"กรรมดี" ที่เราตั้งใจทำ

จากครั้งที่แล้วที่เราได้ไปประกอบ "กรรมดี" กันที่ เขาบันได ห้วยขาแข้ง จ. อุทัยธานี ทำให้มีโครง การ "เทิดพระเกียรติเฉลิมพระชนมพรรษาคืนชีวิตสัตว์ป่าสู่ธรรมชาติ" เกิดขึ้น โดยเนื้อหาคือการปล่อย สัตว์ป่ากลับคืนสู่ธรรมชาติ โครงการนี้ เป็นการสนองโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ "สวนสัตว์ ธรรมชาติภูเขียว" ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ได้มีพระราชดำริในปี พศ. 2526 ครั้งที่เสด็จพระราชดำเนินโดย เฮลิคอพเตอร์ ผ่านเขตรักษาพันธุ์สัตว์ ป่าภูเขียว ว่า "พื้นที่บริเวณภูเขียวเป็นที่ราบสูงกว้างขวางพื้นที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การเป็นที่อยู่อาศัย ของสัตว์ป่า ดังนั้นจึงควรจัดให้เป็นสวนสัตว์ป่าเปิด" ซึ่งกรมป่าไม้ได้ดำเนินโครงการสนองพระราชดำริ ด้วยการปล่อยสัตว์ป่า เช่น กวางป่า เนื้อทราย ละอง และละมั่ง เมื่อปี พศ. 2526, 2530, 2535 และ 2539 ซึ่งสัตว์ป่าดังกล่าวสามารถดำรงชีวิต และเพิ่มประชากรตามธรรมชาติได้เป็นอย่างดี ชาวคาราวาน 4 WHEELS CAMP ได้นัดหมายที่จะไปประกอบ "กรรมดี" ครั้งที่ 2 เรารวมตัวกันที่สถานี บริการน้ำมัน ปตท. ใกล้สำนักงานใหญ่ ถ. วิภาวดี ฯ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา หลังจากถ่าย ภาพหมู่เป็นที่ระลึกแล้ว ก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไป จ. สระบุรี ไปตามทางหลวงหมายเลข 2 ปากช่อง สีคิ้ว แล้วพักเที่ยง ทานไก่ย่างท่าช้าง ที่ด่านขุดทด ร้านนี้เขาโฆษณาไว้ว่า เป็นไก่ย่างอร่อยที่สุดในโลก หลังจากอิ่มหนำสำราญกันถ้วนหน้า ก็เดินทางต่อไปตามทางหลวงหมายเลข 201 สู่ชัยภูมิ เพื่อเข้าไปที่สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ทางเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี พร้อมทั้งชม สไลด์ แนะนำสถานที่ ต่อจากนั้นก็เข้าสู่ที่พัก บริเวณทุ่งกะมัง แล้วแยกย้ายกันจัดเก็บสัมภาระเดินทางเข้า ที่พัก บางคนอยากสัมผัสธรรมชาติ ก็กางเทนท์ ตกเย็นก็มีแขกเข้ามาทักทายถึงที่พัก เรียกความสนใจได้ ไม่น้อย เป็นกวางป่าที่หากินบริเวณนั้น เดินเข้ามาให้เราได้ยลโฉมถึงที่ มีการต้อนรับอย่างดีจากเจ้าหน้า ที่อุทยาน ฯ โดยมีหัวหน้าเขต ฯ กล่าวต้อนรับ ซึ่งมีพิธีบายศรีสู่ขวัญกัน เป็นประเพณีที่ทำให้คณะเรา ประทับใจเป็นอย่างมาก แล้วเริ่มทานอาหารค่ำกันอย่างเอร็ดอร่อย หลังจากอิ่มดีแล้วมีการฉายสไลด์ พร้อมบรรยายจากเจ้าหน้าที่ จากนั้นก็พักผ่อนกันเพื่อรอเวลาในวันรุ่งขึ้น ที่จะประกอบ "กรรมดี" ร่วมกัน ยามเช้าของวันใหม่ บรรยากาศเย็นสบาย