การเดินทางบนกาลเวลาประวัติศาสตร์ของชนชาติหนึ่งๆ หากหมายถึง การมีดินแดน มีอธิปไตย คงเป็น
เรื่องน่าเศร้าสำหรับชนชาตินั้นๆ ดินแดนแห่งนี้ ที่ผืนทรายเป็นผู้ครอบครอง มันได้ชื่อว่า
(1) "ทากิมากัน" อันหมายถึง "บ้านในอดีต" ของ ชนวีเก๋อ บ้านหลังนี้ที่ครั้งหนึ่งได้ท้าทายนักแสวงโชค
และคาราวานอูฐ นำสินค้าโดยเฉพาะไหมจากตะวันออกผ่านดินแดนแห่งความแห้งแล้งนี้สู่ เปอร์เซีย
ยุโรป จนเป็นตำนานของเส้นทางสายไหมอันเลื่องชื่อ ที่เป็นการพลิกหน้าประวัติศาสตร์โลกครั้งหนึ่ง
ริ้วทราย เนินทรายอันละลานตา เสมือนไหมแดงอันสูงค่า บัดนี้เย้ายวนให้นักแสวงโชคจากแดนไกลรุ่น
ใหม่ มาขุดเจาะน้ำมัน สินค้าชนิดใหม่ที่มาแทนที่ไหม ซึ่งว่ากันว่า เป็นแหล่งน้ำมันสำรองที่มากที่สุดแห่ง
หนึ่งในโลก ที่เจ้าผืนทรายโบราณอย่าง ชนวีเก๋อ ไม่มีสิทธิ์
ซากอดีตอันรุ่งเรืองของเมืองโบราณ (2) "กัวะฉาง" ในเมือง ถูลู่ฟัน บนเส้นทางสายไหมสายเหนือ
มีอายุระหว่างคริสตศตวรรษ 1-14 ฐานเจดีย์เป็นหลักฐานบ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของพุทธศาสนาในอดีต
ที่ปัจจุบันถูกแทนที่ด้วยอิสลาม เช่นเดียวกับ ถ้ำพันพระ ที่ โบไซคริก ในหุบเขา เฟลมมิง แม้ว่ายังคง
ปรากฏจิตรกรรมฝาผนังอยู่อีก 44 ถ้ำ จากทั้งหมด 70 ถ้ำ แต่ทั้งหมดก็อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ แต่แผ่นดิน
เอเชียกลางใน ซินเจียง ยังมีจิตรกรรมฝาผนังที่พ้นจากนักล่าสมบัติ และถูกปกป้องโดยความแห้งแล้ง
ของทะเลทราย ทำให้มรดกทางวัฒนธรรมในถ้ำที่ คิซิ่ว และ คุมตุลา ยังคงอยู่ในสภาพที่ดีเยี่ยม
ภาพปัจจุบันของ อุลุมมุฉี (3) เมืองหลวงของ ซินเจียง เขตปกครองตนเองชนชาติวีเก๋อ ไม่ต่างกับ
นครใหญ่ทั่วโลก น้ำมันและอุตสาหกรรม นำมาสู่ ถนนชอพพิงอาเขต โรงแรมย่านฮอลิเดย์อินน์ ดิสโกเธค
ทุกๆ วัน ชาวฮั่น ราว 800 คน จะเดินทางโดยทางรถไฟกว่า 2,000 กิโลเมตร มาจากชายฝั่งตะวัน
ออก กองทัพมดฮั่น หลั่งไหลมาไม่ขาดสาย เป้าหมายก็คือชีวิตใหม่ และงานใหม่ๆ นับแต่การก่อสร้างครั้ง
ยิ่งใหญ่บนเส้นทางรถไฟสู่ ซินเจียง ชาววีเก๋อ กลายเป็นพลเมืองชั้นสอง ชาวฮั่น มีสิทธิ์ได้งานก่อน
มีสิทธิ์ในการศึกษา หรือแม้แต่ร้านถ่ายรูปแต่งงาน ที่เป็นที่นิยมของคนจีน (4) ชายชาววีเก๋อคนหนึ่ง
คงได้แต่เพียงถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหน้าร้าน
ทางใต้ที่ คาสกา อันเปรียบเสมือนเมืองหลวงที่แท้จริงของคนวีเก๋อ กว่า 8 ล้านคนใน ซินเจียง (5)
ทุกวันอาทิตย์ ครอบครัวจากเมืองใกล้ๆ จะมุ่งหน้าสู่ตลาดนัด (6) "ทุกสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ
หาได้ที่นี่" เป็นคำกล่าวของ มาร์โกโปโล นักเดินทางชาวอิตาเลียน ผู้ผ่านมาในคริสต์ศตวรรษที่
13 สินค้ามีตั้งแต่ สัตว์เลี้ยง ผ้าไหม พรม ไปจนถึงบริการตัดผม และโกนหนวดกลางแจ้ง อันเป็น
เอกลักษณ์ (7)เหนือสิ่งอื่นใดใน คาสกา มัสยิดอิสกะ เป็นสิ่งเคารพสูงสุดสำหรับชาวมุสลิมวีเก๋อ (8)
