ทั่วไป
-
เหมือน อีซูซุ หรือเปล่า ?
ฉบับแรกจาก คนสะพานแดง/บางซื่อ บอกว่าเคยเห็น เชฟโรเลต์ โคโลราโด ออกมาวิ่งบนถนนบ้างแล้ว มีคำถามมารบกวน 2 ข้อ
ถาม : บอดีห้องโดยสารจนถึงห้องเครื่องของ โคโลราโด ปลอดภัยแค่ไหน อย่างไร และมีแชสซีส์ต่อ 3 ชิ้นเหมือนอย่าง อีซูซุ มาใช้ในรุ่นนี้ด้วยหรือไม่ ?
ตอบ : โครงสร้างในส่วนของตัวถังทั้งของ อีซูซุ ดี-แมกซ์ และเชฟโรเลต์ โคโลราโด เหมือนกันไม่มีผิด จะมีแตกต่างกันบ้าง ก็ในส่วนของการตกแต่งรายละเอียดทั้งภายนอกและภายใน เช่น ไฟหน้าที่ โคโลราโด ให้ความรู้สึกบึกบึนในสไตล์อเมริกัน ในขณะที่ ดี-แมกซ์ ยังคงสไตล์อินเทรนด์ แบบฉบับของรถเมืองปลาดิบ และที่สำคัญในส่วนที่ต้องมีการประดับโลโก ก็จะติดโลโกแตกต่างกัน แต่เมื่อดูโดยรวมๆ แล้วยังคงมีส่วนเหมือนกัน
ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมแชสซีส์ของทั้ง โคโลราโด และดี-แมกซ์ จึงใช้แบบแชสซีส์ต่อ 3
ชิ้นเหมือนกัน หลายๆ คนเข้าใจว่า โครงสร้างแชสซีส์ต่อแบบ 3 ชิ้นที่มีใช้ใน อีซูซุ ดี-แมกซ์ มาก่อน
เป็นปมด้อยในเรื่องของความแข็งแกร่ง ทนทาน หารู้ไม่ว่าการที่วิศวกร อีซูซุ ออกแบบให้แชสซีส์ มีลักษณะเช่นนั้น เนื่องมาจากนวัตกรรมใหม่ที่ต้องการลดน้ำหนักของแชสซีส์ลง แต่ยังคงรองรับน้ำหนักบรรทุกได้ดีเช่นเดิม อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของระบบรองรับความปลอดภัย จากการชน
จากทางด้านหน้าและท้ายรถ แต่ผู้ใช้รถ อีซูซุ ก่อนหน้านี้หลายคนเข้าใจว่า แชสซีส์ต่อ 3
ชิ้นเป็นจุดเปราะที่น่ากลัว ความจริงหาได้เป็นเช่นนั้นไม่
มีปัญหาสงสัย
ฉบับสองจาก มด พญาไท/กรุงเทพ ฯ ถามมาเกี่ยวกับรถ อีซูซุ ดี-แมกซ์ คันที่ใช้อยู่
ถาม : ผมใช้รถกระบะ อีซูซุ ดี-แมกซ์ มีข้อสงสัย 3-4 ข้อ อยากถามว่า ช่วงต่อหางเกียร์มีน้ำมันรั่วออกมาเกิดจากอะไร สอง มีสนิมขึ้นในหม้อน้ำได้อย่างไร รถเพิ่งใช้งานได้แค่ 2 ปีเอง สาม ยางหัวชอคอับซ้ายแตก ข้างขวามีรอยร้าว อายุการใช้งานต่ำ หรือวัสดุคุณภาพไม่ดี และสุดท้าย ล้อหน้าซ้ายมีเสียงหอน เกิดจากอะไรครับ ?
