คอลัมน์ประจำ
โอกาสทองเพื่อตำแหน่งแชมพ์โลก !
หลังจากผ่านไป 8 สนาม ดูเหมือนการแข่งขันในรายการ WORLD RALLY CHAMPIONSHIP 2002
จะเริ่มดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะทีม เปอโฌต์ และ ฟอร์ด ที่ฟัดกันนัวเนียแบบไม่มีใครยอมใคร จนในที่สุด
หนุ่มใหญ่จากเกาะอังกฤษ คอลิน แมคเร สังกัดทีม ฟอร์ด ก็ทำคะแนนขึ้นมาจ่อคอหอย มาร์คุส โกรนโฮล์ม
แห่งทีมสิงห์เขย่งได้สำเร็จ แถมยังมี กาโลส เซนส์ เพื่อนร่วมทีมของ แมคเร คั่นอยู่ในอันดับ 3 ทำให้อีกสองนักแข่งของ
เปอโฌต์ คือ ริชาร์ด เบิร์นส และ กิลเลส ปานิซซี ต้องรั้งอันดับ 4 และ 5 ไป การแข่งขันอีก 6 สนามที่เหลืออยู่
จึงเป็นเหมือนโอกาสทอง ที่ทั้งสองทีมต้องพยายามแย่งคว้ามาไว้ในมือให้ได้ เพื่อสะสมไว้แลกกับตำแหน่ง
"แชมพ์โลก" ที่รออยู่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
สนาม 9
RALLY FINLAND
การแข่งขัน WRC สนาม 9 จัดขึ้นในในประเทศ ฟินแลนด์ โดยเอสเอส 1 เป็นการแข่งขันแบบตัวต่อตัว ระยะทาง 2.06
กม. รถแข่งจะต้องวิ่งไปบนลู่แข่ง ที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ ท่ามกลางกองเชียร์คับคั่ง โดยผู้ที่ทำเวลาดีที่สุดก็คือ
ริชาร์ด เบิร์นส (RICHARD BURNS) จากทีม เปอโฌต์
หลังจากจบเอสเอส 1 ในช่วงค่ำ นักแข่งทั้งหมดก็มาพร้อมกันอีกครั้งในตอนเช้า มุ่งหน้าเข้าสู่ป่า เพื่อฟาดฟันกันใน 9
สเตจแรก ระยะทางรวม 128.61 กม. บนถนนที่คดเคี้ยวและเนินสูงที่ทำให้รถแข่งบินได้เหมือนนก !
จบเลกแรก ผลปรากฏว่า สามนักแข่งจากทีม เปอโฌต์ คือ ริชาร์ด เบิร์นส, ฮาริ โรวันเปรา (HARRI ROVANPERA)
และ มาร์คุส โกรนโฮล์ม (MARCUS GRONHOLM) ทำคะแนนมาเป็นอันดับ 1, 2 และ 3 (ตามลำดับ) ตามมาด้วย
เพทเทร์ โซลเบร์ก (PETTER SOLBERG) จาก ซูบารุ ในอันดับ 4 ส่วน คอลิน แมคเร (COLIN McRAE) และ การ์โลส
เซนส์ (CARLOS SAINZ) จากทีม ฟอร์ด ได้อันดับ 5 และ 6
วันต่อมาในเลก 2 กลายเป็นการขับเคี่ยวระหว่างนักแข่งทั้งสามของทีม เปอโฌต์ ด้วยกันเอง โดย โกรนโฮล์ม
ขยับมาอยู่ที่อันดับ 2 หลังจากในเอสเอส 12 รถของ เบิร์นส จัมพ์เนินและลงมากระแทกพื้นอย่างแรง
จนต้องขับประคองให้จบการแข่ง ต่อจากนั้นในเอสเอส 13 โกรนโฮล์ม ก็ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 เมื่อล้อของเจ้า เปอโฌต์
206 WRC ของ โรวันเปรา กระแทกเข้ากับหิน จนแตกเสียหาย และเข้าเส้นชัยด้วยล้อ 3 วงที่เหลือ !
เลกสุดท้ายเริ่มขึ้นในช่วงบ่าย และจบลงด้วยชัยชนะของ โกรนโฮล์ม ซึ่งถือเป็นการคว้าแชมพ์ติดต่อกันในสนามนี้ถึง 3
ปีซ้อน ส่วน เบิร์นส เพื่อนร่วมทีม ขับอย่างระวัง ก่อนจบการแข่งขันเป็นอันดับ 2
แมคเร จากทีม ฟอร์ด เข้าใกล้ชัยชนะมาก หลังจากเขาจบการแข่งขันเมื่อวานนี้ในอันดับ 3
แต่โชคกลับไม่เข้าข้างเขาสักเท่าไหร่ในวันนี้ "ประมาณ 700 เมตร ก่อนถึงเส้นชัย เราเริ่มได้กลิ่นอะไรบางอย่าง
หลังจากนั้น ก็มีควันดำโขมงไปหมด" แมคเร เริ่มเล่าถึงโชคร้ายของเขา "เราเผ่นออกมาจากรถ แล้วมองกลับไปจึงรู้ว่า
ด้านท้ายรถทั้งหมดลุกเป็นไฟ !" ต่อจากนั้นไม่นาน หน่วยกู้ภัยก็ดับไฟพวกนั้นลงด้วยโฟม และแน่นอน...แมคเร
ต้องออกจากการแข่งขันไป...เหลือเพียง เซนซ์ และ มาร์ทิน ซึ่งจบการแข่งขันด้วยอันดับ 4 และ 5 ตามลำดับ
บรรยายภาพ
1. เบิร์นส เฉือนเอาชนะ โซลเบร์ก ได้ ในช่วงเอสเอส 1
2. โซลเบร์ก ขับได้ดีจนคว้าอันดับ 3 ไปครอง
3. ดูเหมือนทีม มิตซู ฯ จะหมดฤทธิ์เสียแล้ว !
