ผลทดสอบ
เชฟโรเลต์ โคโลราโด ได้รับการยอมรับว่าเป็นพิคอัพ ที่แข็งแกร่ง บึกบึน สมรรถนะยอดเยี่ยม แถมยังหรูหราทันสมัย ล่าสุดได้เปิดรุ่นใหม่ที่ใช้ระบบเฟืองท้าย ดิฟฟ์-ลอค G80 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง สามารถถ่ายเทแรงขับเคลื่อนในขณะที่ล้อหมุนฟรี สู่ล้อหลังทั้งสองข้างแบบ 50/50 ช่วยให้เดินทางผ่านพื้นที่ทุรกันดารได้ง่ายขึ้น
เชฟโรเลต์ โคโลราโด ได้รับการยอมรับว่าเป็นพิคอัพ ที่แข็งแกร่ง บึกบึน สมรรถนะยอดเยี่ยม แถมยังหรูหราทันสมัย ล่าสุดได้เปิดรุ่นใหม่ที่ใช้ระบบเฟืองท้าย ดิฟฟ์-ลอค G80 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง สามารถถ่ายเทแรงขับเคลื่อนในขณะที่ล้อหมุนฟรี สู่ล้อหลังทั้งสองข้างแบบ 50/50 ช่วยให้เดินทางผ่านพื้นที่ทุรกันดารได้ง่ายขึ้น
บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดกิจกรรมทดสอบ ระบบเฟืองท้ายในรุ่น ดิฟท์-ลอค G80 เส้นทางกรุงเทพ ฯ-กาญจนบุรี-ทองผาภูมิ สู่เหมืองป้าเกรน 4 WHEELS ได้นำ โคโลราโด 4 ประตู แบบครูว์แคบ (CREW CAB) ที่เซทระบบรองรับแบบ Z71 และเฟืองท้าย ดิฟฟ์-ลอค G80 เดินทางไปในทริพนี้
ภายนอก
ดุดันสไตล์อเมริกัน
ภายนอกไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร ชุดไฟหน้าแบบ 2 ชั้น พร้อมสัญลักษณ์ "โบว์ไท" สีทองติดตั้งอยู่ตรงกลางกระจังหน้าแบบตะแกรงสีดำล้อมกรอบรูปตัวยู คาดด้วยคิ้วโครเมียมด้านหน้าขนาดใหญ่ ฝากระโปรงหน้าออกแบบเส้นสายคมเข้ม ช่วยเสริมความแข็งแกร่งและบึกบึนให้กับตัวรถ กันชนหน้าสีเดียวกับตัวรถ พร้อมไฟตัดหมอกด้านหน้าช่วยเพิ่มทัศนวิสัยขณะเดินทางกลางคืน ใต้กันชนเสริมด้วยพลาสติคโพลีคาร์บอเนทสีดำที่มีความเหนียวและแข็งแรงเป็นพิเศษ ซุ้มล้อทั้งสี่ ยังติดตั้งบังโคลนขนาดใหญ่ เสริมแนวเส้นสายด้านข้างให้ดูดุดัน กระจกมองข้างขนาดใหญ่และมือจับประตูแบบโครเมียม ประตูด้านข้างทั้งสอง ติดสติคเกอร์ ดิฟฟ์-ลอค G80
กระบะท้ายออกแบบให้ทนทานต่อแรงบิดตัวจากการบรรทุกหนัก ฝาเปิดท้ายแบบมือเปิดตรงกลางสีโครเมียมเสริมความหรูหราและโดดเด่น ชุดไฟท้ายแบบแนวตั้งออกแบบให้มีส่วนโค้งเว้าด้านบนเข้ารูปรับกับตัวรถ พร้อมเลนส์ใส รูปเลข 8 ที่แบ่งเป็นช่องไฟเลี้ยวและไฟถอย และไฟเบรคดวงที่ 3 แบบแอลอีดี บนหัวเก๋งด้านหลัง มองเห็นชัดเจน
