เทคนิค
ใช้เท้าขวาเหยียบแป้นเบรค ในขณะที่เท้าซ้ายเหยียบแป้นคลัทช์เพื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง และถอนเท้าออกจากแป้นคลัทช์ ตามด้วยการถอนเท้าขวาออกจากแป้นเบรคด้วย แล้วสตาร์ท
ตัวรถจะค่อยๆ เคลื่อนที่ถอยหลังลงมาอย่างช้าๆ
ใช้เท้าขวาเหยียบแป้นเบรค ในขณะที่เท้าซ้ายเหยียบแป้นคลัทช์เพื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง และถอนเท้าออกจากแป้นคลัทช์ ตามด้วยการถอนเท้าขวาออกจากแป้นเบรคด้วย แล้วสตาร์ท
ตัวรถจะค่อยๆ เคลื่อนที่ถอยหลังลงมาอย่างช้าๆ
เมื่อคุณเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนมาเป็น 2H แต่ลืมปลดลอคฮับเพลาล้อหน้าให้เป็นอิสระ จะเป็นผลให้ล้อข้างที่ยังอยู่ในตำแหน่ง LOCK ต้องแบกน้ำหนักของเพลาขับหน้าตลอดเวลา
ถึงแม้จะไม่มีแรงบิดส่งถ่ายมายังล้อนั้นๆ แต่ล้อข้างนั้นๆ ก็จะต้องแบกน้ำหนักเพลาไปในขณะที่รถวิ่ง
กลับไปหาช่างที่อู่อีกครั้ง เพื่อตรวจหารูรั่ว แล้วก็กลายเป็นต้องปะรูรั่วหม้อน้ำในหลายๆ จุด แต่หลังจากซ่อมรูรั่วนั้นได้ไม่นาน เครื่องยนต์ก็เกิดโอเวอร์ฮีทอีก ครั้งนี้ช่างเจ้าเดิมเลยแนะนำ
ให้เปลี่ยนหม้อน้ำใบใหม่ กลายเป็นเสียเงินหลายต่อ
สตาร์ทอินเกียร์ ฉบับแรกจาก ไพศาล ทรัพย์ถาวร/จ. ชลบุรี สนใจเรื่องเทคนิคการขับขี่
ถาม : อยากทราบว่าเทคนิคสตาร์ทอินเกียร์ ของรถเกียร์ธรรมดาเป็นอย่างไร ใช้เพื่ออะไร และตอนไหน ?
ตอบ : เทคนิคสตาร์ทอินเกียร์นั้น ไม่ใช่เป็นเทคนิคแปลกใหม่ เนื่องจากเทคนิคที่ว่านี้มีการใช้กันมาตั้งนานแล้วในหมู่ผู้ใช้งานรถขับเคลื่อน 4 ล้อ เทคนิคสตาร์ทอินเกียร์ พูดภาษาเราๆ ก็คือ
สตาร์ทเครื่องยนต์ในขณะที่รถเข้าเกียร์อยู่ ถ้าเป็นสภาวะการใช้งานปกติ เราคงจะไม่ทำเช่นนั้นแน่ เพราะการสตาร์ทเครื่องยนต์ในขณะที่รถเข้าเกียร์อยู่นั้น จะทำให้ตัวรถพุ่งไปข้างหน้า
หากเราไม่ได้เหยียบเบรคอยู่
แต่เทคนิคสตาร์ทอินเกียร์นั้น เราจะใช้ในกรณีที่ต้องขับรถขึ้นหรือลงทางที่มีความชันมากๆ อย่างในกรณีของการขับขึ้นทางเนินที่มีความชันมากๆ ในบางครั้งตัวรถยังไม่ทันถึงจุดบนสุดของ
