ทั่วไป
-
ศิลปิน : AMERICAN HI-FI
อัลบัม : HEARTS ON PARADE
แนวเพลง :PUNK ROCK
โปรย : "4 หนุ่ม PUNK ROCK ร่วมสมัย"
ในกลุ่มนักฟังเพลง มักเรียกขาน AMERICAN HI-FI ว่าเป็นกลุ่มนักดนตรีประเภท POP, POP PUNK, POP METAL BAND หรือแม้กระทั่ง ROCK N' ROLL หัวใจสำคัญของวง STACY JONES ได้เรียนรู้ และยอมรับถึงจุดเปลี่ยนผัน เขาเข้าถึงดนตรีตั้งแต่เด็ก ด้วยครอบครัวที่รักเสียงดนตรี มีผลงานมากมายกระจายอยู่ภายในบ้านและรถ พ่อของเขาร้องเพลงของ THE EAGLES, FLEETWOOD MAC, THE BEATLES, ELO, THE BEACH BOYS, THE ROLLING STONES อีกทั้งมีรูปของศิลปินเหล่านั้น
เขายังจำได้ถึงการไปนั่งหน้าชุดสเตริโอ เอาเฮดโฟนมาใส่ เคาะช้อนส้อมตามจังหวะที่ชอบอย่าง TUSK และ EVIL WOMAN เมื่อพ่อแม่มาเห็นเข้า หลังจากนั้นไม่นานจึงได้ซื้อกลองให้
พร้อมทำห้องเก็บเสียงส่วนตัว วงดนตรีเริ่มต้นขึ้นในโรงรถ ด้วยเพื่อนบ้านไฮสคูลรุ่นเดียวกัน
ซึ่งยังคงสนุกอยู่กับการเต้นรำ และ PARTY ในสวนหลังบ้าน หลายครั้งในห้องใต้ดิน
และหลายครั้งออกไปนอกสถานที่ อย่างในบาร์สำหรับงานใหญ่ๆ แต่เมื่อจบไฮสคูล
เขาได้ย้ายไปเรียนต่อที่บอสตัน
ตอนนั้นได้พบกับวงดนตรีชั้นนำมากมาย อย่าง THE PIXIES, THE LEMONHEADS, BUFFALO TOM และ JULIANA HATFIELD เขาโชคดีที่ได้พบกับกลุ่มนักดนตรีที่เหนือกว่า และมาหยุดอยู่ที่ศิลปิน 2 คนสุดท้าย คือ TANYA DONNELY และ AIMEE MANN อีกทั้งมาพบวงดนตรีตัวจริงอย่าง LETTERS TO CLEO และได้ร่วมเล่นในวงนี้อยู่หลายปี ทำให้มีงานเดินสายเล่นดนตรีไปทั่ว อีกทั้งเพิ่มดนตรีแบบของตัวเองลงไปในการแสดง ระยะหลังยังได้นำผลงานไปวางขาย
ระหว่างที่หยุดการเดินสายแสดง ได้มาร่วมตั้งวงกับเพื่อนที่เรียนบอสตันด้วยกัน ในนาม AMERICAN HI-FI และได้เพื่อนที่ดีที่สุดมาร่วมงาน ประกอบด้วย DREW PARSONS เล่นเบสส์วง TRACY BONHAM'S ได้ BRIAN NOLAN ที่ตีกลองในวง FIGDISH รวมถึง JAMIE ARENTZEN จากวงอินดี SKY HEROES เมื่อจบจากบอสตัน จึงได้ตัดสินใจเข้าห้องอัด ระหว่างนั้นก็แสดงผลงานตามบาร์ต่างๆ หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขามีซิงเกิลแรก FLAVOR OF THE WEAK ที่ได้รับความนิยม
