รถใหม่
-
ลัมโบร์กินี มูร์ชิเอลาโก
สุดยอดรถสปอร์ทพันธุ์กระทิงดุ
ปีนี้หน้าร้อนมาเร็ว และมีทีท่าว่าจะร้อนหนัก ขณะใช้ปลายนิ้วกดลงบนแป้นคีย์บอร์ด
เพื่อเรียงร้อยเนื้อหาของ "ระเบียงรถใหม่" อยู่นี้ เป็นช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ต่อ
กับต้นเดือนมีนาคม ซึ่งปกติอากาศไม่น่าจะร้อนสักเท่าไหร่ แต่ปีนี้ บอกได้เลยว่าทั้ง
ร้อนทั้งอบอ้าว ไม่อยากจะนึกว่า พอถึงเดือนเมษายนที่ "ฟอร์มูลา" ฉบับนี้วางตลาด
อุณหภูมิความร้อนจะพุ่งสูงขนาดไหน
ร้อนอากาศก็ยังพอทน ที่หนักหนาสาหัสกว่าร้อนอากาศ ก็คือร้อนใจ ไม่ทราบว่าป่าน
นี้เรื่องร้อนใจเกี่ยวกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศสี่คน ของนิตยสาร ฟาร์ อีสเทิร์น อีคอ
นอมิค รีวิว จัดการกันไปถึงไหนแล้ว เรื่องร้อนๆ ที่พูดออกมาตรงๆ ก็ไม่ได้อย่างนี้
ทำเอาหลายผู้หลายคนที่เกี่ยวข้อง ทั้งทางตรงและทางอ้อม เกิดอาการ "สติแตก"
ไปตามๆ กัน
ร้อนอย่างนี้ สำหรับคนรักรถ คงไม่มีอะไรช่วยคลายร้อน ได้ดีกว่าได้สัมผัสเรื่องราว
ของรถแบบใหม่ๆ ที่นำมาเสนอ ใน"ระเบียงรถใหม่" เดือนนี้ ก่อนที่จะหายหน้าหาย
ตาไปสองเดือน เพราะต้องสละเนื้อที่หน้ากระดาษ ให้แก่การรายงานข่าวงานแสดง
รถยนต์รายการสำคัญ คือ มหกรรมยานยนต์เจนีวา ซึ่งปีนี้กำหนดจัดในช่วงเวลา 11
วัน ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 7 จนถึงวันอาทิตย์ 17 มีนาคม 2002 และ "ฟอร์มูลา" ก็
ส่งทีมงานชุดใหญ่ไปทำข่าวด้วยเช่นเคย
รถใหม่คันแรกที่นำมาเสนอในเดือนนี้ เป็นผลงานชิ้นใหม่ล่าสุด ของผู้ผลิตรถยนต์ที่อยู่
ในเครือข่ายของค่าย โฟล์คสวาเกน กรุพ (VOLKSWAGEN GROUP) คือ ลัมโบร์กินี
(LAMBORGHINI) ยอดผู้ผลิตรถสปอร์ท เจ้าของเครื่องหมายการค้า "กระทิงดุ"
เป็นรถสปอร์ทระดับซูเพอร์คาร์ ค่าตัว 10 ล้านบาทไทย ที่ค่ายกระทิงดุออกแบบ
และพัฒนา เพื่อให้เป็นตัวตายตัวแทนของรถสปอร์ทรุ่นเดิม คือ ลัมโบร์กินี ดิอาบโล
(LAMBORGHINI DIABLO) ที่อยู่ในตลาดมายาวนานกว่าหนึ่งทศวรรษ
ในอดีตที่ผ่านมา ชื่อของรถลัมโบร์กินีทุกรุ่น ได้มาจากชื่อวัวกระทิงของสเปน รถรุ่นนี้
ก็เช่นกัน ชื่อ มูร์ชิเอลาโก (MURCIELAGO) เป็นภาษาสเปน แปลว่า ค้างคาว และ
เป็นชื่อของวัวกระทิงที่สร้างวีรกรรมไว้เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 1879 โดยสามารถต่อสู้
กับ ราฟาเอล โมลินา (RAFAEL MOLINA) ยอดมาธาดอร์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง อย่าง
วีระอาจหาญ จนมาธาดอร์ยอมเว้นชีวิตให้ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ
ในสังเวียนกีฬาสู้วัวของเมืองสเปน
ตัวถัง สองประตูคูเป สองที่นั่ง ยาว 4.580 ม. กว้าง 2.045 ม. สูง 1.135 ม.