ภายใน
กว้างขวาง สะดวกสบาย
ห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้โอ่โถง เพื่อความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง แผงหน้าปัดออกแบบด้วยโทนสีอ่อนดูเบาตา และยังลดความสูงและระยะห่างจากกระจกบังลมหน้า
เพิ่มเนื้อที่ให้ห้องโดยสารได้เยอะ ช่องเก็บของภายในรถมากมาย แผงประตูทั้งสองด้านสามารถเก็บขวดน้ำได้
มาตรวัดทรงกลม 3 วง สีเงิน มองเห็นชัดเจน และไม่รบกวนสายตาขณะขับขี่ พร้อมจอมมัลทิฟังค์ชันดิสเพลย์ แสดงข้อมูลพื้นฐานทั้งตัวเลขและระยะทางใช้งานรวมกัน และระยะเดินทางต่อเที่ยว คอนโซลกลางจัดวางตำแหน่งเอาไว้อย่างเหมาะสม ลิ้นชักเก็บของขนาดใหญ่ สวิทช์ควบคุมระบบปรับอากาศแบบลูกบิดใช้งานง่าย แบบเดียวกับรถยุโรป สามารถเลือกให้ลมออกได้ทั้งด้านบน ลงเท้า หรือทั้งสองอย่าง ช่องแอร์ปรับกระจายแรงลมได้ 4 ทิศทาง ให้ความเย็นได้ทั่วถึงทั้งคัน หรูหราด้วยเครื่องเล่นวิทยุ/เทป และเครื่องเล่นซีดี เอมพี 3 แบบ 2 DIN
เครื่องยนต์
ขับสนุก แรง และประหยัด
รถคันนี้ใช้เครื่องยนต์ รหัส 4JJ1-TC ความจุ 2,999 ซีซี ดีเซล จ่ายน้ำมันด้วยระบบคอมมอนเรล ให้กำลังสูงสุด 146 แรงม้า ที่ 3,600 รตน. แรงบิดสูงสุด 30 กก.-ม. ให้กำลังต่อเนื่องตั้งแต่รอบความเร็ว 1,400-3,400 รตน. ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ
ระบบรองรับ
นั่งสบาย เกาะถนนทุกการใช้งาน
สำหรับรุ่นขับเคลื่อนสองล้อยกสูง สไตล์รถขับเคลื่อนสี่ล้อ ใช้ระบบรองรับแบบ Z71 SUSPENSION ที่ปรับแต่งให้มีความสูงเพิ่มจากเดิม อีก 1 นิ้ว ระบบรองรับด้านหน้าแบบปีกนกสองชั้น และทอร์ชันบาร์ ให้ความแข็งแกร่งและทนทาน ด้านหลังเป็นแหนบแผ่นแบบซอฟท์สปริง และเพลาแข็ง พร้อมระบบเฟืองท้ายแบบ ดิฟฟ์-ลอค G80 ที่เป็นระบบเฟืองท้ายแบบลอคอัตโนมัติ โดยขณะรถวิ่งในถนนปกติ ระบบเฟืองท้ายจะทำงานแบบเฟืองท้ายทั่วไป แต่จะทำงานตอบสนองอุปสรรคทันทีเมื่อล้อหลังข้างใดข้างหนึ่งหมุนฟรีต่างกันเกิน 100 รตน. ระบบลอคจะลอคเพลาซ้าย/ขวา ให้เป็นแกนเดียวกัน ส่งกำลังไปยังล้อแต่ละข้างในอัตราส่วน 50/50 โดยทำงานร่วมกับกลไกอัตโนมัติ โดยไม่ต้องหยุดรถหรือกดปุ่ม และระบบลอคจะปลดลอคทันทีที่ผ่านพ้นอุปสรรคหรือใช้ความเร็วเกิน 30 กม./ชม. ทำงานร่วมกับชอคอับแกส ที่ทรงตัวและยึดเกาะถนนดี