THE ART OF LOSING เป็นอัลบัมที่ 2 โพรดิวศ์โดย NICK LAUNAY มีกลิ่นอายดนตรีเหมือนกับ OASIS ทำให้ได้รับความนิยมหลายเพลง และพวกเขาได้ทัวร์คอนเสิร์ทไปทั่วโลก สำหรับอัลบัมล่าสุด HEARTS ON PARADE มีหลายเพลงที่ติดหูรวดเร็วอย่าง THE GEEKS GET THE GIRLS, SOMETHING REAL, WE CAN'T BE FRIENDS และ HELL YEAH ! ซึ่งทั้ง 11 แทรค มีพื้นฐานมาจากดนตรี ROCK N' ROLL สนใจเข้าไปหาพวกเขาได้ใน www.americanhi-fi.com
-----------------------------------------
ศิลปิน : MY CHEMICAL ROMANCE
อัลบัม : THREE CHEERS FOR SWEET REVENGE
แนวเพลง : HEAVY METAL
โปรย : "จังหวะรวดเร็ว รุนแรง สะใจ"
ในบรรดาศิลปินที่มีกลุ่มคนเฉพาะ เหมือนกับเป็นลัทธิหนึ่ง กับแนวดนตรี ROCK หนักๆ
ที่แปรรูปไปเป็น HARD CORE และ SPEED METAL มีอยู่วงหนึ่งที่ติดอยู่อันดับต้นๆ นั่นคือ MY CHEMICAL ROMANCE ที่ได้รับการยอมรับในด้านของซาวน์ด ความสด
ที่เทียบวงรุ่นพี่ระดับแนวหน้าได้ ในการแสดงสดแต่ละครั้ง ต้องระเบิดพลังงานในตัวออกมา
ทั้งในด้านฝีมือ และสีหน้า ท่าทาง ทำให้วงนี้แจ้งเกิดอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในปี 2003
จากสหรัฐเมริกา ไปถึงยุโรป ยูเค เยอรมนี ฮอลแลนด์ และสเปน
MY CHEMICAL ROMANCE กำเนิดในแถบชานเมือง NEW JERSEY จากกลุ่มเพื่อนๆ
ตั้งแต่สมัยไฮสคูล ซึ่งตอนนั้นนับเป็นสีสันของวงระดับท้องถิ่น พวกเขาจะเล่นดนตรีในแบบของตัวเองทุกครั้ง จนกระทั้งจบไฮสคูล หลังจากนั้นก็ได้แยกย้ายกันไป มีทั้งที่เรียนต่อ และทำงาน เวลาผ่านไปอีกหลายปี ก็มีการติดต่อกันอีกครั้ง โดย GERAED WAY ทำงานเกี่ยวกับ
แอนิเมชันในนิวยอร์ค และได้ทาบทาม MATT PELISSIER ซึ่งมีโพรเจคท์ที่จะทำงานเพลง
หลังจากที่เริ่มเขียนเพลงกัน ก็ได้ทาบทามให้ RAY TORO มาร่วมเล่นกีตาร์ เพราะเห็นในฝีมือของเขา ทั้ง 3 คน ร่วมทำเพลงกันอยู่หลายเดือน ก็มีเดโมออกมา 1 ชุด ในช่วงฤดูหนาวของปี 2001 หลังจากนั้นไม่นานได้ร่วมงานกับ EYEBALL RECORDS ในเมืองบ้านเกิดของพวกเขาเอง และผลิตผลงานแรกในต้นปี 2005 แต่มีความรู้สึกว่าดนตรียังไม่สมบูรณ์ และได้ FRANK LERO มาช่วยเสริม และดูเรื่องซาวน์ด หลังจากนั้นอีก 2 สัปดาห์ จึงเริ่มอัดเสียงกันใหม่ จนกระทั่งผลงานออกมาสมบูรณ์แบบ ด้วยเนื้อหาของเพลงที่เขียนได้ถึงจิตใจ มีวิญญาณ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ปัจจุบัน MY CHEMICAL ROMANCE ประกอบไปด้วย GERAED WAY ในตำแหน่งร้องนำ RAY TORO เล่นกีตาร์ MIKEY WAY เบสส์ FRANK LERO กีตาร์ และ MATT PELISSIER กลอง สำหรับอัลบัม THREE CHEERS FOR SWEET REVENGE มีด้วยกัน 13 แทรค