และมีช่วงฐานล้อยาว 2.665 ม. ของ ลัมโบร์กินี มูร์ชิเอลาโก เป็นผลงานรังสรรค์
ของ ลุค ดองก์เคอร์โวลก์เค (LUC DONCKERWOLCKE) นักออกแบบชาวเบลเยียม
หนึ่งในบรรดานักออกแบบชั้นนำหลายคน ที่อยู่ในสังกัดของค่าย เอาดี (AUDI)
โครงสร้างตัวถัง มีลักษณะที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า TUBULAR STEEL SPACE
FRAME คือทำจากท่อเหล็กกล้าหน้าตัดรูปกลมกลวง แล้วเชื่อมต่อเข้าด้วยกันเป็นโครง
สามมิติ ส่วนเปลือกตัวถังเกือบทุกชิ้นทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ นอกจากชิ้นหลังคาและ
บานประตูทั้งสองข้างที่ทำจากแผ่นเหล็กกล้า
รูปทรงองค์เอวและรายละเอียดต่างๆของตัวถัง ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของรถสปอร์ท
ติดตรากระทิงดุไว้อย่างครบครัน รวมทั้ง GULL-WING DOORS หรือ ประตูแบบปีกนก
นางนวล ที่คนรักรถสปอร์ทคุ้นเคยกันดี
เป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อแบบถาวร ด้วยพลังจากเครื่องยนต์ DOHC วี 12 สูบ 60 องศา
48 วาล์ว 6,192 ซีซี ที่ออกแบบและพัฒนาขึ้นใหม่ เป็นเครื่องยนต์ระบายความร้อน
ด้วยหม้อน้ำสองชุด มีระบบอีเลคทรอนิคปรับจังหวะเปิดปิดของวาล์ว และป้อนเชื้อเพลิง
ด้วยหัวฉีดอีเลคทรอนิคมัลทิพอยท์แบบฉีดเรียงตามลำดับสูบ (MULTIPOINT SEQUEN
TIAL FUEL INJECTION) ให้กำลังสูงสุด 580 แรงม้า ที่ 7,500 รตน.และแรงบิด
สูงสุด 66.3 กก.ม.ที่ 5,400 รตน.
กำลังจากเครื่องยนต์อันทรงพลัง ส่งทอดสู่ล้อคู่หน้าและคู่หลัง ผ่านระบบขับสี่ล้อแบบ
ใช้คลัทช์ความหนืด (VISCOUS COUPLING) และระบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ซึ่ง
มีอัตราทด 2.941-2.056-1.520-1.179-1.030-0.914 ถอยหลัง 2.529
ระบบรองรับ (กันสะเทือน) ทั้งหน้าและหลัง แบบอิสระ ปีกนกสองชั้น/สปริงขด/
เหล็กกันโคลง พร้อมระบบอีเลคทรอนิค ซึ่งทำให้สามารถปรับความแข็งของโชคอัพ
ทั้งด้วยมือและโดยอัตโนมัติ ระบบพวงมาลัยแบบฟันเฟืองตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์
ผ่อนแรง ห้ามล้อแบบจานรูทั้งหน้าและหลัง
สมรรถนะความเร็วตามคำอ้างของ ลัมโบร์กินี ไม่ระบุตัวเลขแน่นอน บอกแต่เพียงว่า
ทำความเร็วสูงสุดได้สูงกว่า 330 กม./ชม.แน่นอน สูงกว่าเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับตัวเลข
ทางอากาศพลศาสตร์
อย่างไรก็ตาม นิตยสารรถยนต์ชื่อดังของเมืองผู้ดีคือ ออโทคาร์ (AUTOCAR) ทดสอบ
รถสปอร์ทกระทิงดุรุ่นนี้แล้ว ปรากฏว่า เห็นตัวเลขแล้วก็หนาวไปตามๆกัน เพราะอัตรา
เร่ง 0-100 กม./ชม.ใช้เวลาแค่ 3.6 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดคือ 330 กม./ชม.
ตามที่ผู้ผลิตระบุ
เรื่องโดย : ชูศักดิ์ ชมจินดา
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน เมษายน ปี 2545
คอลัมน์ Online : รถใหม่
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/109