ส่วนระบบเบรค ด้านหน้าเป็นแบบจาน พร้อมช่องระบายความร้อน คาลิเพอร์แบบ 2 ลูกสูบ ด้านหลังเป็นแบบดุม เสริมความปลอดภัยด้วยระบบเบรคเอบีเอส แบบ 3 แชนแนล 4 เซนเซอร์ ควบคุมแรงดันน้ำมันเบรคด้วยอีเลคทรอนิค หรือ EBD กระจายแรงดันน้ำมันเบรคไปยังล้อแต่ละล้อได้อย่างเหมาะสม และยังมี จี-เซนเซอร์ คอยทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของเอบีเอส อย่างมีประสิทธิภาพ
ทดลองขับในเส้นทางธรรมชาติ
หลังจากได้ลองขับ โคโลราโด ที่ใช้ระบบเฟืองท้าย ดิฟฟ์-ลอค G80 ใช้เส้นทางสู่ปิลอคผ่านเหมืองแร่สมศักดิ์-เหมืองป้าเกรน ในบรรยากาศที่มีหุบเขาล้อมรอบ เส้นทางนี้ ถ้าเป็นพิคอัพขับเคลื่อนสองล้อ คงจะฝ่าฟันอุปสรรคไปถึงจุดหมายได้ยาก เพราะเป็นเส้นทางที่มีหินใหญ่/เล็กจำนวนมาก พื้นดินจึงยุบตามหินได้ง่าย แต่ธรรมชาติสวยงาม ผู้ใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวกางเทนท์กัน
ทาง เชฟโรเลต์ ได้เลือกเส้นทางนี้มาให้เราได้ทดสอบประสิทธิภาพของระบบเฟืองท้ายแบบ ดิฟฟ์-ลอค G80 ที่มีระบบลอคอัตโนมัติ โดยจะทำงานทันทีเมื่อเจออุปสรรคแล้วล้อหลังข้างใดข้างหนึ่งเกิดหมุนฟรีเกิน 100 รตน. ที่ความเร็วไม่เกิน 30 กม./ชม. ซึ่งผู้ขับในเส้นทางนี้นอกจากต้องมีความชำนาญแล้ว ยังต้องปรับตัวกับจังหวะการขับเพื่อให้เฟืองท้ายทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
เส้นทางที่มุ่งหน้าลงไปสู่เหมืองยาวและคดเคี้ยวไปมาตลอด ต้องใช้ความระมัดระวังและทักษะ แต่ไม่ลำบากเท่าเส้นทางขากลับออกไปจากเหมือง ซึ่งต้องขึ้นเนินชันยาวลักษณะเป็นหินกรวดหลายช่วง ซึ่งในช่วงระบบเฟืองท้าย ดิฟฟ์-ลอค G80 ทำงานอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพอย่างชัดเจน แต่การขับผ่านอุปสรรคจะต้องใช้รอบเครื่องยนต์ให้ถูกต้อง โดยลองเลือกเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติมาที่ตำแหน่ง D2 แล้วค่อยๆ เติมคันเร่งเลี้ยงรอบความเร็วประมาณ 1,500-1,700 รตน.