ท่ามกลางแมกไม้นานาชนิด พร้อมบรรดาสัตว์ป่าน้อยใหญ่ที่ออก มาหากิน ส่งเสียงร้องอย่างไพเราะ มื้อเช้าของวันนี้ มีเจ้าหน้าที่ ฯ จัดเตรียมอาหารให้ หลังจากอิ่ม หนำกันแล้ว ก็ถึงพิธีใหญ่ที่เรารอคอย เราเคลื่อนขบวนจากที่พัก ห่างออกไปราว 5 กม. ก็ถึงบริเวณที่จะ ทำการปล่อยสัตว์ป่า เป็นพื้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำ ทุ่งกะมัง เริ่มจากปล่อยเป็ดก่า จำนวน 50 ตัว ซึ่งได้ปล่อยกันครบทุกท่าน เป็ดที่ทำการปล่อยในครั้งนี้ได้ทำการ ปรับสภาพก่อนปล่อย เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า สามารถดำรงชีวิตในป่าได้อย่างแน่นอน รวมถึงการตรวจสุขภาพ ว่าไม่เป็นพาหะโรคติดต่อต่างๆ พร้อมทั้งติดห่วงเครื่องหมายที่ขาเป็ดทุกตัว เพื่อติดตามและวิจัยผล หลังจากปล่อยเป็ดก่าแล้ว ก็มาปล่อยไก่ฟ้าหลังขาว ที่อยู่ไม่ไกลนัก ได้ภาพสวย ๆ มาลงให้ชมกันว่า ไก่ฟ้าหลังขาว ในสภาพธรรมชาติมีความงดงามเพียงใด พวกเราได้ถ่ายรูปกันบริเวณอ่างเก็บน้ำ ทุ่ง กะมัง และที่ขาดไม่ได้คือ บรรดาผู้ให้การสนับสนุนในการประกอบกิจ "กรรมดี" ครั้งนี้ได้แก่ ปตท. เบียร์สิงห์ เดมเลอร์ไครสเลอร์ แครีบอย วีวีพี. 4x4 เซนเตอร์ และบีพีวาย ขอบคุณพิเศษ บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย บริษัท เดมเลอร์ไครสเลอร์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ทีเคดี ไฟเบอร์ จำกัด บริษัท วี.วี.พี. โฮลเซลเลอร์ จำกัด บริษัท ทวีคูณ ซัพพลาย จำกัด บรรยายภาพ 1. ถ่ายภาพหมู่ หน้าทางเข้า ทุ่งกะมัง 2. นี่ละ "เป็ดก่า" 3. ขบวนคาราวานมุ่งหน้าสู่ ทุ่งกะมัง 4. คุณเอ กำลังมองหาสมาชิก 5. ชวาล ทัฬหิกรณ์ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์ธรรมชาติ กรมป่าไม้ 6. รับมอบเชคเงินสดและของที่ระลึกจากตัวแทน บริษัท สื่อสากล จำกัด 7. ถ่ายภาพหมู่หน้าสถานีบริการน้ำมัน ปตท. 8. มุ่งหน้าสู่ด่านขุนทด 9. จอดรถหน้าสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว 10. ขนย้ายสัมภาระเข้าที่พัก 11. ทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ 12. ผู้มาเยือนที่พัก 13. ฟังคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่สถานีวิจัยการเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า 14. ร่วมกันปล่อยไก่ฟ้าหลังขาว 15. ไก่ฟ้าหลังขาว 16. จุดชมวิวบนภูเขียว 17. บนอ่างเก็บน้ำทุ่งกะมัง 18. เป็ดก่า 19. จัดแถวปล่อยเป็ดก่า 20. ไปซะ เจ้าเป็ดน้อย 21. ผูกข้อมือรับขวัญ 22. เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว นำขบวน 23. ขบวนคาราวาน ขึ้นภูเขียวOPT 1.50