ทั่วไป
BIGFOOT 4x4 จับมือกับ BRIDGESTONE FIRESTONE ในอเมริกาเหนือ จัดงานโชว์ ย้อนกลับไปเมื่อปี 1991 ซึ่งในครั้งนั้น BOB CHANDLER และทีม BIGFOOT ได้ใช้ยางไฟร์สโตนที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อแสดงพละกำลังของรถตีนโต ด้วยโครงสร้างของยางและดอกยาง เน้นความทนทาน ตรงนี้ทำให้ไม่อยากจะนึกภาพเลยว่า เมื่อรถขับเคลื่อนสี่ล้อ ใส่ยางบิกฟุตนี้เข้าไปแล้ว แถมวิ่งบดขยี้ทุกสิ่งทุกอย่างแล้วมันจะเป็นอย่างไร
BIGFOOT
งานโชว์ประจำปี
BIGFOOT 4x4 จับมือกับ BRIDGESTONE FIRESTONE ในอเมริกาเหนือ จัดงานโชว์ ย้อนกลับไปเมื่อปี 1991 ซึ่งในครั้งนั้น BOB CHANDLER และทีม BIGFOOT ได้ใช้ยางไฟร์สโตนที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อแสดงพละกำลังของรถตีนโต ด้วยโครงสร้างของยางและดอกยาง เน้นความทนทาน ตรงนี้ทำให้ไม่อยากจะนึกภาพเลยว่า เมื่อรถขับเคลื่อนสี่ล้อ ใส่ยางบิกฟุตนี้เข้าไปแล้ว แถมวิ่งบดขยี้ทุกสิ่งทุกอย่างแล้วมันจะเป็นอย่างไร
การแสดงของทีมงาน จะเน้นส่งเสริมการขายยางไฟร์สโตน เป็นสำคัญ จากวันที่เริ่มต้นจนถึงวันนี้ เป็นเวลา 14 ปีแล้วที่ทีมงานได้สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้แก่ผู้ชม และเมื่อต้นเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ทีมงานได้จัดงานโชว์ประจำปี 2006 และไม่แน่เหมือนกันว่า การแสดงของ BIGFOOT จะเข้ามาโชว์ที่บ้านเราบ้างหรือไม่ ถ้าหากมีความเคลื่อนไหวใดๆ เราจะติดตามมารายงานให้ทราบในโอกาสต่อไป
จีพ
เพิ่มอุปกรณ์ให้ เชอโรคี
จีพ ไมเนอร์เชนจ์ รุ่น เชอโรคี (CHEROKEE) อีกครั้ง เพิ่มระบบช่วยเติมแรงดันลมยางมาให้ ซึ่งระบบดังกล่าวจะช่วยให้คนขับสามารถเติมแรงดันลมยางได้จากปั๊มลม ที่ติดตั้งในห้องเครื่องยนต์ โดยใช้กำลังฉุดปั๊มจากเครื่องยนต์ ช่วยให้คนขับไม่ต้องกังวลกับการหาที่เติมแรงดันลมยาง ในขณะที่ขับอยู่บนเส้นทางวิบาก
โดยเฉพาะต้องเติมแรงดันลมยางใส่กลับเข้าไปในยาง เมื่อต้องนำรถที่ผ่อนลมยางให้อ่อนลงเพื่อกลับมาวิ่งบนทางเรียบอีกครั้ง ระบบดังกล่าวช่วยอำนวยความสะดวกต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก และในรุ่น ลิมิเทด จีพ ได้มีการติดตั้งเบาะฮีเตอร์ ช่วยให้คนขับอบอุ่นตลอดเส้นทาง นอกจากนั้น ยังมีระบบนำทางผ่านดาวเทียม หรือ แซท-เนว์ ติดตั้งมาในรุ่นนี้อีกด้วย
มาซดา
เปิดตัว ซีเอกซ์-7 ครอสส์โอเวอร์ 4x4 คันใหม่
จากงานมหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์ ที่ผ่านมา ค่าย มาซดา ได้เผยโฉมรถ ครอสส์โอเวอร์ ที่ใช้เทคโนโลยีระดับไฮเอนด์ ในชื่อรุ่นว่า ซีเอกซ์-7 (CX-7) ซึ่งไม่ได้เป็นรถแนวคิด หากแต่เป็นโพรดัคชันคาร์ หรือรถที่ผลิตออกมาเพื่อขายเชิงพาณิชย์ ซีเอกซ์-7 เป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดใหญ่ ผลิตขึ้นมาเพื่อตอบสนองผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกา ที่ต้องการรถวิบากขนาดใหญ่มาใช้งาน บริษัทแม่ของ มาซดา คือ ฟอร์ด ได้คาดคะเนว่า ในปีนี้ตลาดของรถขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดใหญ่ จะขยายตัวมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
ซีเอกซ์-7 เป็นรถขนาด 5 ที่นั่ง ใช้ระบบขับเคลื่อนยกยวงมาจากรุ่น เอมพี 5 ซาลูน (MP5 SALOON) วางเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.3 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ที่มีกำลังสูงสุด 244 แรงม้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ โดยขับเคลื่อนทั้ง 4 ล้อ แบบออลล์วีลดไรฟ รุ่นนี้ให้แรงบิดสูงสุดถึง 35.6 กก.-ม. ที่รอบต่ำเพียง 2,500 รตน. ระบบขับเคลื่อนสามารถเลือกได้ว่า จะขับเฉพาะล้อคู่หน้าหรือขับเคลื่อนสี่ล้อ โดยจะแบ่งแรงบิดครึ่งหนึ่งไปยังล้อคู่หลัง ระบบรองรับทั้งสี่ล้อ เป็นแบบอิสระ ทำให้สมรรถนะการยึดเกาะถนน โดยเฉพาะเมื่อต้องวิ่งบนทางเรียบ ยอดเยี่ยมมาก แม้ว่าการใช้งานบนทางวิบากจะไม่เน้นก็ตาม
บีเอมดับเบิลยู
พัฒนาระบบเทอร์โบ สตรีเมอร์
การขับเคลื่อนด้วยสตรีม หรือไอน้ำ ไม่ใช่ของใหม่แต่อย่างใด เพราะเป็นแหล่งขุมกำลังที่มีใช้งานมานานกว่า 80 ปีแล้ว นับจากสมัยที่มีรถไฟไอน้ำเป็นคันแรก แต่วิศวกรของ บีเอมดับเบิลยู ได้นำมาทดลองใหม่ เพื่อให้ได้แหล่งพลังงานใหม่ มาทดแทนเชื้อเพลิงที่นับวันจะหมดไป
ระบบที่วิศวกรของ บีเอมดับเบิลยู นำมาใช้นี้ เป็นระบบเทอร์โบสตรีเมอร์ โดยนำเอาความร้อน 80 % ที่ปล่อยทิ้งไปจากระบบไอเสียของเครื่องยนต์ และระบบหล่อเย็น เพื่อนำมาผลิตเป็นแรงดันไอน้ำ และใช้แรงดันจากไอน้ำไปช่วยขับคแรงค์ชาฟท์ หรือเพลาข้อเหวี่ยงอีกทีหนึ่ง เครื่องยนต์ที่นำมาทดลองเป็นเครื่องเบนซิน 4 สูบ 1.8 ลิตร เมื่อนำระบบเทอร์โบสตรีเมอร์ มาใช้ร่วม ช่วยให้เครื่องยนต์มีความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น 15 % และมีแรงม้าเพิ่มขึ้น 13 แรงม้า รวมถึงมีแรงบิดเพิ่มอีก 2 กก.-ม.