ยอดเนิน เครื่องยนต์ก็อ่อนกำลังและดับในที่สุด การที่จะสตาร์ทเครื่องยนต์ใหม่และเข้าเกียร์ถอยเพื่อลงมาตั้งต้นที่ฐานเนินใหม่คงไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากในขณะที่รถจะเคลื่อนตัวจากจุดหยุดนิ่งนั้น การปล่อยคลัทช์ผิดจังหวะ อาจทำให้ล้อหมุนฟรี หรือรถอาจเคลื่อนที่เร็วเกินจนต้องใช้เบรคช่วย
การควบคุมน้ำหนักของเบรคที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้ล้อเกิดการลื่นไถลจนเป็นเหตุให้รถสูญเสียการควบคุมทิศทางไป การสตาร์ทอินเกียร์ โดยนับจากจุดที่เครื่องยนต์ดับ ให้ใช้เท้าขวาเหยียบแป้นเบรค ในขณะที่เท้าซ้ายเหยียบแป้นคลัทช์ เพื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง และถอนเท้าออกจากแป้นคลัทช์ ตามด้วยการถอนเท้าขวาออกจากแป้นเบรคแล้วสตาร์ท ตัวรถจะค่อยๆ เคลื่อนที่ถอยหลังลงมาอย่างช้าๆ เพื่อลงมาตั้งต้นใหม่ที่ฐานเนิน
ในทางตรงกันข้ามการขับลงทางที่มีความชันมากๆ ก็ปฏิบัติเช่นเดียวกันเพียงแต่เปลี่ยนจากการเข้าเกียร์ถอยหลังมาเป็นเกียร์หนึ่งแทน และเมื่อรถเคลื่อนที่ได้ระดับหนึ่งแล้ว ให้ใช้เท้าขวาประคองเบรคเท้าช่วยเบาๆ หรืออาจต้องใช้เท้าขวาเร่งรอบเครื่องยนต์ช่วยเล็กน้อย เพื่อให้รอบการหมุนของล้อเกิดความสมดุล ไม่หมุนฟรี
เทคนิคสตาร์ทอินเกียร์นี้ สามารถใช้กับรถขับเคลื่อน 4 ล้อได้ทุกยี่ห้อ การหมั่นฝึกฝนการใช้งานเทคนิคสตาร์ทอินเกียร์นี้บ่อยๆ จะช่วยให้ทุกขั้นตอนเกิดความราบรื่นขึ้น
ลืมบิดลอคฮับ ที่เพลาหน้า
ฉบับที่สองจาก สิงห์ วันมาศ/จ. ชัยนาท เป็นห่วงกลไกลอคฮับของรถตนจะพัง
ถาม : บ่อยครั้งที่ผมเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนไปเป็น 4L หรือ 4H แล้วลืมบิดลอคฮับเพลาล้อหน้า หรือบางทีเปลี่ยนมาขับ 2 ล้อ ก็ลืมปลดลอคอีก ไม่ทราบว่า จะมีผลเสียหายเกิดขึ้นกับระบบ
ขับเคลื่อนหรือไม่ ?
ตอบ : หน้าที่หลักของชุดลอคฮับเพลาล้อหน้า ก็คือ ตัดต่อการทำงานระหว่างเพลาขับหน้ากับดุมล้อหน้า เมื่อคุณบิดชุดลอคฮับเพลาล้อหน้าไปยังตำแหน่ง FREE หรือ UNLOCK การทำงานระหว่างเพลาขับหน้ากับดุมล้อหน้าจะเป็นอิสระจากกัน แต่เมื่อบิดไปที่ตำแหน่ง LOCK จะเป็นการต่อการทำงานระหว่างเพลาขับหน้ากับดุมล้อหน้าเข้าด้วยกัน
