ปัญหาเรื่องของราคาน้ำมันดีเซลนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ใช้รถจำนวนมาก เลือกใช้รถผิดประเภท โดยเฉพาะผู้ที่ไม่เคยต้องบรรทุกอะไร แต่กลับเลือกซื้อรถพิคอัพ ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ด้วยยอดขายของรถพิคอัพ ที่สูงกว่ารถนั่งเครื่องยนต์เบนซินหลายเท่าตัว บวกกับความต้องการของภาคขนส่ง ที่ต้องใช้น้ำมันดีเซล จำนวนมหาศาลต่อวัน ทำให้ความต้องการน้ำมันดีเซลเพิ่มสูงมาก เมื่อเทียบกับช่วง 4-5 ปีก่อน ทำให้การลอยตัวค่าน้ำมันดีเซลตามมา เมื่อส่วนต่างในเรื่องของราคาน้ำมันลดลง หลายท่านถึงจะรู้สึกว่า อัตราสิ้นเปลืองของเครื่องยนต์ดีเซล ระดับ 2,500-3,000 ซีซี จะอยู่ราว 8-10 กม./ลิตร ใกล้เคียงกับเครื่องยนต์เบนซิน ในรถเก๋งระดับ 1,800-2,000 ซีซี

ปัญหาเรื่องของราคาน้ำมันดีเซลนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ใช้รถจำนวนมาก เลือกใช้รถผิดประเภท โดยเฉพาะผู้ที่ไม่เคยต้องบรรทุกอะไร แต่กลับเลือกซื้อรถพิคอัพ ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ด้วยยอดขายของรถพิคอัพ ที่สูงกว่ารถนั่งเครื่องยนต์เบนซินหลายเท่าตัว บวกกับความต้องการของภาคขนส่ง ที่ต้องใช้น้ำมันดีเซล จำนวนมหาศาลต่อวัน ทำให้ความต้องการน้ำมันดีเซลเพิ่มสูงมาก เมื่อเทียบกับช่วง 4-5 ปีก่อน ทำให้การลอยตัวค่าน้ำมันดีเซลตามมา เมื่อส่วนต่างในเรื่องของราคาน้ำมันลดลง หลายท่านถึงจะรู้สึกว่า อัตราสิ้นเปลืองของเครื่องยนต์ดีเซล ระดับ 2,500-3,000 ซีซี จะอยู่ราว 8-10 กม./ลิตร ใกล้เคียงกับเครื่องยนต์เบนซิน ในรถเก๋งระดับ 1,800-2,000 ซีซี แต่ทว่าเครื่องยนต์เบนซินนั้น มีทางออกในการเลือกเชื้อเพลิงทดแทน เช่น หันมาใช้แกสธรรมชาติ อย่าง CNG ที่ทาง ปตท. เรียกว่า NGV หรือจะหันมาใช้แกส LPG ทดแทนน้ำมันเบนซิน ก็สามารถทำได้เกือบ 100 % เพราะการสตาร์ทเครื่องด้วยน้ำมันนั้น ทำได้ง่ายกว่า ราคา CNG กก. ละ 8.50 บาท ขณะที่ LPG อยู่ที่ 9.25-9.50 บาท สามารถลดค่าใช้จ่าย เมื่อเทียบกับน้ำมันเบนซินได้ครึ่งต่อครึ่งหรือมากกว่า ถ้าจะพูดว่า เอามาใช้แทน 100 % ให้เข้าใจง่ายๆ ก็ไม่ผิด แต่สภาวะเช่นนี้ เครื่องยนต์ดีเซล มีทางเลือกน้อยมาก จะหันไปคบกับน้ำมันจากพืชก็หายาก เพราะส่วนมากจะมีใช้ใกล้ๆ แหล่งปลูกมะพร้าวหรือปาล์ม และการสนับสนุนของภาครัฐก็ไม่จริงจังและไม่มีแผนรองรับระยะยาวไว้เลย หลายคนจึงหาทางออกด้วยการติดแกส แต่เครื่องยนต์ดีเซลนั้น ไม่สามารถนำมาใช้งานได้ 100 % เหมือนกับเครื่องยนต์เบนซิน เนื่องจากพื้นฐานของการเผาไหม้ต่างกัน เครื่องยนต์เบนซิน เชื้อเพลิงต้องคลุกเคล้ากับอากาศก่อน แล้วจึงจุดระเบิดด้วยประกายไฟจากหัวเทียน