คอลัมน์ประจำ
เอสยูวี พันธุ์ใหม่ เอาใจวัยเอกซ์ทรีม
เอสยูวี ที่แตกแขนงมาจากรถเก๋งนั้น ส่วนใหญ่จะเน้นด้านประโยชน์ใช้สอย สำหรับ โตโยตา โวลท์ซ (TOYOTA
VOLTZ) ที่เกิดขึ้นมาจากการร่วมกันพัฒนาของ โตโยตา และจีเอม แม้จะใช้รถในตระกูล โคโรลลา เป็นพื้นฐาน
แต่ว่ามีความสดใหม่จากการนำเครื่องยนต์ทรงพลัง 190 แรงม้า มาใช้คู่กับระบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
เอสยูวี แบบใหม่
เน้นสมรรถนะในการขับขี่
"เอสยูวี" เป็นคำที่ใช้ได้สะดวกจริงๆ แต่ทั้งๆ
ที่ความหมายในปัจจุบันน่าจะเป็นรถที่ให้ทั้งสมรรถนะสูงและการขับขี่ที่สนุกกับการควบคุม แต่ว่าตามสภาพที่ปรากฏ
กลายเป็นประเภทของรถที่กำกวมตามข้อคิดที่ว่า "เน้นเรื่องความกว้างของห้องบรรทุกสัมภาระที่เหนือกว่ารถเก๋ง
ซีดาน และคูเป กับความสามารถในการรองรับผู้โดยสารที่เหนือกว่ารถแบบวันบอกซ์ และแวน"
แล้วก็มีรถใหม่อีกคันเพิ่มเข้ามาร่วมวงในประเภทเอสยูวี ที่ว่านี้ มันคือ โวลท์ซ รถใหม่ของ โตโยตา
มันมีเค้าหน้าดุดันอย่างที่ชาวอเมริกันชอบ ซึ่งก็คงต้องเป็นอย่างนั้น เพราะมี จีเอม ร่วมทำการพัฒนา
และรถในเวอร์ชันของ จีเอม ก็ได้รับการวางจำหน่ายในทวีปอเมริกาเหนือ ตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้
ในฐานะของพอนทิแอค วิบ (PONTIAC WIBE)
เรียกได้ว่าเป็นการพัฒนาร่วมกัน โดยฝ่าย จีเอม เข้าไปเกี่ยวข้องในขั้นตอนการวางคอนเซพท์ การออกแบบ
ส่วนการวางแปลน ทดสอบ และประเมินค่ารถที่ใช้แพลทฟอร์ม ของตระกูล โคโรลลา ที่เรียกว่า "NCV (NEW
CENTURY VALUE)" ฝ่าย โตโยตา เป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด ด้วยเหตุนี้
ลักษณะการวิ่งจึงออกรสชาติไปในแบบที่ชาวญี่ปุ่นชอบ ที่จริงแล้ว นี่ละ ! เป็นกลยุทธ์ที่ จีเอม
มุ่งใช้กับตลาดรถในอเมริกาเหนือ เนื่องจากว่าที่อเมริกาเหนือในช่วงนี้
มีการเปลี่ยนแปลงปรากฏให้เห็นในเรื่องของความชื่นชอบด้านการบังคับควบคุมรถ แน่นอน
ผู้ใช้ส่วนใหญ่อยู่ในระดับวัยรุ่น และแม้จะเป็นเรื่องของรถขนาดเล็ก แต่ก็ไม่ได้มีการเน้นการขับขี่อย่างสบายๆ
และสมรรถนะในการวิ่งทางตรงอย่างที่เคยเป็นมา แต่กลับสนับสนุนรสชาติแบบรถยุโรปที่ว่องไวและปราดเปรียว
อนึ่ง ทั้ง โตโยตา โวลท์ซ และพอนทิแอค วิบ ต่างก็ได้รับการผลิตที่ "NUMMI" (บริษัทร่วมทุนของ โตโยตา กับจีเอม)
ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐอเมริกา ด้วยเหตุนี้ โวลท์ซ ที่จำหน่ายในญี่ปุ่น จึงกลายเป็นรถนำเข้า