ทันทีที่คุณเปลี่ยนชุดทดเกียร์ หรือทรานสเฟอร์เกียร์มาที่ตำแหน่ง 4L หรือ 4H แรงบิดส่วนหนึ่งจะส่งผ่านมายังเพลาขับหน้า แต่ถ้าตำแหน่งล้อคู่หน้ายังอยู่ที่ตำแหน่ง FREE หรือ UNLOCK การขับเคลื่อนจะเป็นเพียงแค่ 2L หรือ 2H เท่านั้น เช่นเดียวกัน หากคุณบิดชุดลอคฮับ เพียงล้อหน้าข้างเดียวไปยังตำแหน่ง LOCK จะเป็นผลให้ระบบขับเคลื่อน ถูกขับเคลื่อนแค่ 2 ล้อหลัง กับอีก 1 ล้อหน้าที่ถูกบิดมายังตำแหน่ง LOCK การวิ่งในทางตรงและทางราบ จะไม่มีความผิดปกติแต่อย่างใด
แต่เมื่อคุณต้องขับขึ้นไปยังบนทางที่มีความลาดชันมากๆ หรือทางที่มีความคดเคี้ยวไปมา จะสังเกตเห็นความผิดปกติในการเคลื่อนที่ของรถอย่างชัดเจน เมื่อเปรียบเทียบกับการ
ขับเคลื่อน 4 ล้อเต็มรูปแบบ
ในทางกลับกัน เมื่อคุณเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนมาเป็น 2H แต่ลืมปลดลอคฮับเพลาล้อหน้าให้เป็นอิสระ จะเป็นผลให้ล้อข้างที่ยังอยู่ในตำแหน่ง LOCK ต้องแบกน้ำหนักของเพลาขับหน้า
ตลอดเวลา ถึงแม้จะไม่มีแรงบิดส่งถ่ายมายังล้อนั้นๆ แต่ล้อข้างนั้นๆ ก็จะต้องแบกน้ำหนักเพลาไปในขณะที่รถวิ่ง ส่งผลให้รถต้องสิ้นเปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุ
ทางที่ดี ก่อนออกรถทุกครั้งยอมเสียเวลาสักนิด โดยดูว่าขณะนั้น คุณกำลังจะเลือกระบบขับเคลื่อนแบบใด หากขับเคลื่อน 4 ล้อก็ควรบิดชุดลอคฮับเพลาหน้า ไปยังตำแหน่ง LOCK ให้ถูกต้อง และปลดลอคมาเป็น FREE หรือ UNLOCK ทันทีที่คุณเปลี่ยนกลับมาเป็นระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ หมั่นทำบ่อยๆ จนเกิดเป็นความเคยชิน
ยิ่งล้างยิ่งแย่
ฉบับสุดท้ายจาก ปกฉัตร บรรทัดทอง/กทม. กลัวการล้างหม้อน้ำ
ถาม : เพื่อนดิฉันเคยเล่าให้ฟังว่า รถที่เขาใช้อยู่นั้น เคยล้างหม้อน้ำจากอู่แห่งหนึ่ง หลังจากนั้นมีปัญหาตามมาอีกมากมาย เช่น หม้อน้ำรั่วบ่อยๆ และเครื่องยนต์โอเวอร์ฮีท ทำให้ลังเลใจ
เพราะรถที่ใช้อยู่นั้นมีอายุ 4 ปีแล้ว ยังไม่เคยล้างหรือถ่ายน้ำหม้อน้ำเลย กำลังจะตัดสินใจล้างเร็วๆ นี้ อยากขอคำแนะนำที่ถูกต้องสำหรับการล้างหม้อน้ำ ?
