ทั่วไป
-
ศิลปิน : GWYNETH HERBERT
อัลบัม : BITTERSWEET AND BLUE
แนวเพลง : JAZZ
โปรย : "ดนตรี JAZZ มีพลังในแบบเฉพาะ"
GWYNETH HERBERT ศิลปินที่เติบโตมาพร้อมกับดนตรี JAZZ แม่ของเธอร้องเพลง
ตั้งแต่เธออยู่ในครรภ์ ชื่นชมศิลปินผู้ยิ่งใหญ่อย่าง STEVIE WONDER, CAROLE KING
ที่ถือเป็นนักร้อง และนักแต่งเพลงผู้เป็นแบบอย่าง อีกทั้งพ่อของเธอได้ร้องเพลงของ
LAY CHARLES, PAUL ROBESON กล่อมเธอนอนทุกวัน
ด้วยวัยเพียง 3 ขวบ เธอก็จับเพียโน และเริ่มหัดแต่งเพลงในแบบเด็กๆ ฝันอยากเป็นนักร้อง
ในตอนนั้น อีกทั้งได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว ครั้งแรกที่ร้องเพลงบนเวที เธอดูมีพลัง
ท่ามกลางเพื่อนๆ ที่ออกมาเต้นรอบๆ ทำให้ค้นพบตัวเองอย่างแท้จริง จากนั้นได้ร่วมเล่นดนตรี
ที่โรงเรียนกับวง SURREY COUNTY YOUTH ORCHESTRA โดยยังคงเขียนเพลง
อย่างต่อเนื่อง เมื่ออายุ 14 ปี ได้รับการสนับสนุนจากสมาคมทางดนตรี ทำเดโมจากผลงาน
ของเธอขึ้นมา 5 แทรค นับเป็นประสบการณ์แรกที่เกิดขึ้น ด้วยความร่วมมือของ TRINITY
STUDIO หลายๆ คนให้การยอมรับว่าเธอมีพรสวรรค์ในด้านการร้อง และแต่งเพลง
เมื่อเรียนจบ เป้าหมายชีวิตยังคงเป็นนักร้องเฉกเช่นตอนเธอเป็นเด็ก และก็รู้ว่าการร้องเพลง
JAZZ เป็นเรื่องที่ต้องฝึกฝนอย่างมาก จึงเริ่มเรียนรู้อย่างจริงจัง ทั้งการร้อง และเขียนเพลง
อีกทั้งได้มีโอกาสร่วมวงในแบบ TRIO ตามคลับต่างๆ เพื่อนของเธอที่เคยเล่นไวโอลินสมัยเรียน
ได้นำโพรเจคท์ของดนตรีมหาวิทยาลัยมาเสนอ โดยต้องการนักร้องที่มีโทนเสียงสูงระดับ
3 ออคเทฟ และเธอก็ตอบตกลงโดยทันที ทำให้ความรู้ทางดนตรีของเธอเปิดกว้างขึ้น เริ่มจาก
กีตาร์ JAZZ ไปจนถึงดนตรี INDY ได้ร่วมในวงดนตรีหญิง HIP HOP แลกเปลี่ยนประสบการณ์
กับ DJ โพรดิวเซอร์ในด้านกลอง และเบสส์ จนได้พบกับ JONI MITCHELL นักดนตรีฮอร์น
มือโพรแห่งฝรั่งเศส ที่เคยฝึกฝนดนตรีคลาสสิคให้กับนักร้องหญิงหลายคน
เมื่อเธออายุ 22 ปี ก็ได้หันมาร้องเพลง JAZZ เต็มตัว และทำดนตรีในแบบดูโอกับเพื่อน
ถึงขนาดทำเดโมเสนอค่ายเพลงหลายแห่ง จนกระทั่งต้นปี 2003 เดโมของเธอได้รับความสนใจ
ฝันของเธอจึงเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง การบันทึกเสียงมีขึ้นตอนปลายปี ซิงเกิลแทรคได้รับความ
สนใจจากสถานีวิทยุหลายแห่ง ตลอดช่วงซัมเมอร์ก็ได้บันทึกเสียงอัลบัม BITTERSWEET
AND BLUE ผลงานชุดนี้ได้รับความสนใจหลายเพลง เริ่มจาก FALLEN ตามด้วย
BITTERSWEET AND BLUE ชื่อเดียวกับอัลบัม และ FEVER ในแทรคแรก
เธอได้รับคำชมจากศิลปินหลายคนในวงการ ด้วยน้ำเสียงที่เป็นธรรมชาติมีพลัง
เธอยังคงค้นหาแนวทางดนตรีต่อไป อีกทั้งยังไปร่วมแสดงหลายแห่ง อย่างงานลอนดอน แจซซ์
เฟสติวัลที่ผ่านมาด้วย
-----------------------------------------
ศิลปิน : REBEKKA BAKKEN
อัลบัม : IS THAT YOU ?