การทำงานของระบบ จะใช้การปล่อยให้น้ำไหลผ่านคอนเดนเซอร์ ที่ติดตั้งบนระบบไอเสีย และใช้หม้อต้มสร้างแรงดันไอน้ำเพื่อไปขับพูลเลย์ของคแรงค์ชาฟท์ ที่ต่อโยงมาทางด้านหน้าของเครื่องยนต์ วงจรที่ 2 จะรับน้ำจากระบบหล่อเย็นของเครื่องยนต์แล้วปล่อยให้น้ำไหลผ่านคอนเดนเซอร์ และสร้างแรงดันไปขับพูลเลย์ของคแรงค์ชาฟท์ อีกเช่นกัน
เหตุผลที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดเล็ก ก็เพราะต้องการให้มีเนื้อที่ภายในห้องเครื่องมากพอที่จะติดตั้งระบบเทอร์โบสตรีเมอร์เพิ่ม นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของพลังงานทดแทน นอกเหนือไปจากระบบไฮบริด ที่หลายค่ายพยายามทุ่มเทพัฒนาอย่างสุดฤทธิ์สุดเดช
ฟอร์ด
เตรียมผลิตรถ เอมพีวี รุ่นใหม่ "ดี-แมกซ์"
รถเอมพีวี 7 ที่นั่งรุ่นใหม่ จากค่าย ฟอร์ด ใช้ชื่อรุ่นว่า ดี-แมกซ์ (D-MAX) รูปลักษณ์รถถอดแบบมาจากรถแนวคิด เอสเอวี (SAV) ที่เคยเผยโฉมให้สาธารณชนได้ยลโฉมไปแล้ว และในงานมหกรรมยานยนต์เจนีวา ที่ผ่านมา โดย ฟอร์ด จัดให้ ดี-แมกซ์ ใหม่อยู่ในคลาสส์ที่ต่ำกว่ารุ่น กาแลกซี (GALAXY) แต่เหนือกว่ารถเอมพีวี รุ่นอื่นๆ ของ ฟอร์ด
กำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ทางผู้บริหารของ ฟอร์ด คาดว่าจะใช้งานมหกรรมยานยนต์ลอนดอน เป็นเวทีเปิดตัวในเดือนกรกฎาคม หากผลิตออกมาขาย วอกซ์ฮอลล์ ซาฟีรา คงต้องทำการบ้านเพิ่มขึ้น
โตโยตา
เปิดตัว ตาโกมา เวอร์ชัน 2006
รถพิคอัพขนาดกลางที่ถือว่าเป็นรุ่นที่ดีที่สุดของค่าย โตโยตา ก็คือ ตาโกมา (TACOMA) ซึ่งรุ่นใหม่ในปี 2006 นี้ ได้รับการปรับโฉมเล็กน้อย รวมทั้งการปรับแต่งทั้งภายในและช่วงล่าง เพื่อตอบสนองการใช้งานทั้งแบบเฮวีดิวที และแบบลักชัวรี รูปแบบของตัวถังมีให้เลือกทั้งรุ่นธรรมดา มีแคบ และรุ่น 4 ประตู ทุกรุ่นทุกแบบ ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์ เพื่อความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรคเอบีเอส ถุงลมนิรภัย และอื่นๆ
ขุมกำลังมีให้เลือก 2 แบบ คือ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.7 ลิตร และแบบ วี 6 สูบ ความจุ 4.0 ลิตร เครื่องยนต์ทั้ง 2 แบบ ยังมีเกียร์ให้เลือกใช้ทั้งเกียร์ธรรมดา 5 และ 6 จังหวะ ส่วนเกียร์อัตโนมัติ มีให้เลือกทั้งแบบ 4 และ 5 จังหวะ ระบบขับเคลื่อนก็มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง และแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พาร์ทไทม์
นับเป็นรถพิคอัพ สไตล์ยุโรเพียน ที่ตอบสนองคนอเมริกัน ที่ต้องการรถกระบะคันใหญ่ๆ ได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะเป็นสายเลือดซามูไร แต่ด้วยลวดลายการออกแบบ ทำให้ ตาโกมา คือ คำตอบที่ตรงใจชาวอเมริกัน
