ทั่วไป
-
ศิลปิน : JOHN FRUSCIANTE
อัลบัม : THE WILL TO DEATH
แนวเพลง : ROCK
"จังหวะหนักแน่น กีตาร์บาดใจ"
JOHN FRUSCIANTE ศิลปิน ROCK ที่ดูเหมือนจะเป็นปราชญ์ไปด้วยในตัว เป็นผู้ที่ยังคงสืบสานตำนานเพลง ROCK รุ่นเก่าเอาไว้ได้อย่างน่าทึ่ง แม้ในปัจจุบันดนตรี ROCK หนักๆ ดูเหมือนจะห่างหายไปจากตลาด แต่เขาก็ยังมุ่งมั่นเช่นเดิม ดังอัลบัมชุดนี้
"THE WILL TO DEATH" เป็นผลงานล่าสุด ไม่ได้ทำออกมาเพียงเพื่อชิมลาง เพราะบทเพลงของเขาเปิดตัวได้อย่างสวยงาม กับ 6 เพลงแรกที่ปล่อยออกมาก่อน และเต็มอัลบัมในกลางปีที่ผ่านมา ด้วย 12 บทเพลง ที่ทั้งหนักแน่น โหยหวน และมีจังหวะจะโคนเป็นเอกลักษณ์ ถูกใจบรรดาคอ ROCK ที่รอคอยกันมานาน
เขาได้ร่วมงานกับเพื่อนรัก JOSH KLINGHOFFER ร่วมกันบรรเลงดนตรีด้วยตัวเอง โดดเด่นมากใน
แทรค 11 "HELICAL" ร่วมกันโซโล และเกากีตาร์ตลอดเพลง ฟังดูคล้ายดนตรี CLASSIC ที่ฟังยาก
แต่เมื่อลองฟังดูจะได้รับรู้ความรู้สึกเหมือนกับอยู่ในเวลาจำกัด และหมดไป
สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้จากอัลบัมชุดนี้ เป็นชื่อเพลงที่ออกไปทางแง่คิดต่างๆ สะท้อนมุมมองของมนุษย์
แสดงความเป็นตัวตนจริงๆ ออกมา และหนีไม่พ้น ปกที่ดูเรียบง่ายเป็นกระดาษ ตัวเขายืนอยู่ระหว่างรูปปั้น แสดงอาการของมนุษย์ คงจะบอกว่าไม่ต้องพูดอะไรมากกับสัจธรรม ภายในบรรจุเนื้อเพลงเล่มเล็ก เป็นตัวเขียนลายมือ
ในด้านเนื้อหาดนตรี ไม่ได้เน้นแต่ความหนักหน่วงอย่างที่คิด เพราะมีจังหวะเนิบๆ หลายแทรค
รวมทั้งดนตรีออกใสๆ ฟังง่ายในบางแทรค คงความเป็นตัวตนของเขา คือ ริธึมที่เดินอยู่ทุกท่อน ไม่ขาดหาย นี่คือมนต์เสน่ห์ ในรูปแบบเฉพาะ เริ่มจากแทรคแรก "A DOUBT" แสดงถึงความไม่แน่ใจอะไรบางอย่าง ดนตรีเดินจนจบ แทรคที่ 2 "AN EXERCISE" กีตาร์คอร์ดแรงขึ้นในแบบ ALTERNATIVE แทรค 3 "TIME RUSH OUT" หันมาให้กลองเป็นตัวเดินจังหวะแทน
แทรค 7 "A LOOP" เป็นเพลงที่มีเสียงเอฟเฟคท์มากเป็นพิเศษ โหยหวนทีเดียว แทรคท้ายๆ
ดนตรีเบาและใสขึ้นออกไปทาง POP ROCK ฟังง่าย แทรค 10 "THE DAYS HAVE TURNED" เป็นเทคนิคการเกากีตาร์ในรูปแบบเฉพาะเต็มเพลง มีเสียงเครื่องเคาะตลอด ปิดท้ายด้วยไฮไลท์ของอัลบัม "THE WILL TO DEATH" ดนตรีฟังง่าย เคลิบเคลิ้ม แต่จริงๆ เน้นเนื้อหาที่เป็นแก่นแท้ และความเป็นจริงซึ่งหนีไม่พ้น ดูเพิ่มเติมได้ใน www.johnfrusciante.com
ศิลปิน : THE VON BONDIES
อัลบัม : PAWN SHOPPE HEART
แนวเพลง : ALTERNATIVE ROCK
"2 หนุ่ม 2 สาว ที่เข้าขาทางดนตรี"
THE VON BONDIES วงดนตรี 2 หนุ่ม 2 สาว สร้างผลงานในยุคที่ดนตรี ALTERNATIVE เฟื่องฟู
เมื่อปี 2000 แต่พวกเขาก็ไม่ลืมที่จะใส่สีสันแห่งความเป็น ROCK เข้าไปด้วย และก็ทำได้อย่างลงตัว จนทำให้เพลง "C'MON C'MON" ติดหูบรรดาขารอครุ่นใหม่ได้อย่างทั่วถึง รวมทั้งในบ้านเราด้วย