แนวเพลง : POP
โปรย : "ดนตรี JAZZ ที่แฝงด้วยผลงานศิลปะ"
REBEKKA BAKKEN เป็นศิลปิน JAZZ ที่ได้รับการต้อนรับอย่างดีในแถบยุโรป
ด้วยเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ในลักษณะหวานใส กลมกลืนไปกับชิ้นดนตรี ทำให้ฟังสบาย
ง่ายในการเข้าถึงผลงานของเธอ ตัวเธอเองไม่เคยบอกว่าเธอคือนักร้องเพลง JAZZ
แต่เธอมีความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ต่อดนตรี JAZZ มากกว่า
ผลงานทางดนตรีของเธอ เหมือนงานศิลปะที่มีรูปแบบเฉพาะของตัวเอง อย่างอัลบัม
IS THAT YOU ? สังเกตได้จากธีมงานที่เป็นตัวอักษร ชื่อของเธอ ชื่อเพลง รูปภาพสิ่งของ
และพื้นหลัง ที่เป็นไปในแนวทางเดียวกันกับงานดนตรีของเธอ อย่างบางประโยคในบทเพลง
ที่กล่าวถึง การค้นหาจิตวิญญาณ การผจญภัยที่ค้นพบความเข้มแข็ง และความกระจ่างชัด
ค้นหาความสว่าง และรูปลักษณ์ ผลึกที่ใสสะอาด หรือภูเขาที่เคลื่อนไหว ซึ่งศิลปินชั้นนำอย่าง
BOB DYLAN ยังชื่นชมศิลปะของเธอ ตัวเธอเองก็ชื่นชมผลงานของเขา โดยฟังเทป
คาสเสทท์จากวอล์คแมน 90 นาทีเต็มแบบต่อเนื่องตลอด 1 สัปดาห์ มันไม่ใช่การร้องเพลง
แต่เป็นการถ่ายทอดความรู้สึกที่น่าทึ่ง
เธอเติบโตมาท่ามกลางดนตรี R&B, SOUL, วงดนตรี ROCK ตั้งแต่วัยรุ่น ซึ่งต้องใช้ความ
พยายามอย่างมาก เพื่อค้นหาแนวทางของตัวเอง ความสำเร็จกับอัลบัมแรกเกิดขึ้นในปี 1995
ในแนว JAZZ เต็มรูปแบบ ซึ่งไม่เคยวางจำหน่ายทั่วไป หลังจากย้ายมาอยู่นิวยอร์คไม่นาน
ก็เปิดประตูสายดนตรีเต็มตัวกับอัลบัม DAILY MIRROR ซึ่งมีผู้ฟังเฉพาะกลุ่ม
สำหรับอัลบัมชุดนี้ IS THAT YOU ? เธอเลือก 11 บทเพลง จากประสบการณ์ที่ผ่านมา
กว่า 2 ปี ทั้งจากตัวเธอเอง ผู้คนรอบข้าง ห้วงทำนองที่ผ่านโสตประสาท และจิตสำนึกจะ
เก็บเกี่ยวไว้ได้ รวมเข้าด้วยกันในแต่ละบท แต่ละความรู้สึกเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ซึ่งเชื่อว่า
ผู้ที่ชื่นชอบดนตรี JAZZ จะสามารถซึมซับศิลปะทางดนตรีของเธอได้ไม่ยาก
----------------------------------------------
ศิลปิน : BARRY MANILOW
อัลบัม : THE ESSENTIAL
แนวเพลง : POP
โปรย :"รวมผลงาน น้ำเสียงสมบูรณ์แบบ"
BARRY MANILOW ศิลปินในยุค 1970 ที่มีผลงานฟังสบายสไตล์ POP ในบางเพลง
ของเขา ได้เพิ่มจังหวะสนุกให้ร่วมกับยุคสมัยด้วยแนวดนตรี SOFT ROCK แต่ยังคงน้ำเสียง
ที่ฟังง่าย มีดนตรี และเนื้อหาบ่งบอกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเป็นอย่างดี ทำให้มี
อัลบัมมากกว่า 20 อัลบัม
เขาประสบความสำเร็จกับอัลบัมชุดแรก BARRY MANILOW I ในปี 1973 ด้วยเพลง
ONE OF THESE DAY และ COULD IT BE MAGIC ซึ่งในช่วงนั้นจัดว่าเป็นนักร้อง
ที่มีเสียงสมบูรณ์แบบ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งดนตรีที่ฟังง่าย และมีเนื้อหาสอดคล้อง
ทำให้เป็นที่ชื่นชอบ และมีแฟนเพลงติดตามผลงานของเขาอย่างต่อเนื่อง
THE ESSENTIAL จัดเป็นอัลบัมพิเศษ ที่รวบรวมบทเพลงของเขา ตั้งแต่อัลบัมชุดแรก
เรื่อยมากว่า 10 อัลบัม โดยเรียงตามลำดับตั้งแต่ BARRY MANILOW I (1973),
