หมู่เกาะตะรุเตา อุทยานแห่งชาติที่อยู่ตอนใต้สุดของทะเลอันดามัน ติดกับเขตทะเลอันดามันของประเทศมาเลเซีย เป็นแหล่งดำน้ำลึกที่มีปะการังอ่อนสีสวยงามมากมาย เนื่องจากมีกระแสน้ำค่อนข้างแรงเพราะเป็นหมู่เกาะที่อยู่ใกล้กันหลายเกาะ ทำให้เกิดเป็นร่องน้ำ ปะการังอ่อนจะเจริญเติบโตสวยงามได้ ต้องอาศัยกระแสน้ำที่ไหลเวียน เพื่อพัดพาเอาพวกแพลงตอน (PLANKTON) ซึ่งเป็นอาหารมาให้ เนื่องจากปะการังอ่อนอยู่กับที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวไปหาอาหารที่ไหนได้

หมู่เกาะตะรุเตา อุทยานแห่งชาติที่อยู่ตอนใต้สุดของทะเลอันดามัน ติดกับเขตทะเลอันดามันของประเทศมาเลเซีย เป็นแหล่งดำน้ำลึกที่มีปะการังอ่อนสีสวยงามมากมาย เนื่องจากมีกระแสน้ำค่อนข้างแรงเพราะเป็นหมู่เกาะที่อยู่ใกล้กันหลายเกาะ ทำให้เกิดเป็นร่องน้ำ ปะการังอ่อนจะเจริญเติบโตสวยงามได้ ต้องอาศัยกระแสน้ำที่ไหลเวียน เพื่อพัดพาเอาพวกแพลงตอน (PLANKTON) ซึ่งเป็นอาหารมาให้ เนื่องจากปะการังอ่อนอยู่กับที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวไปหาอาหารที่ไหนได้ ถ้าคุณเป็นนักดำน้ำจะเห็นว่า ตรงปลายกิ่งก้านของปะการังอ่อน จะเหี่ยวไม่บาน ตรงปลายของกิ่งก้านจะชูตั้งบานออกอย่างกระฉับกระเฉง เพื่อคอยจับสารอาหารที่มากับกระแสน้ำ ซึ่งทำให้ดูมีชีวิตชีวามากทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ตะรุเตานั้น มีตะกอนของพวกแพลงตอนอยู่มาก เนื่องจากเกาะที่อยู่ใกล้กันหลายเกาะ และน้ำที่ค่อนข้างตื้น ทำให้ได้รับแสงแดด ซึ่งเป็นที่ต้องการของแพลงตอน เมื่อต้นเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นต้นฤดูท่องเที่ยวของทะเลอันดามัน พวกเรานักดำน้ำประมาณ 25 คนได้ลงเรือออกจากภูเก็ตตอนกลางคืนผ่านเกาะพีพี ไปทางตอนใต้ของทะเลอันดามัน ใช้เวลาประมาณ 8 ชม. ก็ถึงหมู่เกาะตะรุเตาในตอนเช้า และได้ดำน้ำดูปะการังอ่อนโดยเฉพาะที่ร่องน้ำจาบัง กับอีกสถานที่หนึ่งที่อยู่ใกล้กัน เรียกว่า ลานหิน จะมีปะการังอ่อน และพวกดาวขนนกหลากสีมากมายเป็นทุ่งกว้างเกือบเท่าครึ่งสนามฟุตบอล แต่พวกดาวขนนกนั้น จะมีข้อได้เปรียบกว่าปะการังอ่อน ตรงที่ว่า มันสามารถเคลื่อนไหวปลิวไปตามกระแสน้ำแล้วไปเกาะอยู่ตามปะการังแข็ง หรือพวกแส้ทะเลต่างๆ แล้วมันก็จะขยับแขนของมันซึ่งเหมือนกับใบต้นเฟิร์นเล็กๆ แต่มีสีสันสวยงามมาก เช่น ดำ เหลือง แดง และฟ้า พวกเราได้ดำน้ำที่ตะรุเตา และพักบนเรือเป็นเวลาสี่วัน นอกจากปะการังอ่อน และพวกดาวขนนกแล้ว สัตว์ที่พบส่วนใหญ่เป็นสัตว์ขนาดเล็กๆ เนื่องจากทะเลที่ตะรุเตา ไม่ลึก ดังนั้นจะมีแต่สัตว์ขนาดเล็ก เช่น พวกปลาที่อยู่ตามปะการังทั่วไป ม้าน้ำ และปลาหมึก เป็นต้น ถ้าอยากเจอปลาใหญ่ อาทิ ปลาหมอยักษ์ เราต้องออกไปดำน้ำที่ "หินแปดไมล์" สถานที่แห่งนี้มีระยะทางห่างจากหมู่เกาะตะรุเตา ประมาณ 8 ไมล์ทะเล ซึ่งเป็นกองหินที่อยู่ใต้น้ำ และมีพวกปลาขนาดใหญ่ให้ดู บางครั้งถ้าโชคดีอาจจะได้พบปลายักษ์ใจดี คือ ฉลามวาฬ ในหมู่เกาะตะรุเตา มีอยู่เกาะหนึ่งชื่อว่า "หลีเป๊ะ" ด้านหน้าจะมีหมู่บ้านของชาวประมง ซึ่งส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ถ้าไปที่หมู่บ้าน และหาข้าวทานก็จะมีแต่พวกปลากับผัก ส่วนด้านหลังของเกาะเป็นชายหาดสวยงาม มีรีสอร์ทขึ้นตามชายหาด พร้อมภัตตาคาร และห้องอาหาร จะทานอะไรก็หาได้ และเรือของเราก็จอดค้างคืนในอ่าวของเกาะหลีเป๊ะ ด้านที่มีรีสอร์ท ซึ่งมีเรือยอชท์ จอดอยู่หลายลำทีเดียว ถ้าคุณไปเที่ยวหมู่เกาะตะรุเตา แต่ดำน้ำไม่เป็น ก็สามารถไปดำน้ำแบบที่เรียกว่า สนอร์เคอลิง (SNORKELING) ได้ เพราะน้ำตื้น และมีแสงแดด ทำให้คุณสามารถเห็นพวกปะการังอ่อน ดาวขนนกได้ โดยเฉพาะที่ร่องน้ำจาบัง มีชาวต่างชาติดำน้ำแบบสนอร์เคอลิง กันมากทีเดียว นอกจากนั้น คุณยังสามารถไปขึ้นเกาะหินงาม ซึ่งจะเห็นเกาะอาดังกาวี ติดกับเกาะลังกาวี ของประเทศมาเลเซีย ในขณะที่พวกเราดำน้ำกันนั้น เราก็จะพบเรือของชาวมาเลเซีย มาจับปลาอยู่ข้างๆ เรือ ซึ่งเราไม่รู้ว่าเขตแดนของทะเลนั้น อยู่ตรงไหนกันแน่ ? ตอนแรกคิดว่า จะอยู่ที่หมู่เกาะตะรุเตา สักสี่วัน แต่เห็นว่าวันสุดท้าย อาจจะเหนื่อยเกินไปในการเดินทางกลับ เลยกลับมาที่เกาะพีพี ดำน้ำแถวนั้น ซึ่งมีเกาะปิดะนอก และปิดะใน มีพวกปะการังอ่อนให้ดูได้พอสมควร ตอนกลางคืนพวกเราดำน้ำที่หน้าอ่าวมาหยา ซึ่งมีชื่อเสียงจากการที่ชาวต่างชาติมาสร้างภาพยนตร์ ก่อนกลับมายังภูเก็ตได้อย่างไม่เหนื่อยนัก พักค้างบนเรืออีกคืนที่ท่าเรือ แล้วนั่งเครื่องบินกลับในตอนบ่ายของอีกวันหนึ่ง เนื่องจากตามกฎของการดำน้ำลึก เราต้องพักผ่อนไม่น้อยกว่า 18 ชม. หลังจากดำน้ำครั้งสุดท้าย