4 ชีวิตที่มุ่งมั่น ประกอบด้วย JASON STOLLSTEIMER ในตำแหน่งกีตาร์ และร้องนำ MARCIE
BOLEN ตำแหน่งกีตาร์ CARRIE SMITH ตำแหน่งเบสส์ และ DON BIUM ตำแหน่งมือกลอง
ที่เข้าขากันได้เป็นอย่างดี ในแนวดนตรี ALTERNATIVE ROCK หนักหน่วง และกระชั้นตามแบบเด็กรุ่นใหม่ ในยูเค
หลังจากรวมตัว พวกเขาก็ตั้งใจว่าจะเป็นวงเล่นสดให้ดีที่สุด และออกหาประสบการณ์ตามผับ
และมันก็คือที่มา ที่ทำให้วงนี้เข้าสตูดิโอ ขณะที่พวกเขาออกทัวร์เพื่อแสดงสด ทั้งในอเมริกา ยุโรป และยูเค ตลอดเวลา 2 ปี วงนี้ได้รับการยอมรับว่ามีเอกลักษณ์ทางดนตรีเป็นของตัวเอง ครบถ้วนทั้งแบบแนว GARAGE ดิบๆ เนื้อแท้ของ PUNK และ SOUL แบบของจริง ผสมผสานลงตัวให้เห็นอย่างชัดเจน สามารถสร้างอารมณ์ร่วม ในแต่สภาพแวดล้อมของคนดู
อัลบัม "PAWN SHOPPE HEART" เป็น 12 บทเพลงออริจินอล ที่มีพลังอำนาจกินใจ รวมกันเป็นอัลบัมที่ทำให้พวกเขาเป็นที่รู้จัก โพรดิวศ์โดย JERRY HARRISON ได้ธีมมาจากความคิด ความตั้งใจของเด็กรุ่นใหม่ และความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยม รวมถึงแฟชันที่พวกเขามีกัน โดยเฉพาะที่ยูเค
กลุ่มนี้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว จากเด็กวัยรุ่นที่มีค่านิยมเฉพาะของตัวเอง ถึงจะออกนอกกรอบไปบ้าง แต่ก็มีความเนี้ยบ ทั้งในด้านการแต่งกาย ความเป็นตัวของตัวเอง
แทรคแรก "NO REGRETS" ที่ฟังดูเหมือนแนวดนตรี HARD ROCK มีเสียงกีตาร์ริธึมหนักแน่นเป็นตัวเดินจังหวะ ตามด้วย "BROKEN MAN" แทรคที่เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนเพลงที่นักฟังบ้านเรารู้จักกันดี "C'MON C'MON" เป็นแทรคที่ 3 ของอัลบัมนี้ และที่ต้องยอมรับในฝีมือเป็นแทรค "MAIREAD" ที่ต้องเล่นกันนาน 5 นาทีกว่า แสดงพลังเสียงร้องได้อย่างน่าทึ่ง รวมถึงอีกหลายแทรค ในรูปแบบของพวกเขา ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน www.vonbondies.com
ศิลปิน : CHER
อัลบัม : LIVE THE FAREWELL TOUR
แนวเพลง : POP ROCK
"ผลงานแสดงสด กับประสบการณ์อันยาวนาน"
CHER ศิลปินหญิงที่ประสบความสำเร็จในวงการเพลงมายาวนาน ที่โดดเด่นเป็นผลงานการแสดงของเธอ ที่ดูอลังการ จนหลายๆ การแสดงนำเอาผลงานของเธอมาลิพซิงอย่าง "BELIEVE"
ที่คุ้นเคยกันดีในบ้านเรา
"LIVE THE FAREWELL TOUR" คือผลงานล่าสุด ที่สะท้อนความมหัศจรรย์ในตัวเธอนับ 40
ปีที่ผ่านมา ผลงานการแสดงสด ที่รวบรวมเอาพลังสีสันในตัวเธอ ทั้งการออกแบบ ชุดเสื้อผ้า
และลีลาที่จะหยุดทุกสายตาให้รวมเป็นหนึ่งเดียว เป็นต้นฉบับคอนเสิร์ทความประทับใจที่ออกอากาศพิเศษทาง NBC ใน MIAMI มันรวบรวมเอาผลงานในทุกแขนงที่เธอเกี่ยวข้อง และประสบความสำเร็จทั้งจากบทเพลง ทีวี และภาพยนตร์