BARRY MANILOW II (1974), TRYIN' TO GET THE FEELING (1975),
THIS ONE'S FOR YOU (1976), ผลงานแสดงสด LIVE (1977), EVEN NOW
(1978), ONE VOICE (1979), BARRY (1980), IF I SHOULD LOVE AGAIN
(1981), HERE COME THE NIGHT (1982), อัลบัมรวมเพลง GREATEST HITS
VOL. II (1983), 2:00 AM PARADISE CAF'E (1984), MANILOW (1986) และ
SWING STREET ในปี 1987
หลายคนคงจะจำกันได้กับผลงานของเขาอย่าง MEMORY จากอัลบัม HERE COME
THE NIGHT หรือ READY TO TAKE A CHANCE AGAIN ซึ่งเป็นซาวน์ดแทรค
ในภาพยนตร์เรื่อง FOUL PLAY แต่ถ้าเป็นนักฟังเพลงในยุค 1970 ก็หวนอดีตได้กับ
COULD IT BE MAGIC จากอัลบัมแรก ซึ่งมีให้ครบถ้วนรวม 34 แทรค บรรจุเต็มใน
CD 2 แผ่น
------------------------------------------------
ศิลปิน : GIPSY KINGS
อัลบัม : THE VERY BEST OF
แนวเพลง : FLAMENCO
โปรย : "รวมเพลงเต้นรำในแบบสเปน"
GIPSY KINGS วงต้นตำรับที่นำดนตรีท้องถิ่นอย่าง FLAMENCO หรือ SPANISH
FOLK มาถ่ายทอดได้อย่างสนุกสนาน วงนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1970 ที่เมือง ARLES ทางตอนใต้
ของฝรั่งเศส เมื่อ 2 พี่น้อง NICOLAS และ ANDRE REYES ลูกชายของ JOSE REYES
ศิลปิน FLAMENCO ได้ร่วมกับเพื่อนๆ อย่าง MAURICE และ TONINO BALIARDO
รวมถึง LOS และ PATCHAI REYES ในกลุ่มเครือญาติ ซึ่งจัดว่าเป็นวงเริ่มแรกของ
ดนตรีประเภทนี้ และได้รับการขนานนามว่า GIPSY BAND
พวกเขาได้เดินทางไปแสดงดนตรีพื้นบ้านในงานเฟสติวัล และตามถนนดนตรี โดยไม่ต้อง
ใช้อุปกรณ์อีเลคทรอนิคส์ ด้วยดนตรีที่มีจังหวะสนุกสนาน และแตกต่างจากดนตรีทั่วไป
ทำให้ดูโดดเด่น ได้รับการชื่นชมจากผู้ที่พบเห็น และคนรักดนตรี ด้วยการใช้ชีวิตเหมือนกับ
กลุ่มคนยิพซี จึงได้ตั้งชื่อวงเป็น GIPSY KINGS ที่ดูยิ่งใหญ่
พวกเขาได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ร่วมกัน โดยมี LOS REYES เป็นผู้รวบรวมผลงานตลอด
การเดินทาง โดยครั้งหนึ่งได้เปิดโอกาสให้สมาชิกในวงได้ทำอัลบัม โดย TONINO
BALIARDO เล่นกีตาร์ และ NICOLAS REYES ร้องนำ ซึ่งได้รับความสนใจจากแฟนๆ
กลุ่มหนึ่ง จนกระทั่งในปี 1986 มาเข้าตาโพรดิวเซอร์ CLAUDE MARTINEZ ซึ่งสนใจ
และมองว่าสามารถยกระดับของวงขึ้นมาให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
CLAUDE MARTINEZ ได้ปรับให้พวกเขามีโทนเสียงร้อง และซาวน์ดดนตรีในแบบตะวันออก
ตอนกลาง ลาตินอเมริกา แอฟริกาเหนือ เน้นความสนุกสนาน และนักฟังทั่วไปสามารถเข้าถึง
ได้ง่ายขึ้น และในปี 1987 ผลงานแรกของพวกเขาก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงามด้วย
ซิงเกิล DJOBI DJOBA และ BAMBOLEO ได้รับการตอบรับทั้งในฝรั่งเศส และอังกฤษ
จากนั้นก็ไม่มีอะไรจะหยุดพวกเขา สำหรับอัลบัม THE VERY BEST OF เป็นการรวบรวม
ผลงานที่โดดเด่น 20 แทรค เข้าไว้ด้วยกัน ที่รับประกันว่าต้องขยับตาม
เรื่องโดย : รอคเกอร์ carstereo@autoinfo.co.th
นิตยสาร Carstereo ฉบับเดือน กันยายน ปี 2548
คอลัมน์ Online : ทั่วไป
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/10533