ไม่ว่าจะใช้น้ำมันหรือแกสก็เป็นหลักการเดียวกัน ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลนั้น ต่างกันตรงการจุดระเบิดจะเกิดขึ้นได้ด้วยการอัดอากาศให้เกิดความร้อนสูงก่อน จากนั้นจึงฉีดละอองน้ำมันเข้าไป จึงจะเกิดการลุกไหม้ การใช้แกสกับเครื่องยนต์ดีเซลจึงสามารถใช้งานได้เพียงเล็กน้อยราว 10-20 % การใช้แกสร่วมกับน้ำมันดีเซล มีขั้นตอนยุ่งยากกว่า โดยเฉพาะเรื่องของการปรับส่วนผสม ต้องลดการจ่ายน้ำมันลงจากเดิมราว 10-20 % ส่วนแกสที่นำมาใช้นั้นก็ต้องปล่อยเข้าสู่ท่อร่วมในเปอร์เซนต์ที่ใกล้เคียงกัน เพื่อให้สมรรถนะใกล้เคียงของเดิมและเห็นผลในเรื่องของความประหยัด การจุดระเบิด ยังคงเหมือนเดิม คือ อากาศและแกสที่ถูกดูดเข้าไปนั้น เมื่อถูกอัดจะเกิดความร้อน แต่ยังไม่ลุกไหม้จนกว่าน้ำมันดีเซลจะถูกฉีดออกมา เมื่อเกิดการลุกไหม้ แกสก็จะถูกเผาไหม้ไปพร้อมๆ กัน นอกจากเรื่องของความประหยัดแล้ว ยังช่วยลดปัญหาควันดำ เพราะการเผาไหม้รวดเร็วและหมดจดกว่า แต่จะมีปัญหาในเรื่องของการทูนอัพ ถ้าปล่อยแกสเข้ามากเกินไป เพื่อหวังผลเรื่องความประหยัด โอกาสที่แกสจะลุกไหม้เอง ก็มีสูง จะทำให้เกิดอาการที่เราเรียกว่า เครื่องนอค ผลเสียร้ายแรงอาจทำให้ชิ้นส่วนภายใน เช่น ลูกสูบ แตกได้ง่ายๆ ปัจจุบันเราจะเห็นปัญหาของเครื่องยนต์ดีเซล ที่พังเพราะติดแกสมากขึ้น เนื่องจากช่างขาดความรู้ความเข้าใจที่ถ่องแท้ และการนำแกสเข้าใช้งานนั้น จุดคุ้มทุนจะยาวนานมาก ขณะที่เครื่องยนต์เบนซิน อาจจะกินเวลาไม่กี่เดือนเท่านั้น ซึ่งคิดได้ง่ายๆ ถ้าติดตั้งอุปกรณ์ราคา 20,000 บาท คุณประหยัดได้เดือนละ 20 % ต่อเดือน ค่าน้ำมันเฉลี่ย 5,000 บาท เดือนหนึ่งประหยัดได้ 1,000 บาท ต้องกินเวลา 20 เดือน กว่าจะคุ้มทุน แต่ถ้าเป็นเครื่องเบนซิน 8-10 เดือนก็คืนทุน หลังจากนั้นจะเหลือเงินส่วนต่างที่มากกว่า โดยเฉพาะกับมนุษย์เงินเดือนที่ต้องใช้รถยนต์เดินทางมากๆ และไม่มีความจำเป็นต้องใช้รถกระบะ หรือเครื่องยนต์ดีเซล ลองคิดทบทวนใหม่ว่า คุณต้องการประหยัดค่าน้ำมันหรือไม่ ? ถ้าต้องการ เปลี่ยนมาใช้รถเก๋งเครื่องยนต์เบนซิน ที่สามารถใช้แกส CNG หรือ LPG จะดีกว่าหรือไม่ ? เพราะคุณสามารถประหยัดค่าเชื้อเพลิงได้มากกว่าชัดเจน ยิ่งสภาวะปัจจุบันค่าครองชีพสูงขึ้น แต่รายได้ยังคงเดิม และรายได้ส่วนมาก ต้องหมดไปกับค่าเชื้อเพลิง ลองเปลี่ยนวิธีคิดในการใช้รถดูใหม่ โดยเลือกให้เหมาะกับลักษณะการใช้งาน ตามความจำเป็น รวมถึงเรื่องค่าเชื้อเพลิงด้วยแล้ว ลองดูว่าแบบไหนที่คุณจะบริหารค่าใช้จ่ายได้ลงตัวกว่า เพราะทุกวันนี้ส่วนต่างของน้ำมันเบนซิน และแกส LPG นั้น เกินความต้องการอยู่มาก จนต้องส่งออกขายในราคาถูก ทั้งๆ ที่ผู้ใช้รถยังเดือดร้อนอยู่อย่างนี้