เครื่องยนต์ 190 แรงม้า พร้อมเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
มีให้เฉพาะรุ่นเอฟเอฟ เท่านั้น
สำหรับ โวลท์ซ มีการเตรียมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง ไว้ให้ 2 รุ่น คือ รุ่น 1ZZ-FE กับรุ่น 2ZZ-GE
ซึ่งต่างก็เป็นแบบ DOHC ความจุ 1.8 ลิตร แต่รุ่น 1ZZ เป็นชนิดลองสโตรค ไฮแมคานิค ทวินแคม ที่มี 2VVT-I
(กลไกปรับช่วงเวลาเปิด/ปิดวาล์ว ตามความเหมาะสม) อยู่ด้วย ส่วนรุ่น 2ZZ เป็นชนิดชอทสโตรค สปอร์ท ทวินแคม
ที่มี 2VVTL-I (กลไกปรับช่วงเวลาเปิด/ปิด และยกวาล์ว ตามความเหมาะสม) อยู่ด้วย ส่วนข้อมูลจำเพาะนั้น
มีการใส่ค่าของกำลังที่ต่างกันมาก ด้วยค่า 125 แรงม้า แรงบิด 16.4 กก.-ม. ของ 1ZZ กับ 190 แรงม้า แรงบิด 18.4
กก.-ม. ของรุ่น 2ZZ
เครื่องยนต์เหล่านี้ มีการแยกบรรจุตามเกรดรถ โดยเครื่องยนต์รหัส 1ZZ สำหรับรุ่น S และเครื่องยนต์รหัส 2ZZ
สำหรับรุ่น Z ซึ่งเป็นรุ่นทอพ ที่เตรียมวางเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
แต่เฉพาะรุ่นเอฟเอฟ เท่านั้น ที่มีให้เลือกสองเกรด ส่วนรุ่น 4x4 ไม่มีรุ่น Z เตรียมไว้ให้ ดังนั้น ทั้งกำลังสูงสุด 190
แรงม้า กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ จึงกลายเป็นสิทธิพิเศษสำหรับรุ่นเอฟเอฟ โดยเฉพาะไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งนี้
คงเป็นเพราะในอเมริกาเหนือ มีความต้องการรถ 4x4 น้อย และในเอนซีวี
แพลทฟอร์ม ที่กลายเป็นพื้นฐานของ โวลท์ซ ไม่สามารถใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ร่วมกับเกียร์ธรรมดาได้ แต่ในญี่ปุ่น
ความคิดของคนโดยทั่วไป คือ "SUV = 4x4"
อนึ่ง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เป็นแบบวีเฟลกซ์ ฟูลล์ไทม์ 4WD
ซึ่งเป็นแบบควบคุมปฎิกิริยาตอบสนองตามความต้องการ (ออนดีมานด์ ไทพ์) โดยไม่มีโหมดเชื่อมตรง
จึงไม่เหมาะกับลักษณะการใช้ในเส้นทางวิบากแบบลุยๆ
ระบบรองรับ
เซทล้อใหญ่ หวังผลด้านทัศนวิสัยเต็มที่
ระบบรองรับเป็นโครงอิสระสี่ล้อ แบบแมคเฟอร์สันสตรัท ที่ด้านหน้า และแบบปีกนกคู่ ที่ด้านหลัง
แต่ระบบรองรับด้านหลังของรุ่นเอฟเอฟ เป็นทอร์ชัน บีม หรือคานแข็งนั่นเอง จึงกล่าวได้ว่า รุ่น 4x4
ได้รับระบบรองรับที่มีสมรรถนะสูงกว่า
ความสูงท้องรถ แม้จะมีการรักษาไว้เท่าที่ควรเป็นในระดับ 180 มม. แต่เมื่อดูรูปทรงสปอยเลอร์ ที่กันชนหน้าแล้ว
ฟันธงได้เลยว่า ไม่ได้กะให้วิ่งในพื้นที่ที่มีขวากหนาม และความสูงท้องรถ 180 มม.