ตอบ : ปัญหาที่เพื่อนของคุณเล่าให้ฟังนั้น เชื่อว่ามีหลายๆ คนเคยประสบมาแล้ว และที่สำคัญหลายๆ คนนั้นล้วนตกเป็นเหยื่อของอู่เหล่านั้นแทบทั้งสิ้น
เพราะหม้อน้ำส่วนใหญ่จะมีโครงสร้างเป็นท่ออลูมิเนียมที่เมื่อผ่านการใช้งานไปสักระยะหนึ่ง จะค่อยๆ ถูกทำลายจากปฏิกิริยาของกรดภายในน้ำหล่อเย็น ทำให้ผนังภายในของท่ออลูมิเนียมบางจุดมีความบางมาก ยิ่งในบางจุดด้วยแล้ว บางมากจนแทบจะทะลุเป็นรูรั่วได้ ทำให้เมื่อนำรถไปใช้บริการจากอู่ที่จ้องจะหาช่องทำมาหากินอยู่แล้ว ถูกช่างในอู่หว่านล้อมให้ใช้น้ำยาล้างหม้อน้ำเพื่อล้างทำความสะอาดภายในจนเกลี้ยง ก่อนจะเติมน้ำใหม่เข้าไป แต่ปรากฏว่าหลังจากล้างหม้อน้ำได้ไม่นาน ก็เกิดปัญหาหม้อน้ำรั่วตามมาจนต้องกลับไปหาช่างที่อู่อีกครั้ง เพื่อตรวจหารูรั่ว แล้วก็กลายเป็นต้องปะรูรั่วหม้อน้ำในหลายๆ จุด แต่หลังจากซ่อมรูรั่วนั้นได้ไม่นาน เครื่องยนต์ก็เกิดโอเวอร์ฮีทอีก ครั้งนี้ช่างเจ้าเดิมเลยแนะนำให้เปลี่ยนหม้อน้ำใบใหม่ กลายเป็นเสียเงินหลายต่อ
มาถึงความจริงที่ผู้ใช้รถทุกคน ควรทราบและทำความเข้าใจ นั่นก็คือ การดูแลรักษาหม้อน้ำให้มีความคงทน ต้องเริ่มตั้งแต่แรกเริ่มของการใช้รถ ด้วยการหมั่นตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นในถังพักให้อยู่ในระดับที่ไม่น้อยกว่าขีดต่ำสุดของถังเป็นประจำทุกครึ่งเดือน และเมื่อครบปีก็จัดการถ่ายน้ำหล่อเย็นเก่าออก โดยคลายปลั๊กถ่ายน้ำเพื่อถ่ายน้ำเก่าออก การถ่ายน้ำต้องทำในขณะที่เครื่องยนต์ร้อนอยู่ (แต่ไม่ใช่ร้อนจัดหลังจากที่ขับรถทางไกลมา) ทั้งนี้เพื่อให้วาล์ว เทอร์โมสตรัท เปิดให้น้ำหมุนเวียนได้ ในขณะที่น้ำเก่าไหลออกก็จ่อสายยางเข้าที่ปากของหม้อน้ำ เพื่อให้น้ำสะอาดเข้าไปไล่สิ่งสกปรกภายในท่อออกมาจนน้ำใสสะอาด เมื่อเห็นว่าน้ำที่ไหลออกมาใสดีแล้ว ให้ปิดปลั๊กถ่ายน้ำแล้วเติมน้ำให้เต็ม ตามด้วยปิดฝาหม้อน้ำ ปล่อยให้เครื่องยนต์เดินเบาสักระยะแล้วดับเครื่องยนต์ ให้เครื่องยนต์เย็นลงสักพัก เปิดฝาหม้อน้ำออกเพื่อตรวจสอบระดับน้ำในหม้อน้ำอีกที
หากระดับน้ำพร่องไปให้เติมเข้าไปจนเต็ม การล้างหม้อน้ำขอแนะนำให้ทำเป็นประจำทุกปี ส่วนการเติมน้ำยาหล่อเย็นควรเลือกยี่ห้อที่ได้มาตรฐาน และเติมในปริมาณที่แนะนำข้างกระป๋อง
ถ้าจะไม่เติมน้ำยาหล่อเย็นก็ไม่เป็นอะไร แต่การเติมน้ำยาจะช่วยลดจุดเดือดของน้ำไม่ให้น้ำหล่อเย็นร้อนจนเดือดมากเกินไป อีกทั้งยังช่วยการก่อเกิดสนิมและการกัดกร่อนภายในท่อ
อลูมิเนียมของรังผึ้งหม้อน้ำได้อีก
รถของคุณใช้งานมา 4 ปีแล้ว ถ้าจะล้างหม้อน้ำก็ขอแนะนำให้ล้างด้วยตัวคุณเอง โดยทำตามขั้นตอนที่แนะนำมาข้างต้น โดยไม่ต้องไปอาศัยน้ำยาล้างหม้อน้ำแต่อย่างใด เพื่อป้องกัน
ปัญหาบานปลายอย่างที่เพื่อนของคุณประสบมา
เรื่องโดย : เอโวลูชัน
นิตยสาร 4wheels ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2550
คอลัมน์ Online : เทคนิค
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/14002