โฮลเดน
เตรียมแผนออกรถใหม่ รุ่น เอส 3 เอกซ์
โฮลเดน นำเสนอรถแนวคิด เอส 3 เอกซ์ (S3X) ในรูปแบบของรถแวกอน ขนาด 7 ที่นั่ง ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบออลล์วีลดไรฟ ที่ออกแบบมาเพื่อเป็นคู่ต่อสู้กับ ฟอร์ด เทอร์ริทอรี (FORD TERRITORY)
เอส 3 เอกซ์ เปิดตัวครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์ปารีส 2004 โดยใช้ตรา เชฟโรเลต์ แต่เมื่อนำมาแสดงในงานมหกรรมยานยนต์ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย กลับติดตราของ โฮลเดน
แม้จะเป็นรถขนาด 7 ที่นั่ง แต่ช่วงล่างส่งผลให้ความรู้สึกในการบังคับควบคุมรถกลับดูเป็นสปอร์ท ตามแบบฉบับ โฮลเดน
เมื่อเปรียบเทียบมิติกับ ฟอร์ด เทอร์ริทอรี จะเล็กกว่าในทุกด้าน สำหรับรถที่ผลิตออกจำหน่าย คงจะไม่ค่อยแตกต่างจากรถแนวคิดที่โชว์ตัวมากนัก
วิศวกรของ โฮลเดน ทำงานร่วมกับวิศวกรของ แดวู ซึ่งอยู่ในเครือ จีเอม เช่นเดียวกัน เพื่อพัฒนารถรุ่นนี้ ให้เหมาะสมกับการใช้งานในออสเตรเลีย
นิสสัน
พร้อมเปิดไลน์การผลิต นาวารา ดับเบิลแคบ
ผู้บริหารค่าย นิสสัน เปิดตัวรุ่นใหญ่ นาวารา ดี 40 (NAVARA D40) ใหม่ถอดด้ามในงานมหกรรมยานยนต์ออสเตรเลีย โครงสร้างหลักใหญ่ๆ ยังเป็นรุ่น นาวารา เอสที-อาร์ โฉมปัจจุบัน
แผนการที่วางไว้ตอนแรก สำหรับรถรุ่น ดี 40 จะใช้ฐานการประกอบที่ประเทศสเปน โดยทำการผลิตควบคู่กับรุ่น ดี 22 ที่มีขายอยู่ในปัจจุบัน
สำหรับรุ่น ดี 40 ดับเบิลแคบ จะวางเครื่องยนต์ เบนซิน วี 6 สูบ 4.0 ลิตร DOHC กำลังสูงสุด 270 แรงม้า ที่ 5,600 รตน. แรงบิดสูงสุด 39.2 กก.-ม. ที่ 4,000 รตน. และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ คอมมอนเรล 2.5 ลิตร 174 แรงม้า ที่ 4,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 41.0 กก.-ม. ที่ 2,000 รตน. สำหรับเกียร์มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และอัตโนมัติ 5 จังหวะ
ในส่วนของการขาย ดี 40 จะขายคู่กับ ดี 22 เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น ไม่แน่เหมือนกันว่า หากโรงงานที่สเปน ไม่พร้อมสำหรับการประกอบรุ่น ดี 40 นี้ ผู้บริหาร นิสสัน อาจจะเลือกใช้ฐานการประกอบในประเทศไทย แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ อาจต้องรอไปอีก 1 ปี เพื่อเคลียร์ไลน์การผลิตก่อน
ดอดจ์
เปิดตัว ไนทโร พร้อมจำหน่ายในเมืองลุงแซม
รถแนวคิด ไนทโร (NITRO) จากค่าย ดอดจ์ เปิดตัวครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์ชิคาโก เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปีที่แล้ว มาถึงปีนี้ จะมีการผลิตออกมาขายในสหรัฐอเมริกา ประมาณปลายปี
