นิสสัน มูราโน (NISSAN MURANO) เอสยูวีหรู เปี่ยมสมรรถนะ ที่ประสบความสำเร็จจากฝั่งอเมริกาเหนือ และอาจหาญข้ามมาฝั่งยุโรป พร้อมด้วยสมรรถนะ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยการตอบสนองการใช้งานของรถซาลูน และรถ 4x4 อย่างครบครัน มีการออกแบบที่ผสมผสานความหรูหราของห้องโดยสาร เข้ากับการออกแบบที่โฉบเฉี่ยวของภายนอก ซึ่งได้รับอิทธิพล มาจาก 350 เซด รถสปอร์ทตัวแรง จนออกมาเป็น นิสสัน มูราโน ได้อย่างกลมกลืน และลงตัว

นิสสัน มูราโน (NISSAN MURANO) เอสยูวีหรู เปี่ยมสมรรถนะ ที่ประสบความสำเร็จจากฝั่งอเมริกาเหนือ และอาจหาญข้ามมาฝั่งยุโรป พร้อมด้วยสมรรถนะ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยการตอบสนองการใช้งานของรถซาลูน และรถ 4x4 อย่างครบครัน มีการออกแบบที่ผสมผสานความหรูหราของห้องโดยสาร เข้ากับการออกแบบที่โฉบเฉี่ยวของภายนอก ซึ่งได้รับอิทธิพล มาจาก 350 เซด รถสปอร์ทตัวแรง จนออกมาเป็น นิสสัน มูราโน ได้อย่างกลมกลืน และลงตัว มูราโน เป็นผลงานการออกแบบจากสตูดิโอ นิสสัน ดีไซจ์น อเมริกา (NDA: NISSAN DESIGN AMERICA) ในแคลิฟอร์เนีย ที่ต้องการให้เป็นรถที่แสดงถึงอัจฉริยะภาพแห่งการออกแบบ ด้วยความแตกต่าง ความโดดเด่น และพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ภายใต้ตัวรถที่สวยงาม โฉบเฉี่ยว คือ โครงสร้างที่ออกแบบใหม่หมด พร้อมกับเครื่องยนต์ตัวเดียวกับที่อยู่ภายใต้ฝากระโปรงของ 350 เซด เป็นเครื่องยนต์เบนซิน วี 6 สูบ 24 วาล์ว เพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ ความจุ 3,498 ซีซี ให้กำลังสูงสุดถึง 231 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. และแรงบิด 32.4 กก.-ม. ที่ 3,600 รตน. ระบบถ่ายทอดกำลังแบบซีวีที (CVT: CONSTANTLY VARIABLE TRANSMISSION) 6 จังหวะ ทำงานควบคู่กับระบบทริพทรอนิค เลือกอัตราทดด้วยการโยกคันเกียร์ขึ้นและลง ทำงานควบคู่กับระบบกระจายกำลังขับเคลื่อนแบบออลล์โหมด ที่จ่ายกำลังขับเคลื่อนสู่ล้อหน้าในสภาวะปกติ หากมีการลื่นไถล กำลังขับเคลื่อนจะถูกส่งออกไปยังล้อทั้งสี่ทันที ระบบรองรับดุจรถยนต์นั่งชั้นดี ด้วยระบบแมคเฟอร์สันสตรัท ในด้านหน้า และมัลทิลิงค์ในด้านหลัง เพื่อความสะดวกสบายของผู้โดยสาร วิศวกร นิสสัน ได้พัฒนาระบบ EXTRA DAMPING LIPS ขึ้นมาสำหรับ มูราโน ซึ่งเน้นการให้ตัวที่นุ่มนวลเป็นพิเศษ เมื่อข้ามมหาสมุทรแอทแลนติคมาสู่ฝั่งยุโรป มูราโน ถูกปรับเปลี่ยนถึง 300 รายการ เพื่อสนองรสนิยมของผู้คนยุโรป โดยมีการปรับเปลี่ยนรูปทรงในด้านท้าย เพิ่มอุปกรณ์แอโรพาร์ท เพิ่มอุปกรณ์ความปลอดภัย และใช้วัสดุภายในห้องโดยสารที่มีคุณภาพสูงขึ้น นอกจากนั้นยังมีการพัฒนาคุณภาพของระบบห้ามล้อ การทรงตัว และระบบควบคุมการขับขี่ รวมไปถึงการให้ความสำคัญกับลดการรบกวนจากการทำงานของระบบรองรับ ทั้งเสียง ความสั่นสะเทือน และความกระด้าง เพื่อความรื่นรมย์ในการเดินทาง พลังจากเครื่องยนต์ วี 6 สูบ สามารถฉุดตัวถังเกือบสองตัน (1,859 กก.) ให้แล่นฉิวไปได้อย่างน่าประทับใจ เครื่องยนต์ให้การตอบสนองอย่างฉับไวและต่อเนื่อง สามารถเร่งจากจุดหยุดนิ่งถึงความเร็ว 96 กม./ชม. ได้ภายใน 8.9 วินาที ไล่เลี่ยกับ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 3 2.5 คู่แข่งในกลุ่มเอสยูวีระดับหรู ที่กำลังได้รับความนิยมในยุโรป การทำงานของระบบเกียร์ซีวีที โดยรวมจัดว่า นุ่มนวลดี สำหรับคันที่นำมาทดสอบมีปัญหาเล็กน้อย หากย้ำคันเร่งในช่วง 48 กม./ชม. จะเกิดอาการระบบส่งกำลังขาดตอนทั้งที่รอบเครื่องมีการเร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง การขับในสภาพเส้นทางวิบาก เอาตัวรอดได้ โดยใช้ระบบแมนวลโฮลเกียร์ไว้ ซึ่งช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างต่อเนื่องได้ ทั้งยังสามารถใช้เอนจินเบรค ในการควบคุมรถในสภาพทุรกันดาร ระบบห้ามล้อ สามารถสร้างความมั่นใจในระบบความปลอดภัย โดยติดตั้งระบบป้องกันล้อลอค เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมด้วยระบบกระจายแรงบิด ควบคุมด้วยอีเลคทรอนิค (ELECTRONIC BRAKE-FORCE DISTRIBUTION) และระบบช่วยเบรค (BRAKE ASSIST) สามารถหยุดรถพิกัดเกือบสองตัน ให้หยุดสนิทจากความเร็ว 112 กม./ชม. ด้วยระยะเพียง 50 เมตร มูราโน ถูกสร้างขึ้นด้วยแนวคิดของรถสไตล์ 4x4 ที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพการทรงตัวของรถทางเรียบ แต่จากการทดสอบ ไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่อยู่หลังพวงมาลัยได้ แรกขับจะประทับใจกับการจัดท่านั่ง ระบบผ่อนแรงของพวงมาลัยที่ควบคุมทิศทางได้ดังใจ ทั้งยังมีทัศนวิสัยที่กว้างขวางมาก แต่เมื่อใช้ความเร็วสูงขึ้น การบังคับทิศทางเริ่มมีความไม่แม่นยำ ขาดการสื่อสารกับสภาพผิวถนน พวงมาลัยที่มีรอบการหมุนจากลอคชนลอค 3.2 รอบ แต่ยังมีอัตราทดต่ำเกินไป ทำให้มีวงเลี้ยวไม่น่าประทับใจ แม้มีการปรับมาใช้ระบบรองรับแบบสปอร์ทแล้ว การทำงานของระบบรองรับ ไม่มีความโดดเด่นเลย ในความเร็วสูงตัวรถมีการโคลงมาก การหักเลี้ยวเปลี่ยนเลน ให้การตอบสนองช้า ในจุดนี้ความโดดเด่นของ มูราโน อยู่ที่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ที่ทำงานอย่างเป็นอิสระ และเงียบ การจ่ายแรงบิดไปยังล้อหน้า/หลังอย่างต่อเนื่อง และนุ่มนวลจนแทบไม่รู้สึก ระบบควบคุมการทรงตัวด้วยอีเลคทรอนิค สามารถสร้างความมั่นใจในการขับขี่มากขึ้น โดยเฉพาะการเข้าโค้ง ห้องโดยสารของ มูราโน ค่อนข้างกว้างขวาง และน่าประทับใจ ทาง นิสสัน เลือกใช้วัสดุของอุปกรณ์ที่แตกต่าง พร้อมกับออกแบบขึ้นมาใหม่ แต่การใช้พลาสติคในหลายๆ ส่วน ทำให้เกิดความรู้สึกว่า ด้อยคุณภาพ เบาะคนขับมีการจัดตำแหน่งท่านั่งที่สบายสำหรับทุกรูปแบบของสรีระ เพียงการปรับความเอียงของพวงมาลัยก็ถือว่าเพียงพอแล้ว เนื้อที่ค่อนข้างกว้างขวางในเบาะหน้ามีทั้งเฮดรูม และเลกรูมอย่างเพียงพอ ในเบาะหลังสามารถรับผู้โดยสารได้ถึงสามคน พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังมีปริมาตรถึง 476 ลิตร สามารถเลือกพับได้ในสัดส่วน 40:60 การทำงานแสนง่ายด้วยมือจับที่ถนัดมือ เพื่อความปลอดภัยของทั้งคนขับ และผู้โดยสารภายในห้องโดยสาร ได้ติดตั้งถุงลมนิรภัย และถุงลมนิรภัยแบบม่าน พร้อมกับระบบความปลอดภัยควบคุมด้วยอีเลคทรอนิค ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันการลื่นไถล ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบปรับแรงตึงเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติ มั่นใจว่าปลอดภัย และผ่านการทดสอบการชน ตามมาตรฐาน EURO NCAP ในระดับ 4 ดาว อุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารมีให้เพียบ และหรูหรา ตั้งแต่การหุ้มเบาะ และอุปกรณ์ภายในด้วยหนังแท้ ระบบเครื่องเสียงคุณภาพสูง จอภาพแสดงระบบนำทางด้วยดาวเทียม และภาพวีดีโอมุมมองด้านหลังขณะถอย และโคมไฟซีนอน มูราโน จัดว่าเป็นรถที่ดูดีมาก สำหรับรถ 4x4 สายเลือดใหม่ แต่สำหรับผู้ที่จะแลกด้วยเงินจำนวนไม่น้อย ต้องศึกษาให้มากขึ้น ด้วยราคาที่ดูคุ้มค่า อุปกรณ์ภายในที่มีให้อย่างครบครัน และสมรรถนะบนทางเรียบที่น่าจับตามอง แม้เรามองว่าระบบรองรับ ของ มูราโน ทำให้ประสิทธิภาพการทรงตัว และการควบคุมรถเป็นจุดด้อยที่ทำให้ไม่สามารถเทียบชั้นกับ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 3 2.5 และ เลกซัส ได้ แต่ มูราโน ยังสามารถประสบความสำเร็จในการทำยอดขายได้ หากคุณคิดว่ารถ 4x4 ที่เปี่ยมไปด้วย ความเร้าใจ ความทันสมัย คือ ความต้องการสูงสุดของคุณ นิสสัน มูราโน จะเป็นรถที่สามารถตอบสนองความต้องการของคุณได้อย่างเต็มเปี่ยม