ฟังมันตั้งแต่แทรคแรกถึงแทรคสุดท้าย สำหรับคอดนตรีหนักสะใจ ดูพวกเขาได้ใน
www.mychemicalromance.com
----------------------------------------------
ศิลปิน : GARBAGE
อัลบัม : BLEED LIKE ME
แนวเพลง : HARD ROCK
โปรย : "ริธึมที่อัดแน่น และหลากหลาย"
วันหนึ่ง GARBAGE ก็เริ่มงานอัดเสียงกันอีก ด้วยความมุ่งมั่น พวกเขาเปิดฉากด้วยซิงเกิล RIGHT BETWEEN THE EYES ภายในเวลา 30 นาที เป็นแทรคที่ 3 ในอัลบัม BLEED LIKE ME และดูเหมือนว่าอัลบัมชุดนี้จะไม่สำเร็จ มันเหมือนวงดนตรีที่ป่วย และกำลังต่อสู้กับโรคร้าย ด้วยการผ่าตัดใหญ่ ฝ่ายครีเอทีฟไม่เห็นด้วย เป็นข้อถกเถียงที่บานปลาย แน่นอนว่าไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบได้มาง่ายๆ แต่อัลบัมชุดนี้ ก็เป็นบทสรุปที่น่าสนใจ
แทรคแรก BAD BOYFRIEND เป็นดนตรีที่หนักมากเกินไป แทรค 6 METAL HEART
เหมือนกับว่าตั้งใจจะฉีกกฎเกณฑ์อะไรบางอย่าง รวมทั้งหลายแทรค กับหลายๆ อย่าง
ทำให้หาความโดดเด่นได้ยาก ต้องใช้ทีมงานจำนวนมากมาร่วมงาน ปรับหาจุดยืนที่ชัดเจน
ว่าจะเป็นวงดนตรีแนวไหน ? ในที่สุดโพรเจคท์นี้ก็ผ่าน โดยคงความเป็นพวกเขาอยู่กว่าครึ่ง
หลังจากผลัดเปลี่ยนกันทำงาน ก็เห็นความชัดเจนของสมาชิกในวง ประกอบด้วย SHIRLEY
MANSON, BUTCH VIG, STEVE MARKER และ DUKE ERIKSON ทำให้ได้รับสมญานามว่า เป็นวงดนตรีที่ประกอบด้วย โพรดิวเซอร์ 3 คน และผู้หญิง 1 คน โดย BUTCH VIG
มีประสบการณ์ด้านการตีกลอง ส่วน DUKE ERIKSON สามารถเล่นกีตาร์ในแนวดนตรี POP ได้ดี ซึ่งเคยร่วมงานกับวงดนตรี HARD CORE มาแล้วอย่าง KILLDOZER DIE KREUZEN
สำหรับ BLEED LIKE ME เป็นอัลบัมที่ได้รับความร่วมมือจากเพื่อนๆ หลายคนโดย SHIRLEY
MANSON ร้องนำ และเล่นอีเลคทริคกีตาร์ STEVE MARKER เล่นอีเลคทริค และอคูสติคกีตาร์ DUKE ERIKSON เล่นซินธิไซเซอร์ ส่วน BUTCH VIG เล่นอีเลคทริคกีตาร์ กลอง มิกซ์เสียง และโพรแกรมมิง รวมถึงเล่นเบสส์ในแทรค 5 ด้วย ส่วนเพื่อนๆ มี MATT WALKER และ DAVE GROHL มาตีกลองให้ JUSTIN MELDAL-JOHNSEN เล่นเบสส์ ทำให้เนื้อหาดนตรีทั้ง 11 แทรค อัดแน่นและหลากหลาย มีแบบฟังสบายๆ อยู่ 2 แทรค คือ IT'S ALL
OVER BUT THE CRYING และ HAPPY HOME ที่เป็นเสียงร้องใสๆ ดูเพิ่มเติมได้ใน
www.garbage.com
------------------------------------------------
ศิลปิน : TATA YOUNG
อัลบัม : I BELIEVE : THANK YOU EDITION
แนวเพลง : POP