ตะวันออกของ คาสกา เรื่องราวของเส้นทางสายไหมสายใต้ นำกองคาราวานสู่เมือง เฮ่อเทียน
เมืองที่มีชื่อเสียงจาก ไหมเอดิส และพรมเปอร์เซีย (9) โดยเฉพาะ หยกขาว ที่นี่เป็นแหล่งหยกที่มี
คุณภาพดีที่สุดในเมืองจีน ศิลปะหยกอันลือชื่อในสมัยราชวงศ์ถัง และหมิง ล้วนมีวัตถุดิบมาจากแม่น้ำ
เฮ่อเทียน หรือแม่น้ำหยกขาว อันมีต้นกำเนิดจากเทือกเขา คุนลุ้น ทางใต้
หากชาวจีนมีไหมที่มีค่าดั่งทอง อย่างน้อยชาววีเก๋อก็มีไหมเอดิสเป็นตัวแทน (10) จี้หย๋าเซียง หมู่บ้าน
เล็กๆ ทางตะวันออกของ เฮ่อเทียน ยังคงเอกลักษณ์อันเก่าแก่ และวิธีโบราณในการผลิตลายผ้าที่คงมา
กว่าพันปี แม้ว่าปัจจุบันจะเป็นเพียงอุตสาหกรรมในครัวเรือน ต่างกับพรมเปอร์เซีย อันเป็นสินค้าออก
ที่สำคัญ แต่ลายเอดิสถูกสวมใส่ให้เห็นทั่วไปใน ซินเจียง และ อูซเบกิสถาน
ริ้วรอยบนผืนทรายซึ่งประทับด้วยรองเท้าของนักแสวงโชค กับดวงตาที่ย้อนมองไปถึงอดีตอันรุ่งเรืองของ
บรรพบุรุษ (11) ชายหญิงวีเก๋อ จะยังคงสะท้อนการเป็นตัวแทนทางวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของผู้อาศัยทะเล
ทรายกลุ่มนี้ ในบ้านที่พวกเขาเคยเป็นเจ้าของในอดีต
ข้างหลังภาพ
ภาพที่ 12
ทุกครั้งที่คนเห็นภาพทะเลทรายสีแดงนี้ ผมมักถูกถามว่าใช้ฟิลเตอร์หรือเปล่า ทั้งภาพในหน้าเปิด และภาพ
นี้ เป็นการเดินทางผ่านทะเลทราย ทากิมากัน เมื่อหลายปีก่อน คืนนั้น ผมและคนขับรถ ต้องค้างคืนกลาง
ทะเลทราย เมื่อผมเห็นแสงไฟที่เกิดจากแท่นขุดเจาะน้ำมัน จึงตัดสินใจไปดู แต่ต้องไปคนเดียว เนื่อง
ด้วยคนขับรถไข้ขึ้น
ในทีแรกก็เดินตามทางทรายที่ทำขึ้นอย่างง่ายๆ แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ไล่ออกมา จึงต้องเดินข้ามทะเลทราย
ตามแสงไฟ ลูกแล้วลูกเล่าของภูเขาทราย ด้วยระยะทางกว่าห้ากิโล ด้วยค่ำคืนที่มีแสงจันทร์ลางๆ บาง
ครั้งแทบต้องกลิ้งลงจากเนินทราย กว่าจะถึงฐานขุดก็ล่วงเข้าไปเที่ยงคืน ซ้ำยังต้องหลบไม่ให้เจ้าหน้าที่
เห็น ผมตั้งขาตั้งกล้อง วัดแสงตามที่ได้ และเปลี่ยนเลนส์ทุกขนาดที่อยู่ในกระเป๋า ทั้งมุมกว้าง และเทเล
โดยใช้เส้นสาย และริ้วรอยของทรายเพื่อเน้นสื่อถึงอดีตอันรุ่งเรืองของเส้นทางสายไหม ผมหมดฟีล์มไป
เกือบห้าม้วนโดยไม่ใช้ฟิลเตอร์ กับเวลาทั้งคืนที่อุณหภูมิต่ำเกือบจุดเยือกแข็ง ด้วยเสื้อแขนยาวบางๆ
ผมฮัมเพลง SILK ROAD ของ คิทาโร เพื่อปลอบใจตัวเองจนเช้า
เมื่อผมออกมาบนถนนเพื่อกลับเดินที่พัก ก็พบว่าแทบจำตัวเองไม่ได้ อณูของฝุ่นทราย แทรกตัวไปยังทุกส่วน
ของเสื้อผ้าและร่างกาย คนงานหลายคน มองผมเป็นตัวประหลาด แต่ไม่มีใครสนใจ ผมก็รู้สึกถึงความ
พิเศษของภาพที่ได้มาOPT 1.50
เรื่องโดย : สุเทพ กฤษณาวารินทร์
นิตยสาร 4wheels ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2545
คอลัมน์ Online : ท่องเที่ยว
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/11314