หลายคนเคยฝันถึงการออกไปใช้ชีวิตในทุ่งหญ้ากว้างใหญ่อันเขียวขจี คลาคล่ำด้วยฝูงปศุสัตว์ ในบรรยากาศที่ผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน และชีวิตที่แสนจะวุ่นวายในเมืองกรุง

หลายคนเคยฝันถึงการออกไปใช้ชีวิตในทุ่งหญ้ากว้างใหญ่อันเขียวขจี คลาคล่ำด้วยฝูงปศุสัตว์ ในบรรยากาศที่ผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน และชีวิตที่แสนจะวุ่นวายในเมืองกรุง ฟาร์มโชคชัย คือสถานที่ซึ่งทำให้ฝันของคนเหล่านั้นเป็นจริง ด้วยกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่หลากหลาย ไปจนถึงการพักผ่อนแบบ บูทิคแคมพ์ (BOUTIQUE CAMP) ท่ามกลางธรรมชาติที่เงียบสงบ ใครที่ผ่านไปมาบนถนนมิตรภาพ ต้องรู้จัก ฟาร์มโชคชัย ดินแดนที่ได้รับสมญาว่าเป็นต้นแบบคาวบอยในเมืองไทย และได้รับการยอมรับว่าเป็นฟาร์มโคนมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย มีโคนมกว่า 5,000 ตัว บนพื้นที่ 20,000 ไร่ บนหลักกิโลเมตรที่ 159 ถนนมิตรภาพ ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2500 ก่อนที่เราจะเข้าชมฟาร์มโชคชัย ต้องเข้าห้องฟังบรรยายคร่าวๆ ถึงความเป็นมาของฟาร์ม และจะได้รู้ว่าวันนี้เราจะเข้าไปเจออะไรบ้างในฟาร์ม เมื่อฟังบรรยายจบไกด์จะแจกซองเล็กๆ เหมือนซองใส่มือถือเป็นที่ระลึก และสีของซองจะเป็นสัญลักษณ์ว่าคุณอยู่กรุพไหน รอบไหน จากนั้นไกด์จะพาเดินผ่านบ่อน้ำยาฆ่าเชื้อก่อน เพื่อความสะอาด ที่แรกที่ไกด์พาเราไปชมคือ "พิพิธภัณฑ์เครื่องจักรเก่า" จัดแสดง รถพิคอัพคันแรกของประเทศไทย รถทแรคเตอร์เครื่องจักรที่เคยนำมาใช้ในสมัยยุคบุกเบิกฟาร์มโชคชัย เมื่อเลิกใช้แล้วจึงนำมาทำเป็นพิพิธภัณฑ์ เพื่อรำลึกถึงบุญคุณของสิ่งต่างๆ เหล่านี้ที่ทำให้มีฟาร์มโชคชัยในวันนี้ได้ ถัดจากพิพิธภัณฑ์ ก็ไปยัง โรงรีดนมโค ไกด์บอกกับเราว่า ปกติเกษตรกรทั่วไปจะรีดนมโควันละ 2 เวลา แต่โคนมของที่นี่จะรีดถึงวันละ 3 เวลา แบ่งเป็นช่วงตีสี่ถึงแปดโมงเช้า บ่ายสองถึงห้าโมงเย็น และสามทุ่มถึงเที่ยงคืน ใช้วิธีการรีดนมด้วยเครื่องระบบ PIPELINE ทำให้น้ำนมที่นี่สะอาดปลอดภัยไร้สารเจือปน โดยน้ำนมที่รีดได้จะถูกส่งไปยังศูนย์รับน้ำนมดิบ เพื่อลดอุณหภูมิจาก 37 องศา มาเป็น 4 องศา แล้วเก็บในถังรักษาความเย็น จากนั้นไปดูโรงงานผลิตนม ซึ่งทางฟาร์มโชคชัยนำน้ำนมดิบที่ได้มาผลิตเป็นนมพาสเจอร์ไรส์ โยเกิร์ท และไอศกรีม แล้วเราก็ได้ลิ้มลองไอศกรีมที่ทำจากนมสด และครีมสดกันสดๆ ในถ้วยเล็กๆ รสชาติอร่อย เข้มข้น หวานมัน