ตอบ : ไม่เห็นจุดหรือตำแหน่งที่มีน้ำมันรั่วกับตา จึงไม่กล้าที่จะระบุลงไปตรงๆ ว่า มันเกิดจากอะไรกันแน่ แต่น่าจะมาจากประเก็นเกียร์ที่อาจมีจุดรั่ว แม้จะเป็นเพียงรูเล็กๆ แต่ด้วยแรงดันที่สูงภายในห้องเกียร์ ทำให้น้ำมันถูกฉีดออกมาตามรูนี้ได้ แม้ว่าจะเป็นรถที่ประกอบมาใหม่ๆ ก็อาจเกิดปัญหานี้ได้ เนื่องจากตอนที่ซีลประเก็นเกียร์นั้น ยังไม่มีรูรั่ว แต่เมื่อใช้งานไปสักระยะหนึ่ง ประเก็นเกิดการขยายตัว และหดตัวจนทำให้เกิดเป็นรูรั่วขึ้น การแก้ปัญหาคงต้องรื้อเกียร์ออกมา แล้วทำการซีลประเก็นใหม่ ปัญหาดังกล่าวก็จะหายไป
ส่วนที่คุณถามว่า มีสนิมในหม้อน้ำได้อย่างไร รถเพิ่ง 2 ปี ชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ที่มีระบบน้ำหล่อเย็นไหลผ่านมีทั้งส่วนที่เป็นอลูมิเนียม และเหล็ก ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมเมื่อรถใช้งานไปสักระยะหนึ่งจึงสังเกตพบว่า น้ำหล่อเย็นในหม้อน้ำมีสีสนิมออกแดงๆ (จะยิ่งชัดขึ้น หากใช้น้ำสะอาดเพียงอย่างเดียวเติมในหม้อน้ำ โดยไม่ได้เติมน้ำยารักษาหม้อน้ำ) ในน้ำนั้นมีออกซิเจน เมื่อออกซิเจนไปทำปฏิกิริยาออกไซด์กับโลหะ แน่นอนว่า ต้องเกิดเป็นสนิม แต่หากบริเวณที่เป็นสนิม มีระบบน้ำหล่อเย็นไหลผ่าน แรงของน้ำที่ปั๊มน้ำอัดผ่านก็จะไปชะล้างให้สนิมหลุดออก
และละลายไปกับน้ำหล่อเย็น ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ปกติของระบบหล่อเย็น
หากคุณไม่ต้องการให้น้ำในหม้อน้ำรถคุณมีน้ำสนิมสีแดง แนะนำให้ถ่ายน้ำเก่าออก
แล้วเติมน้ำสะอาดใหม่ใส่เข้าไป พร้อมกับเติมน้ำยาดูแลรักษาหม้อน้ำ ซึ่งในตัวน้ำยา
นอกจากจะป้องกันไม่ให้น้ำมีจุดเดือดสูงเกินไปแล้ว ยังจะช่วยหล่อลื่นชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ไม่ให้เกิดสนิมได้ด้วย
สำหรับคำถามข้อสาม ยางหัวชอคอับซ้ายแตก ข้างขวามีรอยร้าว อายุการใช้งานต่ำ
หรือวัสดุคุณภาพไม่ดี ไม่ทราบว่ารถของคุณใช้งานมาแล้วกี่กิโลเมตร และมีลักษณะการใช้งานอย่างไร ? เพราะส่วนใหญ่ยางหัวชอคอับ จะมีอายุการใช้งานค่อนข้างมาก แต่รถคุณพบว่า ยางหัวชอคอับข้างซ้ายแตก ส่วนข้างขวามีรอยร้าว จึงขอให้ทำความเข้าใจก่อนว่า รถของคุณ
อาจจะมีการใช้งานที่หนักหน่วงมากกว่าปกติ ทำให้ยางหัวชอคอับ มีลักษณะเสียหาย
