปครอง ตามมาด้วย ฮีร์โวเนน เพื่อนร่วมทีม ฟอร์ด คว้าเพิ่มอีก 8 แต้ม ส่วนอันดับ 3 เป็นของ โซร์โด หนึ่งเดียวจาก ซีตรอง ที่ได้ขึ้นโพเดียม หลังจากที่ โซลเบร์ก พลาดจาก 10 คะแนนที่สำคัญ ทำให้คะแนนสะสมของ โกร์นโฮล์ม ขยับขึ้นไปเป็นผู้นำทันที โดยมีคะแนนมากกว่า โกร์นโฮล์ม ที่ร่วงมาอยู่อันดับ 2 เพียง 7 แต้ม ด้านคะแนนสะสมประเภททีมผู้ผลิต ทีม บีพี-ฟอร์ด ดับเบิลยูอาร์ที (BP-FORD WRT) ยังคงเป็นผู้นำต่อไป โดยมี 114 แต้ม อันดับ 2 ทีม ซีตรอง โททาล ดับเบิลยูอาร์ที (CITROEN TOTAL WRT) ที่โดนทีม ฟอร์ด ทิ้งห่างออกไปอีก มี 86 คะแนน ส่วนอันดับ 3 เป็นของทีม ซูบารุ มี 43 คะแนน จากการแข่ง 7 สนาม สรุปผลคะแนนการแข่งขัน สนามที่ 6-7 ประจำปี 2007 ประเภทผู้ขับ อันดับ ผู้ขับ คะแนนรวม ชนะเลิศ มาร์คุส โกร์นโฮล์ม 55 รองอันดับ 1 เซบัสเตียง โลบ์ 48 รองอันดับ 2 มิคโค ฮีร์โวเนน 44 สรุปผลคะแนนการแข่งขัน สนามที่ 6-7 ประจำปี 2007 ประเภททีมผู้ผลิต อันดับ ทีม คะแนนรวม ชนะเลิศ บีพี-ฟอร์ด ดับเบิลยูอาร์ที 114 รองอันดับ 1 ซีตรอง โททาล ดับเบิลยูอาร์ที 86 รองอันดับ 2 ซูบารุ ดับเบิลยูอาร์ที 43