ดอดจ์ ไนทโร เป็นรถแวกอนขนาดกลาง จุผู้โดยสารมากถึง 5 ที่นั่ง ขุมกำลังมีให้เลือกตั้งแต่ เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ วี 6 สูบ 3.0 ลิตร และเครื่องยนต์ HEMI วี 8 สูบ 5.7 ลิตร ตัวเดียวกับที่วางใน จีพ กแรนด์ เชอโรคี ใหม่
โตโยตา
ทุ่มงบ ซื้อหุ้น ซูบารุ
โตโยตา มอเตอร์ส ฯ ประกาศจะซื้อหุ้น ฟูจิ เฮวี อินดัสตรีส์ ฯ ผู้ผลิตรถ ซูบารุ จาก จีเอม หลังจากที่ จีเอม เข้ามาถือหุ้นในกิจการ ซูบารุ ตั้งแต่ปี 1999 ด้วยสัดส่วนหุ้น 20.9 % ถือว่าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของ ซูบารุ
ตามติดมาด้วย 8.7 % ของหุ้นทั้งหมด ทาง โตโยตา เป็นผู้ถือหุ้นไว้ โดย จีเอม จะขายส่วนที่เหลืออีก 11.4 % ที่เหลือให้กับ โตโยตา
เหตุผลที่ จีเอม ขายหุ้นทิ้ง ดูเหมือนจะเป็นบทสิ้นสุดของความเป็นพันธมิตรระหว่าง ซูบารุ กับ ซาบ ของ จีเอม จากการซื้อหุ้นไป โดย โตโยตา จะทำให้เกิดประโยชน์ทั้งกับ โตโยตา และซูบารุ ในเรื่องของระบบออลล์วีลดไรฟนั้น ซูบารุ มีความชำนาญมากๆ หาก โตโยตา เข้าไปถือหุ้นจะทำให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีมากขึ้น ที่สำคัญ ซูบารุ และ โตโยตา เองก็มีตลาดในส่วนของรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ค่อนข้างจะกว้างมาก หาก 2 ค่ายนี้จับมือผสานกันแล้ว คู่แข่งอีกหลายค่ายคงจะหนาวไม่น้อย
ซูซูกิ
ไมเนอร์เชนจ์ จิมนี ใหม่
ซูซูกิ จัดการไมเนอร์เชนจ์ จิมนี (JIMNY) โดยออกแบบกันชนหน้าใหม่ พ่นสีกระจกมองข้างให้เป็นสีเดียวกันกับตัวรถ และเพิ่มกระจกมองข้างทางด้านฝั่งผู้โดยสาร การรับประกัน ซูซูกิ ใจใหญ่กล้ารับประกัน 3 ปี หรือ 100,000 กม. และให้การบริการช่วยเหลือยามคับขัน 24 ชม. ตลอดระยะเวลา 3 ปี
ซีตรอง
จับมือ มิตซูบิชิ พัฒนารถ 4x4 รุ่นแรกของจ่าโท
ซีตรอง ร่วมมือกับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ฯ ในการพัฒนารถ เซ แซต (C7) ให้เป็นรถวิบากรุ่นแรกของ ซีตรอง โครงสร้างหลักจะดูละม้ายคล้ายกับ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ ขุมกำลังที่วางจะมีเครื่องยนต์ของ ซีตรอง เป็นเครื่องดีเซล เอชดีไอ ความจุ 2.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 133 แรงม้า หรืออาจจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.4 ลิตร ของ มิตซูบิชิ
เรื่องโดย : วิโชค ควรรักษ์เจริญ
นิตยสาร 4wheels ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2549
คอลัมน์ Online : ทั่วไป
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/13511