นี้ก็เป็นผลมาจากการใส่ยางใหญ่เข้าไป
อนึ่ง ขนาดของยางรถยนต์ในรุ่น Z คือ 215/50R17 และรุ่น S คือ 205/55R16
นับว่ามีขนาดใหญ่ทีเดียวทั้งความกว้างและเส้นผ่าศูนย์กลาง เมื่อคิดถึงพื้นฐานที่ใช้เอนซีวี แพลทฟอร์ม
ที่จริงเพื่อให้เข้ากับยางรถยนต์ขนาดนี้ ได้มีการยืดแขนของระบบรองรับให้ยาวกว่ารุ่นอื่นๆ ที่ใช้เอนซีวี แพลทฟอร์ม
แม้จุดมุ่งหมายในการใช้ยางรถยนต์ขนาดใหญ่นี้ ดูเหมือนจะไม่ได้มุ่งไปในเรื่องอื่น นอกจากให้ได้ผลด้านทัศนวิสัย
แต่กระนั้นก็ยังเอาใจใส่เหลือเกิน
ทดลองขับ
สมรรถนะรุ่น 4x4 ยังพื้นๆ อยากให้ร้อนแรงมากกว่านี้
รถที่ได้มาลองขับ มีแค่รุ่น 4x4 รุ่น S
มีโครงสร้างที่ใช้แค่ช่วงล่างและระบบขับเคลื่อนแบบทั่วไปเข้าคู่กับเครื่องยนต์ที่มีกำลังในระดับพื้นๆ 125 แรงม้า
จึงไม่มีอะไรน่าประทับใจเป็นพิเศษ แต่แน่นอน ด้านการบังคับควบคุมนั้น มีความว่องไว
เนื่องจากอยู่ในประเภทสปอร์ท เอสยูวี ส่วนเสถียรภาพในการเลี้ยวโค้งนั้น ไม่เพียงไร้เรี่ยวแรง
แต่คงทำได้ดีเท่าที่ความสามารถของระบบรองรับแบบอิสระสี่ล้อจะอำนวยให้เท่านั้น
อย่างไรก็ดี คงไม่อาจหวังกันสุดๆ กับความดึงดูดใจอย่างเทียบเท่าเครื่องยนต์ทรงพลัง 190 แรงม้า
บวกกับระบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ของรุ่นเอฟเอฟ ได้ ในที่สุด ก็บอกได้เพียงว่า
เป็นรุ่นที่เน้นประโยชน์ใช้สอยมากกว่าความสนุกในการขับขี่เหมือนกับเอสยูวี อื่นๆ
ตอนนี้ มาดูเรื่องประโยชน์ใช้สอยกันบ้าง มันให้ความสะดวกในการใช้งานจริงๆ อย่างที่กล่าวได้ว่า
ไม่มีที่ติสมกับที่ออกมาทีหลัง แม้ที่ว่างในห้องโดยสารจะไม่ใหญ่นัก
แต่พื้นห้องบรรทุกสัมภาระกับแผ่นหลังของที่นั่งแถวหลังที่ปิดด้วยแผงเรซินก็ให้พื้นที่ว่างที่ราบเรียบ นอกจากนี้
การใช้แผงหลังของที่นั่งข้างคนขับแบบเรียบเป็นพื้นโต๊ะ น่าจะมีบทบาทในการใช้งานต่างๆ ด้วย
การตกแต่งภายนอก/ในออกมาฉูดฉาดนั้น ก็เพื่อที่จะเจาะกลุ่มวัยรุ่นซึ่งกำลังรอคอย "เอสยูวี ที่ไม่เชย"
ส่วนประโยชน์ใช้สอยในห้องโดยสาร มีการพลิกแพลงเต็มที่ เพื่อให้สนุกกับกิจกรรมต่างๆ ได้
ทั้งนี้ ถ้าคิดถึงความนิยมที่มีต่อ นิสสัน เอกซ์-ทเรล และซูบารุ ฟอเรสเตอร์ แล้ว คงกล่าวได้ว่าคอนเซพท์นั้น ยิงเข้าเป้า
!