อัลบัมนี้ไม่เหมือนทัวร์คอนเสิร์ทโดยทั่วไป แต่รวบรวมเอาความสำเร็จมากกว่านั้น เพราะเธอผ่านการแสดงมากกว่า 150 ครั้ง และเฉพาะในตอนเหนือของอเมริกา เธอมีแฟนเพลงมากกว่า 1.5 ล้านคน เป็นครั้งหนึ่งที่รวบรวมเอาผลงานจากทั้งหมด ตลอดเส้นทางดนตรีของเธอ ที่เน้นความสามารถโดยเฉพาะ และแม้จะไม่ได้อยู่อย่างถาวร แต่ก็สร้างความประทับใจได้เสมอ
"LIVE THE FAREWELL TOUR" เป็นการรวบรวมเอาผลงานการแสดงสดของเธอ และผลงานเพลงที่ประสบความสำเร็จเข้าไว้ด้วยกัน 18 เพลง อาทิ "STRONG ENOUGH" "THE SHOOP SHOOP SONG" "IF I COULD TURN BACK TIME" และแน่นอนกับ "BELIEVE" ที่จัดไว้เป็นแทรคสุดท้าย
นอกจากเพลงดังในยุคหลังๆ แล้ว อัลบัมนี้ยังรวมเอาเพลงในยุคแรกๆ ของเธอไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น
"HALF-BREED" "GYPSIES, TRAMPS & THIEVES" และ "DARK LADY" ทั้งหมดจะออกมาในแนว POP ROCK ที่ฟังสนุก แต่อาจรู้สึกสะดุดบ้างกับเสียงผู้ชมในแบบแสดงสดที่ขาดหาย
แต่ก็เป็นอัลบัมที่น่าฟัง และน่าสะสม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน www.cher.com
ศิลปิน : MR. BIG
อัลบัม : GREATEST HITS
แนวเพลง : ROCK
"รวมเพลง ROCK สะใจ กินใจ"
สำหรับวงดนตรี ROCK METAL วงนี้ คงเป็นที่รู้จักกันดี สำหรับนักฟังหลายๆ กลุ่ม
เพราะพวกเขาในนาม MR. BIG ได้สร้างผลงานเอาไว้หลายอัลบัม และก็ได้รับความนิยมมาโดยตลอด ถึงแม้ว่าแนวดนตรีหนักหน่วงจะไม่ได้รับความนิยมโดยทั่วไปในขณะนี้ แต่ผลงานกินใจของเขาที่ไม่หนัก ก็ยังคงได้ยินกันอยู่เสมอ
MR. BIG เป็นกลุ่มดนตรีที่ต่างมีฝีไม้ลายมือในแบบของตัวเอง และร่วมกันเล่นสดเป็นวงได้แม่นยำ
ประกอบด้วย ERIC MARTIN ตำแหน่งร้องนำ PAUL GILBERT ตำแหน่งกีตาร์ และร่วมร้อง BILLY SHEEHAN ตำแหน่งเบสส์ และร่วมร้อง PAT TORPEY ตำแหน่งกลอง และร่วมร้อง RICHIE KOTZEN มาร่วมเล่นกีตาร์ และร้อง ใน 2 อัลบัมล่าสุด
พวกเขาดังอย่างรวดเร็วตั้งแต่เริ่มงานดนตรี ด้วยเพลง "TO BE WITH YOU" ที่ฟังง่าย
และเข้าถึงกลุ่มนักฟังเพลงได้อย่างทั่วถึง ทำให้ได้แฟนเพลงทั้งกลุ่ม POP, ROCK และ METAL ด้วยดนตรีที่มีทั้งฟังสบาย สนุกสนาน รวดเร็วแบบสปีด ที่มีเสียงกีตาร์สะใจ และโซโลยาวๆ หรือฮาร์ดคอร์ดตลอดเพลง แต่โดยรวมจะหนักๆ เสียมากกว่าตามสไตล์ของพวกเขา
"GREATEST HITS" เป็นอัลบัมพิเศษ
ที่ทำขึ้นมาเพื่อรวบรวมเอาผลงานที่ได้รับความนิยมเข้าไว้ด้วยกันถึง 15 เพลง และเพลงใหม่อีก 2 เพลง คือ "SHINE" และ "SUFFOCATION" เอาไว้ในตำแหน่ง 2 แทรคสุดท้าย และ
3 แทรค ที่ยังคงอยู่ในใจนักฟังหลายๆ คน อย่าง "JUST TAKE MY HEART" "TO BE WITH YOU" และ "WILD WORLD" ก็ต้องมีอยู่ในอัลบัมนี้แน่นอน สำหรับแทรคที่เหลือบอกได้คำเดียวว่าหนักหน่วง ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ใน www.mrbigsite.com
เรื่องโดย : รอคเกอร์
นิตยสาร Carstereo ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2547
คอลัมน์ Online : ทั่วไป
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/10201