เป็นที่ติดอกติดใจของเราเลยทีเดียว หลังออกจากโรงงานผลิตนม เราก็ไปขึ้นขบวนรถฟาร์มแทรคเตอร์ เพื่อเข้าไปชมด้านในของฟาร์ม วิวสองข้างทางเป็นทุ่งหญ้า ทุ่งทานตะวัน ทุ่งข้าวโพดที่เอาไว้ให้โคกินเป็นอาหาร ได้บรรยากาศคาวบอยมากๆ ผ่านคอกพักโค มีอยู่หลายคอก มีทั้งแบบขังคอกและปล่อยแปลง จนมาถึงสนามฝึกม้าซึ่งมีโชว์จากโคบาลให้เราได้ชม ทั้งการคล้องบ่วงบาศ ควงปืน และก็เปิดโอกาสให้ผู้สนใจจะลองขี่ม้า ได้ลองขี่ม้าสัมผัสบรรยากาศและอากาศบริสุทธิ์ ส่วนบริเวณใกล้เคียงก็มี รถ ATV ให้ขับเล่นกัน เราสนุกสนานกับกิจกรรมต่างๆ นานพอสมควรก็ต้องเดินทางต่อ รถพาเราแล่นผ่าน โรงเก็บหญ้าแห้ง คอกเลี้ยงลูกโค ฟาร์มสุนัข มากมายหลายพันธุ์และมีการเพาะพันธุ์ไว้ขาย ทั้ง เกรทเดน, นิวฟาวแลนด์ และอเมริกัน คอคเกอร์ สแปเนียล นอกจากนี้ยังมีการแสดงความสามารถของสุนัขแสนรู้ต่างๆ มากมาย เรียกเสียงหัวเราะจากคณะนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี แล้วรถก็มาจอดยัง ฟาร์มสวนสัตว์ มีการจัดแสดงความสามารถของสัตว์แสนรู้ และด้านในยังมีสถานที่เลี้ยงสัตว์ที่ไห้เราได้ป้อนอาหารด้วยตนเอง และมีสัตว์หายากให้ได้ดู เช่น กวาง และจิงโจ้ เพลิดเพลินกับสวนสัตว์ได้สักพัก ไกด์สาวก็ร้องเรียกให้ขึ้นรถอกลับไปยังโรงงานทำไอศกรีม เพื่อไปร่วมทำกิจกรรม WORKSHOP "อื้ม !...มิลค์ ไอศกรีมนมสดที่คุณมีส่วนร่วม" โดยนักท่องเที่ยวสามารถทำไอศกรีมตามรสชาติที่ตนเองชอบด้วยตัวเอง เพื่อเป็นของฝากกลับบ้าน ดูเหมือนว่ากิจกรรมสุดท้ายนี้เป็นที่ถูกอกถูกใจหลายคนเพราะจะได้ของฝากเป็นไอศกรีมฝีมือตัวเอง หลังจากเสร็จสิ้นการทำกิจกรรมแล้ว เราก็เดินทางสู่ที่พักแรมในรูปแบบ บูทิคแคมพ์ ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติภายในป่าที่เป็นส่วนตัวใจกลางฟาร์มโชคชัยกว่า 200 ไร่ มื้อค่ำเราอิ่มหนำด้วยอาหารนานาชนิดในบรรยากาศที่โรแมนทิคของค่ำคืนที่เงียบสงบ พร้อมพูดคุยกันถึงเรื่องราวที่ได้พบเจอมาตลอดทั้งวัน ก่อนที่จะแยกย้ายเข้าเทนท์ที่พัก รุ่งเช้าเราเดินออกกำลังกายบน เขาน้อย ชื่นชมกับบรรยากาศยามเช้าโดยรอบของฟาร์มโชคชัย ก่อนลงมารับประทานอาหารริมทุ่งหญ้าเชิงเขา แล้วเก็บสัมภาระกลับบ้าน ข้อมูลที่พักการเดินทาง ฟาร์มโชคชัย จากกรุงเทพ ฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 2 (มิตรภาพ) ขับรถมาตามทางหลวงหมายเลข 2 ฟาร์มตั้งอยู่ กม. 159-160 ถ. มิตรภาพ จ. นครราชสีมา โทร. (044) 328-485, 361-173 หรือเวบไซท์ www.farmchokchai.com