แต่น่าเสียดายที่รุ่น 4x4 ไม่มีการบรรจุสมรรถนะในการขับขี่อย่างตรงตามเป้าหมายดังกล่าว
ถ้ามีการเตรียมสมรรถนะในการขับเคลื่อนที่เท่าเทียมกับเกรด Z ในรุ่นเอฟเอฟ หรือสมรรถนะที่คู่ควรกับรุ่น 4x4 ให้
ก็คงจะมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น หรือคุณว่าอย่างไร ?
บรรยายภาพ
1. เครื่องยนต์รุ่น 4x4 ใช้รหัส 1ZZ-FE 125 แรงม้า คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ส่วนเครื่องยนต์รุ่น 2ZZ-GE 190
แรงม้า ใช้เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ กลายเป็นสิทธิพิเศษของรถเกรด Z เท่านั้น
2. ในรุ่น 4x4 ระบบรองรับอิสระ 4 ล้อ ที่ใช้ปีกนกคู่ ในด้านหลัง ส่วนขนาดยาง คือ 205/55R16
นับว่าใหญ่สำหรับเอนซีวี แพลทฟอร์ม จึงมีการยืดแขนล่างให้ยาวขึ้น
3. ไฟหน้าชนิดสี่ดวง โดดเด่นไม่ซ้ำใคร
4. แผงอุปกรณ์ภายใน มีออพทิทรอน มิเตอร์ ที่ให้ไฟสว่างเป็นสีส้ม ดูสปอร์ท น่าประทับใจ
5. แผ่นหลังของที่นั่งแถวหลังที่ติดแผงเรซิน สามารถพับลงได้ในหนึ่งสัมผัส
และเชื่อมต่อได้อย่างราบเรียบกับพื้นห้องบรรทุกสัมภาระเช่นกัน
ส่วนที่นั่งข้างคนขับก็มีโครงสร้างแบบแผ่นหลังราบเป็นพื้นโต๊ะซึ่งสามารถเอนนอนในแนวระนาบได้ด้วย
6. ภายในดูกว้างกว่าที่คิดไว้ เบาะนั่งสามารถปรับความสูงได้ จึงให้ความสะดวกในการขึ้น/ลง
7. ขนาดตัวถังแบบพิเศษ มีความสูงรวมเพียง 4,365 มม. แต่มีความกว้างรวมถึง 1,775 มม.
ส่วนหน้าตาที่ดุดันกับรูปทรงคล้ายเสือหมอบ จะกระตุ้นเสน่หาวัยรุ่นได้หรือไม่ ? ต้องพิสูจน์
ข้อมูลจำเพาะ
โตโยตา โวลท์ซ (4WD S)
มิติ และน้ำหนัก
กว้าง/ยาว/สูง (มม.) 1,775/4,365/1,615
ความกว้างฐานล้อ (หน้า/หลัง) (มม.) 1,515/1,500
ความยาวฐานล้อ (มม.) 2,600
ความสูงใต้ท้องรถ (มม.) 180
น้ำหนักรถเปล่า (กก.) 1,320
เครื่องยนต์
ชนิด เบนซิน 4 สูบเรียง DOHC
ระบายความร้อนด้วยน้ำ
ความจุ (ซีซี) 1,794
กำลังสูงสุด (พีเอส/รตน.) 125/6,000
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 16.4/4,200
ระบบถ่ายทอดกำลัง ควบคุมด้วยอีเลคทรอนิคส์ (ETC)
เกียร์อัตโนมัติ (จังหวะ) เดินหน้า 4
ถอยหลัง 1
ระบบรองรับ
หน้า สตรัท-คอยล์สปริง
หลัง ปีกนกคู่-คอยล์สปริง
ระบบห้ามล้อ
หน้า จาน พร้อมช่องระบายความร้อน
หลัง ดุม
ขนาดยาง (หน้า/หลัง) 205/55R16
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการ
นิตยสาร 4wheels ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2546
คอลัมน์ Online : คอลัมน์ประจำ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/11865