แต่ถ้าอยู่ในระยะประกันและมีการใช้งานเหมือนปกติ ยางหัวชอคอับนี้ ก็สามารถเคลมในระยะประกันได้ ทั้งนี้ความเสียหายอาจจะมาจากขั้นตอนการผลิตของยาง ที่ให้ค่าความแข็งตัวมากเกินไป ทำให้ยางขาดการยืดหยุ่นในตัว จนเป็นเหตุให้ยางแตก หรือร้าวได้ ถ้ารถยังอยู่
ในระยะประกัน ขอแนะนำให้รีบนำรถเข้าตรวจเชคที่ศูนย์บริการ ฯ โดยเร็ว
ส่วนคำถามข้อสุดท้าย ที่ถามว่า ล้อหน้าซ้ายมีเสียงหอน เกิดจากอะไร ? อาการเสียงหอนที่ล้อหน้านี้ น่าจะเกิดจากการเสื่อมสภาพของลูกปืนล้อ ที่มักจะเกิดกับรถขับเคลื่อนล้อหลัง ที่วางเครื่องยนต์ด้านหน้า ทั้งนี้เนื่องจากลูกปืนล้อเป็นจุดที่ต้องรองรับน้ำหนักรถ และถ่ายเทน้ำหนักไปยังล้อ เมื่อใช้งานไประยะหนึ่งลูกปืนล้อเกิดการสึกหรอ โดยจะแสดงออกมาให้เรารู้ได้โดยมีเสียงหอนที่ตำแหน่งล้อนั้นๆ และหากปล่อยทิ้งไว้เสียงดังกล่าวจะยิ่งดังขึ้น จนในที่สุดก็จะส่งผลมาถึง
ยางที่ตำแหน่งล้อนั้นๆ โดยที่เนื้อของหน้ายางจะมีการสึกหรอที่ไม่เท่ากัน และมีผลไปถึงระบบบังคับเลี้ยว ที่อาจจะมีอาการดึงไปด้านใดด้านหนึ่งมากกว่าปกติ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ ควรนำรถเข้าเปลี่ยนลูกปืนล้อทันที
ยางอะไหล่หาย
ฉบับสุดท้ายจาก นิยม เจริญเมือง/กรุงเทพ ฯ ขอคำปรึกษาเรื่องยางอะไหล่หาย
ถาม : ยางอะไหล่ติดรถ มิตซูบิชิ สตราดา ของผมหายไปสองเส้นแล้ว จะทำอย่างไรดีกับปัญหานี้
ช่วยแนะนำด้วยครับ ?
ตอบ : ยางอะไหล่ของรถกระบะบ้านเรานั้น ง่ายต่อการถูกโจรกรรมเป็นอย่างยิ่ง แค่มีตัวไขแป้นยึดยางอะไหล่เพียงตัวเดียว ก็สามารถขโมยยางอะไหล่ได้แล้ว แต่คุณไม่ต้องกังวลใจเพราะปัจจุบันมีอุปกรณ์หลากหลายที่ผลิตออกมาเพื่อลอค ป้องกันการขโมยยางอะไหล่ ทั้งแบบมีเสียง และไม่มีเสียง แต่ถ้าไม่อยากไปซื้อหาอุปกรณ์เหล่านั้นมาติดตั้ง เราขอแนะนำให้หาซื้อโซ่เส้นโต ยาวสักประมาณเมตรกว่าๆ กะเอาว่าไม่สามารถงัดหรือดึงกระชากให้ขาดได้โดยง่าย และกุญแจลอคอย่างดีอีกสักตัว แล้วจัดการเอาโซ่ที่เตรียมไว้มาพันคล้องยางอะไหล่และแชสซีส์ เข้าไว้ด้วยกัน
และลอคด้วยกุญแจ อาจจะช่วยชะลอการถูกขโมยให้นานขึ้นอีกหน่อย แต่วิธีที่ดีที่สุดคือ ถ้ารถคุณมีหลังคาไฟเบอร์ ครอบท้ายรถอยู่ แนะนำให้เอายางอะไหล่ไปเก็บไว้ในนั้น น่าจะปลอดภัยกว่า อาจจะเกะกะห้องโดยสารไปบ้าง แต่ก็ยังดีกว่าห้อยอยู่ใต้กระบะที่เดิม
เรื่องโดย : วิโชค ควรรักษ์เจริญ
นิตยสาร 4wheels ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2547
คอลัมน์ Online : ทั่วไป
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/12760