ถึงแม้ระบบ ดิฟฟ์-ลอค G80 ทำงาน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะนำพิคอัพแบบ 4x2 ผ่านไปยังเส้นทางนี้ง่ายๆ รถหลายคันต้องใช้ความพยายามอย่างหนัก โดยนำรถขึ้น/ลงหลายรอบกว่าจะผ่านอุปสรรคแต่ละที่ไปได้ เวลาผ่านไปตั้งแต่ช่วงบ่ายไปจนถึง 3 ทุ่ม สมาชิกในรถ 4x2 ทุกคันก็สามารถพารถออกมาจากพื้นที่ทุรกันดารได้อย่างปลอดภัยทั้งหมด
การเดินทางครั้งนี้จึงสามารถพิสูจน์ได้ว่าระบบเฟืองท้ายแบบ ดิฟฟ์-ลอค G80 ทำงานได้ดีเยี่ยม และมีประสิทธิภาพในการลุยผ่านในเส้นทางทุรกันดารได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
เพราะตลอดเส้นทางนี้ไม่มีการช่วยเหลือโดยใช้อุปกรณ์หรือวินช์ช่วยแต่อย่างใด ผู้ขับต้องใช้ทักษะในการมองเส้นทางและจังหวะการขับขี่เท่านั้น
ระบบเฟืองท้ายแบบนี้เหมาะสมกับการใช้งานในเส้นทางทุรกันดาร โดยเฉพาะผู้ที่จะต้องเดินทางเข้า/ออกจากไร่/สวนเป็นประจำ เพราะจะช่วยให้การขับขี่ง่ายและสะดวกในการผ่านอุปสรรคได้ แต่ไม่เหมาะที่จะไปใช้ในเส้นทางทุรกันดารมากๆ ประเภทที่รถขับเคลื่อนสี่ล้อเขาเดินทางกัน
สรุป
เชฟโรเลต์ โคโลราโด ระบบเฟืองท้ายแบบ ดิฟฟ์-ลอค G80 เป็นเฟืองท้ายใหม่ที่มีประสิทธิภาพการเดินทางในพื้นที่ทุรกันดารได้ดี ถึงแม้จะลุยได้ไม่เท่ากับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ แต่การใช้งานทั่วไปในพื้นที่ทุรกันดารจะให้ความมั่นใจในการขับขี่ได้ดีกว่าระบบขับเคลื่อนสองล้อแบบธรรมดา คุ้มค่ากับค่าตัวที่ต้องจ่ายเพิ่มอีกประมาณ 20,000 บาท
ข้อมูลจำเพาะ เชฟโรเลต์ โคโลราโด
ผู้ผลิต และจำหน่าย
บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0-2791-3400 ต่อ 1
รุ่น เอกซ์เทนด์ แคบ เซด 71 ไฮไรด์ G80 ดิฟฟ์-ลอค
มิติและน้ำหนัก
กว้าง/ยาว/สูง (มม.) 1,798/5,152/1,755
ความยาวฐานล้อ (มม.) 3,050
ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง (ลิตร) 76
น้ำหนักรถรวมบรรทุก (กก.) 2,750
เครื่องยนต์ รหัส 4JJ1-TC
ชนิด ดีเซล คอมมอนเรล เทอร์โบ อินเตอร์คูเลอร์
ความจุ (ซีซี) 2,999
กำลังสูงสุด (พีเอส/รตน.) 146/3,600
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 30/1,400-3,400
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง ปั๊มหัวฉีด ควบคุมด้วยระบบอีเลคทรอนิค
ระบบขับเคลื่อน (ล้อ) 2 (หลัง)
ระบบถ่ายทอดกำลัง
อัตโนมัติ (จังหวะ) เดินหน้า 4 ถอยหลัง 1
อัตราทดเฟืองท้าย 4.3
ระบบรองรับ
หน้า ทอร์ชันบาร์ ชอคอับแกส
หลัง แหนบแผ่นแป้นรูปครึ่งวงรี พร้อมชอคอับแกส
ระบบบังคับเลี้ยว ฟันเฟืองและตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรง
ระบบห้ามล้อ
หน้า จาน พร้อมช่องระบายความร้อน ขนาด 280 มม.
หลัง ดุม ขนาด 295 มม.
ขนาดล้อหน้า/หลัง (นิ้ว) 16x 7
เรื่องโดย : ณัฐเวช
นิตยสาร 4wheels ฉบับเดือน เมษายน ปี 2549
คอลัมน์ Online : ผลทดสอบ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/13572