โปรย : "อัลบัมพิเศษ หลังไปถึงดวงดาว"
เป็นที่ทราบกันดีสำหรับนักฟังเพลงไทยสากล กับสาวน้อยมหัศจรรย์ TATA YOUNG
ที่โกอินเตอร์ได้สำเร็จ ซึ่งต้องยอมรับในความสามารถ เธอก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว
เข้าสู่วงการเพลงด้วยวัยเด็ก กับค่ายยักษ์ใหญ่ในบ้านเรา แล้วแจ้งเกิดทันที
จากนั้นก็มีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดก็พร้อมจะโตตามความสามารถ
โดยเฉพาะการร้องเพลงสากล
เธอก้าวออกจากค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ โดยมีโพรเจคท์กับห้องอัดในต่างประเทศ
ซึ่งในช่วงนั้นก็มีผลงานเพลงมาให้ฟังอีก 1 ชุด กับอีกค่ายที่เปิดโอกาสให้เธอได้ทำงานในรูปแบบของตัวเอง ซึ่งก็ประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง หลังจากนั้นหลายปี ที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ และเข้าห้องอัดในต่างประเทศ ในบ้านเราก็มีข่าวคราวของเธออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องส่วนตัว ทำให้ความนิยมของเธอดูจะลดลง
หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็กลับมาพร้อมกับความฝันของเธอ ด้วยอัลบัม I BELIEVE ที่เปิดตัว
ซิงเกิลแรก SEXY, NAUGHTY, BITCHY และตามมาติดๆ ด้วย I BELIEVE ทำให้ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งในด้านการแต่งตัว และท่าเต้น ทำให้อัลบัมชุดนี้ได้รับความสนใจอย่างรวดเร็ว มีอีกหลายแทรคที่ได้รับความนิยม อาทิ I THINK OF YOU และที่ฮือฮาไปไม่นานกับเอมวี DHOOM DHOOM ที่มีความมั่นใจมากขึ้น และในที่สุดนักฟังเพลงบ้านเรา ต่างก็ยอมรับในความสามารถของเธอ จากนั้นเธอได้เดินทางไปทัวร์คอนเสิร์ททั้ง ไต้หวัน อินเดีย และญี่ปุ่น ล่าสุดเป็นคอนเสิร์ทในเมืองไทยให้แฟนๆ ได้ดูกันบ้าง
สำหรับ I BELIEVE : THANK YOU EDITION เป็นอัลบัมพิเศษขอบคุณแฟนเพลง ด้วยโบนัสแรก เพิ่มอีก 4 แทรค คือ DHOOM DHOOM กับ 3 ซิงเกิลฮิทในแบบเวอร์ชันญี่ปุ่น
นอกจากนั้นยังเพิ่มโบนัสที่ 2 กับเอมวี 6 แทรค ฮิท ทั้งในแบบทั่วไป และแบบญี่ปุ่น
ล่าสุดมีข่าวมาว่าหลังคอนเสิร์ทในบ้านเรา เธอกำลังเตรียมออกอัลบัมชุดใหม่ในแบบไทยสากลอีกครั้ง
เรื่องโดย : รอคเกอร์ carstereo@autoinfo.co.th
นิตยสาร Carstereo ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2548
คอลัมน์ Online : ทั่วไป
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/10464