4. โกรนโฮล์ม คว้าแชมพ์สนาม 9 ถึงสามปีซ้อน
5. ไฟไหม้รถของ แมคเร ในสเตจ 4 ของเลกสุดท้าย
6,7,8,9. ไฮไลท์ของสนามนี้ อยู่ที่การ "เหินฟ้า" ของบรรดานักแข่ง
10,11,12. ถึงจะไม่โหดเท่าสนามซาฟารี แต่ก็มีรถหลายคันที่เสียหายอย่างหนัก
สนาม 10
เยอรมนี แรลลี
จากทางฝุ่นใน ฟินแลนด์ ทีมแข่งทั้งหมดก็ย้ายมายัง เยอรมนี เพื่อขยี้คันเร่งแย่งชัยชนะกันต่อ ในรายการ เยอรมนี
แรลลี อีกหนึ่งสนามแข่ง ที่รถทั้งหมดต้องใช้ล้อ 17 นิ้ว กับยางซีรีส์ต่ำ
สำหรับวิ่งลัดเลาะไปบนถนนราดยางที่สกปรกไปด้วยเศษดิน ผ่านเส้นทางคดเคี้ยว
และสภาพอากาศที่อึมครึมด้วยเมฆฝนสีเทา
ไฮไลท์ของการแข่งขัน อยู่ที่การขับเคี่ยวกันระหว่างสองรถแข่งจากฝรั่งเศส คือ ริชาร์ด เบิร์นส จากทีม เปอโฌต์
และหนุ่มน้อยดาวรุ่ง เซบัสเตียง โลบ์ (SEBASTIEN LOEB) ทีม ซีตรอง โดยจบเลกแรก โลบ์ ทำเวลาเฉือนเอาชนะ
เบิร์นส ไปในที่สุด "ปัญหาเบรคเฟดทำให้ผมขาดความมั่นใจในการขับ" และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ เบิร์น
ต้องตามหลัง โลบ์ อยู่ 27 วินาที
เข้าสู่ในเลก 2 ในวันต่อมา ทั้งสองยังคงผลัดกันนำผลัดกันตามอย่างมันหยด โดยมีอีกหนึ่งนักแข่งจากทีม
เปอโฌต์ คือ มาร์คุส โกรนโฮล์ม เข้ามาร่วมวงศ์ไพบูลย์ด้วย แต่หลังจากจบวัน โลบ์ ก็ยังเป็นผู้กุมชัยชนะเอาไว้ได้
ตามมาด้วย เบิร์น และโกรนโฮล์ม ในอันดับ 2 และ 3
มาถึงเลก 3 ซึ่งเป็นเลกสุดท้ายของสนามนี้ โลบ์ ฉายแววแห่งผู้ชนะให้เห็น หลังจากเขาทำได้ดีในหลายๆ เอสเอส ส่วน
เบิร์น ที่พยายามอย่างเต็มที่ สุดท้ายก็ยังทำเวลาไล่ โลบ์ ไม่ทัน "ผมพยายามทำทุกอย่างเพื่อตาม โลบ์ ให้ทัน แต่ โลบ์
ขับได้ดีตลอดทั้งวัน ส่วนผมทำเวลาได้ไม่ดีในหลายเอสเอสเมื่อวานนี้" เมื่อจบการแข่งขัน เขาจึงต้องก้มหน้ารับอันดับ
2 ไป
บรรยายภาพ
13. อาร์มิน ชวาร์ทซ์ ทีม ฮันเด คว่ำในเอสเอส 10
14. โซลเบร์ก ไม่มีคะแนนเก็บในสนาม 10
15. โลบ์ สยบ เบิร์นส นักแข่งทีม เปอโฌต์ ได้สำเร็จ
16. จากความผิดพลาด ทำให้ เบิร์นส ชวดแชมพ์ไป
17. ทีม สโกดา ยังไม่มีผลงานเด่นๆ ให้เห็น
18. เดอเลอกูร์ รถมีปัญหาเกือบทุกเลก
ผลการแข่งขัน WORLD RALLY CHAMPIONSHIP 2002 สนาม 9-10
อันดับ ผู้ขับ คะแนนสะสม (สนาม 1-8) คะแนน (สนาม 9) คะแนน (สนาม 10) คะแนนรวม
ชนะเลิศ มาร์คุส โกรนโฮล์ม 37 10 4 51
รองอันดับ 1 คอลิน แมคเร 30 0 3 33
รองอันดับ 2 ริชาร์ด เบิร์นส 19 6 6 31
รองอันดับ 3 การ์โลส เซนซ์ 23 3 0 26
รองอันดับ 4 กิลเลส ปานิซซี 21 0 0 21
เรื่องโดย : สุรเชษฐ์ เทียนทอง
นิตยสาร 4wheels ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2545
คอลัมน์ Online : คอลัมน์ประจำ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/11609