ตลอดระยะเวลากว่า 9 ปี บริษัท อีตั้น อิมปอร์ท จำกัด (ETON IMPORT) ผู้นำเข้ารถยนต์อิสระได้รับการยอมรับจากกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศได้เป็นอย่างดี ด้วยความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าและการบริการหลังการขายที่มีต่อลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

ตลอดระยะเวลากว่า 9 ปี บริษัท อีตั้น อิมปอร์ท จำกัด (ETON IMPORT) ผู้นำเข้ารถยนต์อิสระได้รับการยอมรับจากกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศได้เป็นอย่างดี ด้วยความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าและการบริการหลังการขายที่มีต่อลูกค้าอย่างต่อเนื่อง 4 WHEELS สัมภาษณ์ ศุภโชค โพธิพัฒนานนท์ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท อีตั้น อิมปอร์ท จำกัด เกี่ยวกับจุดเด่น และทิศทางการดำเนินงานของ อีตั้น ฯ 4 WHEELS : บริษัทเริ่มต้นก่อตั้งเมื่อไร ? ศุภโชค : บริษัทนี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2539 ซึ่งเดิมใช้ชื่อ NCC AUTO SALE เป็นบริษัทที่ร่วมทุนระหว่างกลุ่มผู้นำเข้ารถยนต์ จะเน้นรถยุโรปเป็นหลัก หลังจากนั้นได้มีการเปลี่ยนแปลง คุณชาญชัย ตันติยันกุล จึงได้ซื้อหุ้นทั้งหมดแล้วเปิดบริษัทใหม่ โดยใช้ชื่อ บริษัท อีตั้น อิมปอร์ท จำกัด เป็นต้นมา 4 WHEELS : วางทิศทางการดำเนินงานไว้อย่างไร ? ศุภโชค : เรานำเข้าเป็นรถยุโรปอย่าง รถ เมร์เซเดส-เบนซ์ และก็มี โฟล์ค ฯ ตู้ เป็นหลัก แต่สภาพตลาดรถนำเข้าทุกวันนี้เปลี่ยนไป เรามองแล้วว่าตลาดรถญี่ปุ่นมีกลุ่มลูกค้ามากขึ้น จึงหันมานำเข้ารถญี่ปุ่นอีกหลายรุ่น เพื่อเพิ่มช่องทางในการจำหน่าย และสามารถรองรับกลุ่มลูกค้าได้หลากหลาย 4 WHEELS : ในมุมมองของคุณคิดว่าตลาดรถยนต์นำเข้าบ้านเราเป็นอย่างไร ? ศุภโชค : ตลาดรถยนต์นำเข้าค่อนข้างดีขึ้นเรื่อยๆ ตอนแรกค่อนข้างเหนื่อย เพราะต้องสร้างภาพพจน์และความเชื่อถือให้เป็นที่ยอมรับ ซึ่งต้องใช้ความพยายามมาก เราต้องทำงานหนักและต่อเนื่องเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าเราไม่ใช้ผู้นำเข้ารถมาขายเพียงอย่างเดียว ต้องให้ดูแลเรื่องของการให้บริการหลังการขายต่างๆ จนค่อยๆ สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและได้รับความไว้วางใจมากขึ้น เราภูมิใจที่ได้สร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าจนทุกวันนี้ ซึ่งเรายังคงดำเนินธุรกิจตรงนี้ต่อไป 4 WHEELS : มีการวางแผนการตลาดอย่างไร ? ศุภโชค : มีครับ แผนการตลาดปกติตอนนี้มีทั้งผมผู้ดูแลทางโชว์รูมสาขารัชดา ส่วนสาขาศรีนครินทร์ ซึ่งปัจจุบันคือ คุณพีรศุษม์ ตันติยันกุล กรรมการผู้จัดการ เป็นผู้ดูแลทั้งหมด ได้วางแผนการตลาด ออกบูธโชว์ตามห้างสรรพสินค้า เช่น เซนทรัล สนามกอล์ฟ ชั้น 1 บ้านจัดสรรใหญ่ๆ ลูกค้าเกรด A บางครั้งก็มีบูธโชว์ต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่มอเตอร์โชว์ ขอนแก่นมอเตอร์โชว์ และก็มีโชว์ที่ เดอะมอล์โคราช แล้วก็มีสื่อโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ และนิตยสาร ลูกค้าของเราเป็นกลุ่มเอบวกอยู่แล้ว ความต้องการของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ได้สัมผัสลูกค้าโดยตรง เมื่อลูกค้าต้องการอะไร เราต้องตอบสนองเขาได้ ในด้านของงานตกแต่งรถเป็นงานหลัก ซึ่งมีความหลากหลายให้เลือก 4 WHEELS : มีการรับประกัน และบริการหลังการขายอะไรบ้างสำหรับลูกค้า ? ศุภโชค : การรับประกันบริการหลังการขายถือเป็นหัวใจหลักที่ยึดถือมาตลอด บริษัทเรามีการรับประกันรถทุกคันเป็นเวลา 1 ปี ไม่จำกัดระยะทางก็แล้วแต่ ฟรีการบำรุงรักษาตั้งแต่ 1,000 กิโลเมตรแรก และทุก 5,000 กิโลเมตร หรือบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ไส้กรอง ฟรีค่าแรงตลอดระยะเวลา 1 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร เรามี SERVICE BOOKให้ด้วย ที่สำคัญยังมีบัตร ETON EXCLUSIVE CARE บัตรสมาชิกช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ฟรี 1 ปี สำหรับลูกค้าที่ออกรถใหม่ ด้วยเครือข่ายให้ความช่วยเหลือกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ 4 WHEELS : ในช่วงนี้มีความเคลื่อนไหวอะไรเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ บ้างหรือเปล่า ? ศุภโชค : เราเน้นรถครอบครัว สำหรับเดินทาง เอมพีวี เอสยูวี รวมถึงรถสปอร์ทนำเข้า เรานำเข้ารถตัวใหม่ 2 รุ่น คือรถ เอสตีมา ไฮบริด (ESTIMA HYBRID) และ อัลฟาร์ด ไฮบริด (ALPHARD HYBRID) ซึ่งรถทั้ง 2 รุ่นนี้ เป็นเครื่องยนต์ที่ผสมผสานระหว่างเครื่องไฟฟ้า และเครื่องยนต์ ซึ่งปัจจุบันนี้รัฐบาลมีนโยบาย ส่งเสริมในกรณีนำเข้ารถที่ประหยัดพลังงาน ซึ่งมีภาษีนำเข้าถูกลง ซึ่งรถตัวนี้ช่วยรักษาและปกป้องสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงาน และคาดว่าช่วงกลางปีเราจะนำรถไฮบริดรุ่นใหม่ เข้ามาจำหน่าย ซึ่งเป็นรถขนาดเล็ก ประหยัดน้ำมัน ก็ต้องคอยติดตามดู 4 WHEELS : ตลาดในบ้านเราเมื่อเทียบสัดส่วนกับคู่แข่ง และปีนี้คาดการณ์ไว้เท่าไร ? ศุภโชค : จากปีที่ผ่านมาค่อนข้างดี โตขึ้นประมาณ 12 % ยอดขายเพิ่มมากกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งลูกค้าหลักๆ ที่ซื้อรถเราส่วนใหญ่จะไม่ใช่รถคันแรก ซึ่งมีรถอื่นๆ เช่น รถเก๋ง หรือเคยเป็นลูกค้าเก่า ลูกค้าต่อเนื่องที่ยอมรับในการบริการหลังการขาย คุณภาพสินค้าซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ทราบ ปีนี้คาดว่าจะมีรถรุ่นใหม่ๆ ออกมา ถ้ามีตัวเลขใหม่แนวโน้มน่าจะดีขึ้น น่าจะประมาณ 20 % 4 WHEELS : สภาพเศรษฐกิจมีผลกระทบกับยอดจำหน่ายหรือไม่ ? ศุภโชค : สภาวะราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูง รวมไปถึงอัตราค่าแลกเปลี่ยนมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น มีผลกระทบกับเราน้อยมาก เพราะเราทำตลาดควบคู่กับการวิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจไปด้วย ซึ่งลูกค้าบางกลุ่มมีแนวโน้มอาจจะเร่งหารถไฮบริด ลูกค้าที่ซื้อรถของเราไม่ว่าจะเป็นรถเอสยูวี หรือเอมพีวี ส่วนใหญ่ลูกค้าที่ใช้เป็นระดับผู้บริหาร ผลกระทบจึงไม่มาก 4 WHEELS : อีตั้น อิมปอร์ท ฯ มีกี่สาขา และมีแผนจะขยายสาขาใหม่เพิ่มขึ้นหรือไม่ ? ศุภโชค : ตอนนี้เรามีทั้งหมด 4 สาขา สำนักงานใหญ่อยู่ที่ ศรีนครินทร์ และสาขารัชดาภิเษก ในส่วนต่างจังหวัดเรามี 2 สาขา คือ สาขา จ. เชียงใหม่ และ จ. ขอนแก่น และมีแผนที่จะขยายสาขาใหม่ในแถบฝั่งธน ฯ และปริมณฑล เพราะเรามีลูกค้าค่อนไปทางปริมณฑลค่อนข้างดี เช่นลูกค้าจาก นครปฐม ราชบุรี กาญจนบุรี อยู่ในระหว่างเตรียมความพร้อมเรื่องบุคลากร และพื้นที่ทำเลที่เหมาะสม 4 WHEELS : จุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่ง ? ศุภโชค : เราดำเนินการมาปัจจุบันเป็นปีที่ 9 ในความเชื่อมั่นลูกค้าค่อนข้างดี เพราะเราไม่ได้อยู่เฉย อะไรที่เป็นความพึงพอใจลูกค้าเราถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด การบริการหลังการขาย ปัจจุบันนี้เรากล้าพูดได้เต็มปากเลยว่า เรามีเครื่องมือวิเคราะห์เครื่องยนต์จากประเทศญี่ปุ่นเป็น S 2000 เครื่องมือที่อัพเกรดที่สุด ซึ่งรับรองได้ว่าในเมืองไทยอย่างมากมีแค่ 2 ราย แต่ของเราเป็นเครื่องที่อัพเกรดที่สุดที่สามารถวิเคราะห์เครื่องยนต์ของ โตโยตา โดยคอมพิวเตอร์การันตีเพื่อความสบายใจของลูกค้า นอกจากนั้นเราได้เน้นความแปลกใหม่ เช่น รถไฮบริด โตโยตา เอสตีมา อัลฟาร์ด แฮร์ริเออร์ ซึ่งเป็นรถในเชิงพาณิชย์ที่เกี่ยวข้องกับกระแสโลกในการประหยัดน้ำมัน